คำบอกเล่า
“ข้าวตราฉัตร” สรรพนามเรียกชายหนุ่มคนหนึ่ง
ที่ชาวหอสมุดคุ้นชิน รู้จักเขามานานปีในฐานะอาคันตุกะจากภายนอก
ความกึ่งดีของพี่ สำหรับเราและชาวหอสมุดเป็นความน่าเอ็นดู
หลายปีที่เห็นพี่มาใช้บริการในมุมที่เราพบเจออาจมีบ้างที่ต้องพูดคุย
ในบางสิ่งที่พี่อาจทำโดยมิได้คิดอันใดมากไปกว่าสิ่งที่เราเห็น…
น้ำที่เติมเต็มในกระบอกส่วนตัวกับปริมาณที่เกินพอดี
เมื่อมีการบอกกล่าวพี่รับทราบและปรับพฤติกรรม
คำกล่าวทักทายสวัสดี ยามเช้า สาย บ่าย ค่ำ
ด้วยท่าทีสุภาพอ่อนน้อม กุม ตรง เท้าชิด
เราเชื่อว่าใครหลายคนในห้องสมุดเคยได้สัมผัส
อีกหลายๆ อากัปกิริยา ในการปะปนกับฝูงชนในห้องสมุดของเรา
ในมุมของผู้เข้าใช้บริการ เราไม่อาจล่วงรู้คิดอ่านผู้ใช้อื่นๆ
ในมุมของผู้ให้บริการ เราไม่อาจล่วงรู้คิดอ่านเพื่อนร่วมงานถ้วนทั่วทุกคนเช่นกัน
เพราะเราต่างพบเจอพี่ในต่างกรรม ต่างวาระ
ในมุมกึ่งดีของพี่ มีหลากเรื่องราวที่พบแล้วอดไม่ได้ที่จะบอกต่อ อาทิเช่น
ยามที่น้ำดื่มหมดไปจากถัง หากพี่ได้ผ่านไปพบ
โดยมิต้องบอกกล่าว หรือแจ้งแก่ใคร พี่จะแบกถังน้ำใส่ที่โดยไม่รีรอ
เมื่อเราพบโดยบังเอิญจึงต้องบอกขอบคุณพี่
โดยไม่ลืมแจ้งว่าโอกาสหน้าให้แจ้งพี่ๆ ห้องสมุดจะขอบคุณยิ่งๆ
ยามฝนมาฟ้ามืดหน้าห้องสมุดเลอะเทอะเจิ่งนองน้ำ
มักมีการปูกระสอบไว้ภายนอก ขณะที่การเข้าออกมีตลอดวัน
การเลื่อนเคลื่อนย่อมมี พี่ก็ไม่รอรีมาช่วยจับขยับเข้าที่ทาง
และในเช้าตรู่วันที่ผ่านมานานพอควรวันนั้น…ก็เช่นกัน
เมื่อเราเซ็นต์ชื่อทำงานแล้วกลับออกมาภายนอก
ก็ได้พบความกุลีกุจอด้วยจิตอาสาของพี่ตามภาพ
จึงอดไม่ได้ที่จะบันทึกภาพจำมาบอกเล่า
และกระเซ้าพี่เค้าไปว่า…จะขอประกาศนียบัตรความดีให้
พี่รีบแจ้งบอก ประมาณว่า…อย่าชมผมนะครับ เดี๋ยวพี่ๆ โดนเอ็ด
จากวันนั้น จนวันนี้ โดยส่วนตัวเรา ไม่พบพี่เค้านานแล้ว
หากพี่ยังคงเข้าใช้ห้องสมุด และหากเป็นไปได้
การงดค่าบริการรายวันสำหรับพี่เป็นกรณีพิเศษ
ก็ดูจะเป็นเมตตาแก่ผู้ด้อยโอกาสให้เเขาได้มีแหล่งเรียนรู้
ที่เราคิดเห็นเองว่า…น่าจะอยู่ในวิสัยที่ทำได้