วังเทพทาโร : ไม้หอมมงคลมหัศจรรย์
วังเทพทาโร : ไม้หอมมงคลมหัศจรรย์
เมื่อวันอาทิตย์ที่ 20 พฤศจิกายน 2559 ได้มีโอกาสไปเที่ยวชมวังเทพทาโร ไม้หอมมงคลมหํศจรรย์ จังหวัดตรัง เนื่องจากไปร่วมพิธีฌาปนกิจศพคุณแม่ของเพื่อนที่จังหวัดตรัง มีเวลาในวันกลับ จึงได้ไปชมวังเทพทาโร ทีแรกที่ยังไม่เห็นของจริงว่าเทพทาโรคืออะไร เขาบอกสวยงามมาก ๆ เมื่อมาถึงก็ต้องตะลึงในความสวยงาม และมหัศจรรย์จริง ๆ ที่คนนำรากไม้ ต้นไม้ที่แห้งแล้ว มาคิดค้น ประดิษฐ์ต่อกันจนเป็นรูปร่างของพญามังกร ในลักษณะท่าทางต่าง ๆ กัน ทั้งตัวเล็กและตัวใหญ่ และยังเป็นสิ่งที่เป็นมงคล ให้ผู้ที่ไปพบเห็นได้กราบไหว้บูชา และขอพรเพื่อเป็นสิริมงคล และความโชคดี สถานที่แห่งนี้เปิดให้เข้าชมฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด เป็นของ ( นายจรูญ แก้วละเอียด ครูวิชาภาษาอังกฤษ โรงเรียนห้วยยอด โรงเรียนระดับมัธยมศึกษาประจำอำเภอห้วยยอด ศิลปินพื้นบ้านจังหวัดตรัง สาขานันทนาการ ประจำปี 2543 ใช้เงินที่ได้รับหลังการเกษียณ เนรมิตพื้นที่ 25 ไร่ ในหมู่ที่ 5 ตำบลเขากอบ อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง ด้วยการกว้านซื้อรากไม้เทพทาโร 5 รถบรรทุก ประดิษฐ์คิดค้นประกอบขึ้นเป็นมังกรในท่าทางต่างๆ จำนวน 84 ตัว เพียงคนเดียวนานถึง 2 ปี เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวโรกาสเฉลิมพระชนมายุ 84 พรรษา ในปี 2554 ด้วยตระหนักถึงความสำคัญของไม้เทพทาโร หรือ จวงหอม ซึ่งเป็นไม้หายากขึ้นในป่าลึก และพบได้ในพื้นที่ จังหวัดตรัง และพังงา ทำให้เทพทาโรเป็นไม้เศรษฐกิจที่มีความพิเศษใช้ประโยชน์ได้จากหลายส่วนของต้น และมีความเชื่อว่าไม้เทพทาโรเป็นไม้มงคล และพิเศษที่หายากมีเฉพาะในบางพื้นที่ของภาคใต้ของไทยเท่านั้น จึงได้ทำการเพาะต้นเทพทาโร แล้วปลูกเป็นสวนใหญ่ประมาณ 300 ต้น จัดบริเวณพื้นที่ด้วยการปลูกพืชหลายชนิด เรียกว่า “วังเทพทาโร” )
(คัดลอกข้อมูลมาจาก http://www.touronthai.com/
คนภาคใต้ โดยเฉพาะที่มีภูมิลำเนาแถบจังหวัดพังงาและตรัง ได้ยินชื่อเทพทาโร จะเข้าใจว่าหมายถึงอะไร คนถื่นอื่นอาจไม่ทราบ ต้นไม้นี้ เป็นไม้มงคลพระราชทานประจำจังหวัดพังงา เมืองตรังเอามาแกะสลัก ทำรูปเคารพ เป็นของมีค่าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (โอทอป) ราคาสูงไม่ใช่เล่น และความที่ส่วนใหญ่ไม่รู้จัก จึงไม่มีการปลูกทดแทน ที่มีในป่าก็เป็นไม้เก่า โดนตัดวนเหลือแต่ตอ ชาวบ้านที่รู้ค่าก็เอามากลั่นเป็นน้ำมันหอมระเหย บอกแค่นี้ คงเห็นคุณค่าแล้วว่า เทพทาโร ไม่ใช่ไม้ป่าธรรมดา… เทพทาโรมีความมหัศจรรย์ถึง 6 ประการ คือ 1. ทุกส่วนไม่วาจะเป็นเนื้อไม้ ลำต้น ใบ ดอก ราก สกัดทำมันหอมระเหยได้ ผลให้น้ำมันสูงสุดตั้งแต่ 3.5 – 10 เปอร์เซน๖ ใบแห้งจะได้น้อยที่สุด 2. ใบและผลมีกลิ่นต่างกันถึง 4 แบบ ได้แก่ รูทเบียร์ มีฤทธิ์ต้านเชื้อราและแบคทีเรียที่ทำให้เกิดโรค แก้ปวด แก้อักเสบ กลิ่นตะไคร้ ต้านเชื้อราและไล่แมลงได้ ป้องกันยุงและแมลงกัดต่อย ทำผลิตภัณฑ์ได้หลายอย่าง เช่น น้ำมันนวดสปา ยาหม่อง กลิ่นเม็ดขาว กลิ่นดอกไม้ผสมเครื่องเทศ ก็มีองค์ประกอบทางเคมีที่แตกต่างกัน 3. เปลือกรากและเนื้อไม้ มีเฉพาะกลิ่นเทพทาโรเท่านั้น 4. เนื้อไม้เอามาแกะสลัก เศษไม้ทำน้ำมันหอมระเหยกากที่เหลือผลิตเป็นธูปหอม และกำยาน 5. น้ำมันที่บีบจากผลก็มีสรรพคุณมากมาย เช่น รักษาแผลสด แผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก ท้องเฟ้อ ปวดเมื่อย ไปจนถึง 6. น้ำมันหอมระเหย สร้างอาชีพเพิ่มรายได้ ยานวด แชมพูสระผม และโลชั่นกันยุง ทั้งหมดนี้เป็นคุสมบัติของเทพทาโรไม้หอมมงคลมหัศจรรย์ เจ้าของคอลัมภ์ฟ้ากว้าง จากหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ “เทพทาโร : ไม้หอมมงคลมหัศจรรย์” วีระพันธ์ โตมีบุญ Veeraphan T@Gmail.com http://twitter.com/vp2650 (คัดลอกข้อความบางส่วนมาจากแผ่นพับของวังเทพทาโร อ. ห้วยยอด จ. ตรัง)
ศาลาจวงหอม เป็นศาลาที่อยู่ใกล้ๆ กับศาลาเศรษฐกิจพอเพียง อาจารย์จรูญใช้ศาลาจวงหอม เป็นสถานที่ต้อนรับแขก มีชาให้ชิม มีม้านั่งที่แกะสลักเป็นมังกร โดยมีพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อยู่ในศาลา
มังกรจำนวนมากที่ต่อตัวเรียงกัน 2 ข้างของสนามหญ้า หันหัวเข้าหากัน เว้นช่องตรงกลางมีป้ายไม้ใหญ่ๆ ข้อความว่า กราบแผ่นดิน ด้วยเจตนารมณ์ของอาจารย์จรูญ ที่สร้างซื้อรากไม้เทพทาโรเหล่านี้ด้วยราคากว่า 2 ล้านบาทจากเงินที่ได้รับเมื่อเกษียณราชการ น้ำหนักของไม้เทพทาโรที่ซื้อมา ประมาณได้ว่า 5 แสนกิโลกรัม ใช้จินตนาการของตนเองในการทำให้เป็นมังกร เพราะเชื่อว่ามังกรเป็นสัตว์มงคล ที่รู้จักกันดีในหลายๆ ประเทศ เมื่อสร้างมังกรแล้ว ย่อมเป็นไปได้ว่าจะมีนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศให้ความสนใจและเดินทางเข้ามาเที่ยว เป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ให้กับพื้นที่บ้านเกิด เนื่องจากมังกรทุกตัวสร้างจากจินตนาการของตนเอง จึงต้องสร้างด้วยมือตัวเอง ไม่มีการจ้างวานให้ใครมาช่วย ไม่มีเครื่องจักรที่ทันสมัยใดๆ นอกจากสองมือ เว้นแต่การยกไม้ที่น้ำหนักมากๆ ต้องใช้เครนช่วย จำนวนมังกรที่สร้าง 84 ตัว เป็นจำนวนพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อปี 2554 ปัจจุบัน มีจำนวนมังกร 87 ตัว และกำลังสร้างตัวที่ 88 ในปี 58 นี้ด้วย (ช้อความนี้ คัดลอกมาจาก http://www.touronthai.com/
บริเวณรอบๆ วังเทพทาโร ครั้งแรกที่เดินทางมาถึงสถานที่แห่งนี้ สิ่งที่มองเห็นก่อนสิ่งอื่นๆ คือลานกว้างๆ เป็นสนามหญ้า ล้อมรอบด้วยรากไม้ที่มองแว่บแรกก็รู้ว่าเป็นมังกรจำนวนหลายตัวต่อเรียงกันเป็นทางยาวครึ่งรอบของสนาม ก่อนจะมาที่นี่ ไม่รู้จักวังเทพทาโรมาก่อน คิดว่าจะเป็นอะไรที่เกี่ยวกับวัดที่มีรูปมังกรที่สวยงาม พอมาถึงถึงได้รู้ว่า เทพทาโร เป็นชื่อของต้นไม้ชนิดหนึ่ง ที่ภาคใต้ส่วนใหญ่เรียกว่าต้นจวงหอม ส่วนภาคอีสานเรียกว่าตะไคร้ต้น สำเนียงทางเหนือออกเสียงว่า จะไคร้ต้น
มังกรตัวที่ 84 หลังจากได้เดินชมรอบสนามที่มีมังกรล้อมรอบ และลอดท้องมังกร เสร็จแล้ว ไปชมมังกรที่เป็นสุดยอดของความภาคภูมิใจของอาจารย์จรูญ คือมังกรตัวที่ 87
มังกร ตัวที่ 87 เป็นลานกว้างรูปวงกลม มีมังกรตัวใหญ่ที่สุดที่อาจารย์จรูญสร้างขึ้นเป็นตัวที่ 87 เป็นมังกรที่มีรายละเอียดมาก หัวมังกรใส่น้ำพ่นออกมาจากปาก มีบ่อน้ำรองรับด้านล่าง ตรงกลางเป็นรากไม้เทพทาโรที่ใหญ่ที่สุดหนักที่สุด มีน้ำหนักมากถึง 1500 กิโลกรัม (1 ตันครึ่ง) มังกรตัวล่าสุดมีรายละเอียดที่สวยงาม ลำตัวขดเป็นเลข 8 สองตัว เพราะความเชื่อตามชาวจีนจะเชื่อว่า 8 เป็นเลขมงคล ปลายหางมังกรตัวนี้ ขดเป็นรูปคล้ายเลข ๙