เตรียมกาย เตรียมใจรับปีใหม่
สัปดาห์ก่อนห้องสมุดของเราได้มีการจัดสัมมนาประจำปี ซึ่งปีนี้ต่างจากปีก่อนๆคือเป็นการสัมมนาวันเดียวจัดอยู่ในหน่วยงาน คณะกรรมการฯ ได้กำหนดหัวข้อโดยให้ผู้อำนวยการสำนักหอสมุดกลาง เป็นวิทยากรหลัก โดยให้พูดเรื่อง “การเตรียมความพร้อมของบุคลากร เพื่อรองรับการเป็นห้องสมุดมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ” เนื้อหาสรุปแบบสั้นๆ ประสาดิฉันคือ เป็นการส่งสารเพื่อเตือนให้บุคลากรพัฒนาตนเองให้ทันยุค ทันเหตุการณ์และพร้อมที่จะเปลี่ยนตัวเองให้ดีขึ้น
โลกในอนาคตค่อนข้างน่าวิตกกังวล เพราะอะไรที่เดิมๆ จะเปลี่ยนไปทั้งในเรื่องของวิธีคิดและวิธีการทำงาน หากไม่เข้าข้างตนเองจนเกินไปก็จะมองเห็นและเข้าใจโลก ความเข้าใจจะทำให้เราระมัดระวังและคิดถึงอนาคตมากขึั้น
เดิมๆ ดูได้จากอะไรที่เหมือนเดิมในสิ่งที่น่าจะเปลี่ยนได้โดยไม่มีผลกระทบและทำให้ชีวิตเราดีขึ้นหรือมีบทเรียน เช่น ยังกินข้าวร้านไหนร้านนั้น ทำให้เราไม่รู้ว่ายังมีอาหารอร่อยอีกร้าน ยังเดินวนซ้่าย ทั้งที่วิวด้านขวาอาจสวยกว่า เป็นต้น หากเป็นเรื่องงาน ก็อาจดูได้จากเรื่องเดิมๆ มาพร้อมกับปัญหาเดิมๆ ไม่มีอะไรเพิ่มเติมที่ให้เรามีความสุขมากขึ้น ผลคือทุกข์แบบเดิม จนชิน!!
และจะมีคนที่ไม่ชินเข้าไปจัดการ ให้ทำแบบที่ต่างจากเดิม
วันนี้ (30 มกราคม 2559) เป็นพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยศิลปากร เป็นงานที่ดิฉันชอบดูเพราะแต่ละปีๆ จะมีการบริหารจัดการอะไรๆที่เปลี่ยนไป เช่น เรื่องการจราจร ซึ่งเข้าใจว่าต้องมีการปรับเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลาเพื่อหาวิธีการที่ดีที่สุด
ปีนี้เสียงตามสายมีภาษาในประเทศอาเซียนเข้ามานอกเหนือจากภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ร้านขายผลไม้ถามว่า พี่ได้ยินป่าวว่าปีนี้มีหลายภาษา
ปีที่แล้วอะไรๆ ก็ Start up ปีนี้ ไทยแลนด์ 4.0 ปีหน้ายังไม่ทราบว่าจะมีเรื่องอะไรให้เราได้เรียนรู้กันอีก คอยฟังจากลุงตู่ทุกวันศุกร์ก็จะทราบเองว่าจะไปทางไหน แล้วเราต้องเรียนรู้อะไรเพิ่มเติม
หลายเดือนก่อนได้อ่านบทความเรื่อง มหาวิทยาลัยไทยจะอยู่รอดได้หรือไม่? ส่วนเมื่อ สองวันก่อนได้อ่านบทความเรื่อง อาจารย์มหาวิทยาลัยไทยต้องปรับตัว พัฒนาตนเองและเตรียมตัวตกงาน อ่านดูแล้วให้ความรู้สึกว่ากลิ่นอายคล้ายกัน จึงไปดูที่ชื่อผู้แต่งพบว่าเป็นงานเขียนของ อาจารย์ ดร. อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ จากสาขาวิชาวิทยาการประกันภัยและการบริหารความเสี่ยง คณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ อ่านบทความฉบับเต็มของทั้งสองเรื่องได้ที่ http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9590000051896 และ http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9590000129178
เรื่องราวแบบนี้ฮิตขนาดไหนลองดูจากกูเกิล
ส่วนเรื่องนี้พาดหัวข้อได้โหดมาก “10 ปี อันตรายใกล้เวลาฝังกลบ มหา’ลัยไทยในธุรกิจการศึกษา” ลองอ่านดู http://www.unigang.com/Article/3178
10 ปี หากนับจากตอนนี้คงต้องคิดว่าเราจะอยู่ตรงไหนในโลกใบนี้ ดูคร่าวๆ คงเป็นอีกกลุ่ม “ยังเจน” ที่ดิฉันแบ่งไว้อย่างคร่าวๆ โดยส่วนตัวเชื่อว่า เวลากับองค์กรและตัวตนของพวกเขา คงจะบ่มเพาะให้เติบโตได้อย่างแข็งแรงและแกร่ง
อ่านแล้วมีสิ่งที่เราได้ศึกษาเพระามีผลกระทบกับตัวเราเช่น สังคมผู้สูงอายุ รายได้ของมหาวิทยาลัย การปรับตัวของอาจารย์ แม้จะไม่ได้พูดถึงสายสนับสนุนแต่เราคงรอดยากหากทำอะไรแบบเดิมๆ หากใครมีเพื่อนอยู่ในมหาวิทยาลัยเอกชนก็ลองถามเพื่อนดู ข้อสังเกตของดิฉันแบบใกล้ๆตัวคือ จำนวนกรรมการคุมสอบน้อยลง มหาวิทยาลัยเปิดหลายรอบ โรงอาหารแน่นเฉพาะเปิดเทอมและโล่งๆ ในระยะเวลาไม่นาน ใกล้เข้ามาอีกนิดคือจำนวนผู้ใช้ห้องสมุด จำนวนการยืมหนังสือ จำนวนปริมาณงานที่เราเคยทำเมื่อเปรียนเทียบกับเมื่อสามปีที่แล้ว แนวโน้มของการลดลงๆ ในหลายเรื่องใกล้เข้ามาแบบหายใจรดคอ
เราอยู่ไม่ได้หากทำอะไรแบบเดิมเดิม เราต้องรู้จักปรุงรส เพิ่มสีสัน อะไรๆ ลงไป
เป็นพี่ต้องดูแลน้อง เป็นน้องต้องฟังพี่ เป็นเรื่องความเป็นอยู่แบบไทยทั้งสิ้น คิดถึงผู้อำนวยการท่านเก่าที่มักบอกให้ดิฉันไปอ่านสุภาษิตคำพังเพย และบอกว่าคิดและทำตามนั้น (ต้องรู้จักเลือกนะจ๊ะ)
เพราะความไม่แน่นอน คือ ความแน่นอน เช่น เงินทั้งหลายที่หลายคนควรได้ยังได้ไม่พร้อมกัน 😳 และเมื่อถึงจุดนั้นคนที่ได้ช้าและต้องการใช้ก็ต้อง “ทำใจ”
ไม่อยากให้คำว่า ่อ่อนแอก็แพ้ไป ของดาราวัยรุ่นชื่อดัง เข้ามาอยู่ในชีวิตของเรามากนัก
คุณสหฤท สยามวาลา บอกว่าเฟสบุ๊คว่า “ปีใหม่นี้อย่าดูถูกตัวเองนะครับ อะไรก็เป็นไปได้ถ้าอยากทำจริงๆ ผมใช้คำว่าอยากทำจริงๆ เพราะผมเองหลายครั้งก็สัญญากับตัวเองในสิ่งที่ไม่อยากทำแล้ว ก็นั่งบอกตัวเองว่ามันไม่สำเร็จ…”
เรื่องนี้เลยที่อยากทำ!!! ฮึบฮึบ
โลกของพุงนี่ไม่สวยเอาซะเลย
One thought on “เตรียมกาย เตรียมใจรับปีใหม่”
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.
ตัวเองเป็นอีกคนที่กลัวเรื่องของความไม่แน่นอน มักสอนลูกให้พึ่งพาตนเองได้ไม่รบกวนคนอื่นมักพูดเสมอว่าพ่อกับแม่ไม่ได้อยู่กับลูกตลอดไป ส่วนเรื่องการทำงานเห็นจากประสบการณ์ของตนเองอาจารย์มหาวิทยาลัยทำงานหนักมากดูจากคนที่บ้านเป็นต้น ลูกๆมักพูดเสมอว่า เห็นแม่ไม่หยุดแลัว พ่อนี่ไม่เคยมีวันหยุดเลย สามีมักสอนลูกว่าเราต้องสร้างคุณค่าให้ตัวเอง ถ้าคนอื่นเห็นค่าของเรา เราจะอยู่รอด คืนวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่นอนคุยกับลูกสาวคนโต รู้สึกว่าความคิดลูกโตขึ้นเยอะ เค้าเข้าใจสิ่งที่พ่อแม่เป็นสิ่งที่พ่อแม่ทำ รู้สึกภูมิใจจัง