ปู๊น…ปู๊น… ถ้าได้ยินเสียงแบบนี้ แน่นอนว่าจะเป็นเสียงอะไรไปไม่ได้นอกจากเสียงของรถไฟ หลังจากที่่การรถไฟแห่งประเทศไทยเปิดตัวรถไฟขบวนใหม่ที่เปิดให้บริการเส้นทางสายต่างๆ ก็ได้รับเสียงฮือฮาไปในเชิงบวก ที่ฮือฮาก็เพราะว่ารถไฟขบวนใหม่นั้นพลิกโฉมรถไฟไทยชนิดที่ว่าตรงกันข้ามหมดเลย รถไฟใหม่ สะอาด บริการดี แถมถึงตรงเวลาอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน  สิบปากว่าไม่เท่ากับไปพิสูจน์ด้วยตัวเองเลยจริงๆ ว่าแจ่มจริงไหม ‘ขบวนรถด่วนพิเศษอุตราวิถีที่ 9’ ขบวนนี้มีทั้งสิ้น 10 คัน กับหนึ่งหัวลาก แบ่งเป็นรถไฟชั้น 1 จำนวนหนึ่งคันรถไฟชั้นสอง 9 ตู้ เป็นคัน ตู้เสบียงหนึ่งคัน ข้างรถไฟจะมีป้ายไฟแอลซีดี ดูไฮโซคอยติดข้อมูลของขบวนไว้ว่าตู้ที่เท่าไหร่เดินทางไปไหน จะได้ไม่หลง พร้อมมีพนักงานประจำอยู่ทุกขบวน รถไฟของเราออกตอน 18.10 น. จุดหมายปลายทางของเราคือจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งพอพึงเวลาปุ๊บออกเลยไม่มีรีรอ



ด้านในของขบวนรถไฟ ดูสะอาด และมีเสียงเพลงคลอเบาๆ พร้อมเสียงประชาสัมพันธ์ สำหรับขบวนที่เราเลือกใช้บริการเป็นแบบชั้น 2 ไม่ได้แบ่งเป็นห้อง มีเตียงบนและเตียงล่างพร้อมม่านปิดเพื่อความเป็นส่วนตัว ตอนยังไม่กางเตียง เตียงก็จะมีสภาพเป็นเบาะสีแดง
 
พอขึ้นรถปุ๊บ ก็จะมีน้ำบริการให้คนละ 1 ขวดเล็กๆ แพคเกจน่ารักมากๆ มองไปด้านด้านบนมีจอแอลซีดี ขนาดน่ารักเอาไว้บอกสถานะของรถไฟเฉย ช่วงหัวค้ำมีเปิดละครให้ดูด้วยนะ แต่ฟังไม่ค้อยรู้เรื่องเท่าไรนักเพราะเสียงรถไฟดังพอสมควร

นั่งไปสักพักดูก็เริ่มหิวเพราะตอนที่ออกจากหัวลำโพงก็ 18.10น. ว่าแล้วก็ไปเยี่ยมชมตู้เสบียงกันสักหน่อย…อิอิ  ตู้เสบียงจะอยู่กลางขบวนเดินไป 2-3 ตู้จากตู้ที่เราอู่ไม่นานก็ถึง  ภายในมีที่นั่งไม่เยอะมากเท่าไหร่ หากคนมาพร้อมกันก็คงจะวุ่นวายมาก เพราะทุกคนจะมาออเพื่อแย่งสั่งอาหาร  ตู้เสบียงนี้เป็นตู้ใหม่เอี่ยม มาพร้อมกันกับรถไฟนี้ทั้งขบวน สภาพจึงใหม่ดูดี ในคันนี้มี Wi-Fi ด้วย แต่ความเร็วอยู่ในระดับที่เอาน่า…ขอละไว้ในฐานที่เข้าใจ 555


สำหรับอาหารบนตู้เสบียงมีเมนูให้เลือกไม่มาก อาหารก็จะเป็นอาหารแช่แข็งแล้วเอามาเข้าเวฟง่ายๆ เหมือนไปซื้อข้าวที่ 7-11 ทาน ราคาไม่แพงกว่า 7-11 มากเท่าไหร่  อ่อ!!! นอกจากอาหารกล่องแล้ว ยังมีพวด ขนมจีบ ซาลาเปา เมนูเครื่องดื่มก็มีให้เลือกตั้งแต่กาแฟสด ชา น้ำอัดลม หรือเครื่องดื่มพวกน้ำสมุนไพรจำพวก น้ำกระเจี๊ยบ น้ำลำใย น้ำเก็กฮวยก็มีนะคะ แต่แหมแอบกระซิบนิดนึงว่าเครื่องดื่มที่กล่างมานี้ ราคาแอบสูงไปนิดดดดด แต่ถ้าคิดซะว่าลงไปซื้อเองไม่ได้ ก็จะสบายใจ 555 เมื่ได้อาหารแล้วก็จัดแจงหาที่นั่ง


เกือบลืมไป…เมนูที่ถูกอกถูกใจพวกเราในการเดินทางครั้งนี้ เห็นจะเป็นเมนู “ไก่ย่างเขาสวนกวางนี่ละ” ราคาตัวละ 250 บาทไทย ส่วนรสชาตินั้น…ต้องมาลองชิมเองนะคะ ^^

ทานอิ่มแล้ว ก็เดินกลับกัน ระหว่างเดินกลับไปที่ตู้นอนของตัวเองก็แวะถ่ายรูปประตูสักหน่อย ประตููของขบวนนี้เป็นแบบสัมผัส แตะที่ปุ่มเขียวประตูจะเปิดออกเบาๆ โครตเท่ นี่ชอบมาก อยากจะยืนเปิดๆ ปิดๆทั้งวัน

แวะมาดูห้องน้ำกันบ้าง โซนอ่างล้างหน้าทำออกมาได้ดูดีมีความแพงมากๆ โดยโถส้วมใช้ระบบเดียวกับบนเครื่องบินเลย แต่ติดตรงที่แคบไปนิด คนที่ตัวใหญ่(เช่นเรา)อาจจะเกิดความลำบากได้ มีคนบอกว่ามีห้องอาบน้ำด้วยแต่เราหาไม่เจอ สงสัยจะอยู่ชั้น 1 T^T


พอเดินมาถึงที่ของเราก็ได้เวลาปูเตียงพอดี พี่พนักงานที่ปูเตียงให้เราแม้จะเป็นผู้หญิงแต่ก็จัดการเปลี่ยนเบาะที่เรานั่งมา ให้เป็นเตียงนอนได้ในพริบตาราวกับเนรมิตร ปูเสร็จแล้วก็น่านอนมากๆ ผ้าห่ม ปลอกหมอน ผ้าปูุสะอาดมีกลิ่นหอม และถูกแพคอย่างดีก่อนที่จะมาปูให้เรา


ด้านข้างของที่นอนมีไฟดวงเล็กให้ด้วยนะคะ เผื่อยังไม่อยากจะนอน อาจจะอ่านหนังสือหรืออะไรก็แล้วแต่ แต่ที่ชอบมากๆ ก็ตรงมีปลั๊กไฟให้นี่ละคะ ทีนี้เราก็ไม่ต้องกังวลว่าแบตมือถือจะหมด หรือไม่มีที่ชาร์จ แหม..สะดวกสบายจริงๆนะคะนี่

หลังจากผ่านการเดินทางที่แสนยาวนาน กว่า 12 ชม. เราก็ถึงจุดหมายปลายทาง สำหรับการเดินทางในครั้งนี้ เต็ม 10 ให้ 9.5 ค่ะ ที่ให้ 9.5 เพราะนอนไม่ค่อยหลับ อาจเป็นเพราะเสียงดังไปนิด (เอ้า!!! ก็รถไฟนี่เนอะ) 5555 แต่เอาเป็นว่ารวมๆแล้ว สุดยอดไปเลยค่ะ

ด้านล่างคลิปการปูที่นอนบนรถไฟไทย แอบถ่ายไว้ เป็นที่ระลึกค่ะ พี่เค้าเก่งจริงๆนะ