สื่อสิ่งพิมพ์กับโลกในยุคดิจิตอล
ปัจจุบันคนรุ่นใหม่มีพฤติกรรมในการบริโภคสื่อหรือรับสื่อข้อมูลข่าวสารเปลี่ยนไปจากเดิมอย่างมาก แต่ก่อนนั้นในยุคที่ยังไม่มีเทคโนโลยีทางอินเทอร์เน็ต คนเราจะรับรู้ข้อมูลข่าวสารได้จากการพูดคุยกันซึ่งถือเป็นวิธีการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารอันดับแรกๆของคนในโลกใบนี้ วิธีต่อมาคือการเขียนเมื่อแต่ละชาติมีภาษาและตัวอักษรเป็นของตนเองก็ใช้วิธีการเขียนหนังสือสื่อสารระหว่างกัน ครั้นต่อมาเมื่อมีวิวัฒนาการทางการพิมพ์เกิดขึ้น ก็มีการจัดพิมพ์ทั้งตำรา หนังสือ นิตยสาร และหนังสือพิมพ์ออกมา นับเป็นการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารต่อกันในวงกว้างขึ้น เป็นยุคที่สื่อสิ่งพิมพ์มีการขยายตัวและมีอิทธิพลสูงต่อผู้คนที่มีความรู้และมีการศึกษา มีการผลิตสิ่งพิมพ์ออกมามากมายให้คนได้เลือกบริโภค แล้วต่อมาก็มีสื่อวิทยุและโทรทํศน์เพิ่มเข้ามาเป็นช่องทางเลือกสำหรับผู้บริโภคอีกรูปแบบหนึ่ง แต่สื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆก็ยังมีการผลิตมาอย่างต่อเนื่องและพัฒนารูปแบบและวิวัฒนาการทางการพิมพ์ตลอดเวลาเพื่อให้ตรงกับวัตถุประสงค์และความต้องการของผู้บริโภค
จนกระทั่งเข้าสู่ยุคของเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ที่แพร่หลายและได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว มีพัฒนาการต่อมาสู่ยุคของอินเทอร์เน็ตที่มีการพัฒนารูปแบบ วิธีการและช่องทางการเข้าถึงข้อมูลต่างๆ ได้รวดเร็วและมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาจนเชื่อมต่อการสื่อสารต่างๆนานาเข้าไปอยู่ในโลกออนไลน์สามารถสื่อถึงกันได้ทั้งโลกเพียงชั่วพริบตา จากคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะสู่โน้ตบุ๊คให้หิ้วพกพาได้ กลายเป็นแท็บเล็ต จนถึงสมาร์ทโฟนที่ไม่ใช่แค่โทรศัพท์มือถือธรรมดาๆอีกต่อไป ปัจจุบันเราต่างอยู่ในยุคของดิจิตอล ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญอีกครั้งหนึ่ง เมื่อการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารต่างๆเกิดขึ้นเพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัสเท่านั้น ข้อมูลข่าวสารก็หลั่งไหลมาสู่สายตาทันทีไม่ว่าท่านจะอยู่ที่ไหนเวลาใด คนรุ่นใหม่และคนส่วนใหญ่ในยุคนี้จึงไม่ใคร่สนใจที่จะอ่านหนังสือหรือสื่อสิ่งพิมพ์ดังแต่ก่อนเพราะช้าไม่ทันใจ
ในช่วงเวลาเพียงไม่กี่ปีมานี้เราจะพบข่าวของผู้ประกอบธุรกิจการพิมพ์หรือเจ้าของกิจการสื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆทั้งสำนักพิมพ์ นิตยสาร หนังสือพิมพ์ที่เคยมีชื่อเสียงระดับโลกต้องปิดตัวลงอย่างต่อเนื่อง หรือไม่ก็ต้องไปควบรวมกิจการเข้าด้วยกัน แม้กระทั่งในประเทศไทยเราก็ประสบกับเรื่องนี้เช่นกัน บางส่วนก็ปรับเปลี่ยนทิศทางและวิธีการเข้าถึงผู้ใช้ให้ทันกับยุคสมัย เช่นหนังสือเปลียนจากสิ่งพิมพ์กระดาษเป็น e-book หรือนิตยสาร/หนังสือพิมพ์จากกระดาษ ก็เปิดเว็บไซต์เข้าสู่ช่องทางข่าวออนไลน์ เพื่อสนองต่อผู้บริโภคได้อย่างรวดเร็ว ด้วยพฤติกรรมของผู้บริโภคสื่อเปลี่ยนไปการอ่านข้อมูลข่าวสารไม่จำเป็นต้องเสียเงินซื้อตัวเล่มมาอ่าน สามารถหาอ่านได้ฟรีจากโลกออนไลน์ที่ข้อมูลท่วมท้นทั้งที่มีคุณภาพและไร้คุณภาพ แต่การอ่านแบบนี้เป็นการอ่านแบบฉาบฉวย ต่างจากการอ่านหนังสือที่เป็นตัวเล่มจะให้อรรถรสที่ต่างกัน เรื่องบางเรื่องก็ไม่สามารถหาอ่านได้ในออนไลน์เพราะหนังสือทุกเล่ม,นิตยสารหรือข่าวหนังสือพิมพ์มิได้นำเสนอไว้ได้ทั้งหมด
ในงานบุ๊คแฟร์ที่หอสมุดของเราจัดที่เพิ่งผ่านพ้นไปนี้ จากการสังเกตุของตัวเองพบว่าปริมาณหนังสือในงานที่เป็นหนังสือมือสองหรือหนังสือลดราคามากๆนั้นส่วนใหญ่เป็นหนังสือไม่เก่าเท่าใดนักเป็นของสำนักพิมพ์ดังหรือสำนักพิมพ์ใหญ่ก็มาก แล้วยังมีประเภทนวนิยายและหนังสือการ์ตูนมากพอดูทีเดียว หลายร้านนำมาลดราคาตั้งแต่เล่มละ 10-20-30-40 บาท หรือ 3 เล่ม 100 บาท บางร้านลด 50% (เห็นแล้วเสียดายกระดาษมาก) ปริมาณหนังสือที่พิมพ์ออกมานั้นมากเกินจนล้นตลาดแม้จะมีการจัดงานหนังสือระดับชาติถึงปีละสองครั้งเพื่อระบายออกก็ตาม และจากการสนทนากับผู้ขายบางรายซึ่งเคยอยู่ในวงการหนังสือมานานให้ข้อสังเกตุที่น่าสนใจว่าเดี๋ยวนี้ปริมาณการซื้อหนังสือของนักเรียนนักศึกษาลดลงกว่าแต่ก่อนค่อนข้างมาก สำนักพิมพ์หลายแห่งเริ่มชลอหรือลดปริมาณการพิมพ์ บางแห่งปิดตัวเลิกจัดพิมพ์แล้วก็มี เพราะคนไปให้ความสนใจกับสื่อทางโซเชียลมีเดียอยู่กับโลกออนไลน์กันมากขึ้น เป็นยุคของสังคมก้มหน้ากับจอสี่เหลี่ยมในฝ่ามือ ไม่มีสมาธิในการอ่านหนังสือเหมือนคนยุคก่อน และการผลิตหนังสือในยุคหลังๆมานี้ผลิตไปตามกระแสเนื้อหาด้อยคุณภาพจึงตกกระแสเร็ว ซึ่งก็เป็นเรื่องจริง เพราะหนังสือบางประเภทที่หอสมุดได้รับบริจาคเข้ามาบางส่วนไม่สามารถนำออกบริการได้ต้องคัดออกก็มีไม่น้อย