เสร็จสิ้นภาระกิจ "ชีวิตคนชายขอบ"
เมื่อประมาณปี 2557 หลังจากที่ดิฉันพบกับคุณป้ากุหลาบ (คนเร่ร่อน) และได้พยายามให้การช่วยเหลือคุณป้ากุหลาบ โดยดิฉันได้นำข้อมูลส่วนตัวของคุณป้าไปตรวจสอบกับหน่วยราชการซึ่งเป็นต้นสังกัดทะเบียนบ้านของคุณป้า คือ เทศบาลนครนนทบุรีเพื่อขอรับสิทธิ์เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ซึ่งผลการตรวจสอบพบว่า คุณป้ามีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านนี้จริง และเจ้าหน้าที่ได้แจ้งให้ทราบถึงรายละเอียดและข้อกำหนดของการรับเบี้ยยังชีพว่า ในแต่ละปีหน่วยงานฯ จะเปิดให้ผู้สูงอายุมาลงทะเบียน+ยื่นเอกสารเพื่อขึ้นทะเบียนรับเบี้ยยังชีพได้ปีละ 1 ครั้งเท่านั้น คือ ในเดือนพฤศจิกายนของทุกปี และเมื่อขึ้นทะเบียนแล้วจะยังไม่ได้รับเบี้ยยังชีพทันทีโดยจะได้รับในปีหน้า (ลงทะเบียนเพื่อการตั้งเบิกงบประมาณ) ดิฉันจึงได้ตรวจสอบเอกสาร+หลักฐานที่จำเป็นต้องใช้ทั้งหมดโดยละเอียด แล้วจึงไปอธิบายรายละเอียดให้คุณป้ากุหลาบเข้าใจเอกสาร/หลักฐาน/วิธีการดำเนินการทั้งหมดให้คุณป้าเข้าใจ และขอให้คุณป้ารออยู่ที่เดิมในช่วงระยะเวลา 1 ปีนี้ คือ บริเวณหน้า 7-Eleven หน้าองค์พระปฐมเจดีย์ อย่าเพิ่งย้ายถิ่นฐานไปที่อื่น เพื่อจะได้พาคุณป้ากุหลาบไปขึ้นทะเบียนรับเบี้ยยังชีพในเดือนพฤศจิกายน 2558
ดิฉันและคุณป้ากุหลาบเฝ้ารอจนกระทั่งถึงเดือนพฤศจิกายน 2558 มาถึง ดิฉันจึงได้แวะไปติดต่อนัดหมายกับคุณป้าที่หน้า 7-Eleven หน้าองค์พระปฐมเจดีย์ โดยเริ่มจากการพาคุณป้าไปเปิดบัญชีธนาคารธนชาต คุณป้าไม่มีเงินเปิดบัญชี ดิฉันจึงให้ความอนุเคราะห์ และหลังจากนั้นจึงโทรศัพท์สอบถามกำหนดการยื่นรับสิทธิ์วันที่แน่นอนกับเทศบาลนครนทบุรีพร้อมทั้งสอบถามเส้นทาง หลังจากนั้นจึงได้ลางาน 1 วัน เพื่อพาคุณป้ากุหลาบไปดำเนินการจนแล้วเสร็จ เมื่อเสร็จเจ้าหน้าที่ก็แจ้งว่าหลังหมดกำหนดย่ื่นรับสิทธิ์ จะมีการประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์ อย่าลืมเข้าไปตรวจสอบสิทธิ์ทางเว็บไซต์เทศบาลนครนนทบุรีด้วย หากไม่พบรายชื่อ ให้รีบโทรศัพท์สอบถามหรือเข้ามาติดต่อด้วยตนเองพร้อมตัวคุณป้ากุหลาบ
หลังจากพ้นกำหนดการยื่นรับสิทธิ์ ดิฉันก็รีบเข้าเว็บไซต์ตรวจสอบรายชื่อให้คุณป้า แต่ไม่ว่าจะค้นหาชื่อคุณป้าอย่างไรก็ไม่พบ รู้สึกใจหาย ไม่สบายใจ และสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับคุณป้า ตรวจสอบอยู่ประมาณ 2-3 สัปดาห์ ก็ยังคง “ไม่พบรายชื่อ” จึงตัดสินใจโทรศัพท์ไปสอบถามข้อมูลกับเจ้าหน้าที่โดยตรง เจ้าหน้าที่ขอรายละเอียดมากมายเกี่ยวกับตัวคุณป้า ดิฉันไม่ทราบทั้งหมด จึงตอบได้บ้าง ไม่ได้บ้าง เจ้าหน้าที่ไม่กล้าให้ข้อมูล ดิฉันจึงชี้แจงรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่ทราบตามตรงว่าทำไมจึงไม่ทราบรายละเอียดเกี่ยวกับคุณป้า เนื่องจากไม่ได้เป็นญาติกัน คุณป้าเป็นเพียงคนเร่ร่อนที่ย้ายถิ่นฐานมาอยู่จังหวัดนครปฐม ฯลฯ หลังจากเจ้าหน้าที่ฟังเข้าใจแล้ว จึงนำชื่อ+เลขที่บัตรประชาชน+ทะเบียนบ้านไปตรวจสอบในระบบฯ พร้อมแจ้งกลับว่ามีข้อมูลรายชื่อแล้ว โดยขอรับเป็นเงินโอนเข้าบัญชีธนาคารธนชาต ซึ่งถูกต้องตามจริง ดิฉันจึงสอบถามเจ้าหน้าที่กลับว่า เหตุใดจึงไม่พบชื่อคุณป้าบนเว็บไซต์ เจ้าหน้าที่แจ้งว่าจะมีการประกาศรายชื่อหลายครั้ง ชื่อที่เห็นประกาศในเว็บไซต์เป็นเพียงการประกาศในครั้งแรกเท่านั้น ดิฉันสอบุถามว่า แล้วเมื่อประกาศเพิ่ม ทำไมไม่เพิ่มประกาศฉบับต่อ ๆไป จะมีเพียงประกาศครั้งแรกเพียงครั้งเดียวเท่านั้นหรือ เพราะยังมีชาวบ้านที่ไม่พบชื่อของตนเองอีกจำนวนมาก และไม่ทราบว่าจะหาช่องทางใดในการติดต่อสื่อสารกับหน่วยงานท่านได้ เจ้าหน้าที่รับทราบและเห็นใจพร้อมอธิบายว่าเป็นปัญหาภายในองค์กรของตนเอง ตนเองก็ไม่ทราบว่าทำไมเค้าจึงไม่ประกาศเพิ่ม จึงรับจะไปหารือกับผู้เกี่ยวข้องต่อไป
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังได้สอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับคุณป้าเพิ่มเติมว่า คุณป้ามีภาวะป่วยทางจิตหรือไม่ หากมีภาวะป่วยทางจิตจะได้เงินเพิ่มอีกจำนวน 800 บาท รวมกับ 600 บาท เป็นเดือนละ 1,400 บาท ดิฉันตอบว่า คุยกับคุณป้าก็ว่าจิตปกติดีนะคะ เจ้าหน้าที่บอกว่า เราไม่ทราบหรอกค่ะ เพราะคุณป้ามีประวัติการหนีออกจากบ้านตั้งแต่เด็ก ๆ อาจมีปัญหาทางจิตแฝงอยู่ ถ้าจะให้ทราบข้อมูลที่แท้จริงจะต้องพาไปพบจิตแพทย์ หากแพทย์ลงความเห็นว่ามีอาการพิการทางจิต สามารถมายื่นรับสิทธิ์เพิ่มเติมได้ พร้อมทั้งบอกว่าหากคุณป้าอาศัยอยู่ในเขตพื้นที่เทศบาลนครนนทบุรี ตนเองอาจจะให้การช่วยเหลือได้มากกว่านี้ แต่คุณป้าอยู่คนละเขต เนื่องจากเจ้าหน้าท่ี่ท่านนี้มีตำแหน่งนักสงคมสงเคราะห์ ซึ่งทำหน้าที่นี้โดยตรง ดิฉันจึงกล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่เป็นอย่างมากสำหรับคำแนะนำ ดิฉันบอกว่า ตอนนี้สามารถช่วยให้คุณป้าได้สิทธิ์ 600 บาท/เดือน จนสำเร็จ ดิฉันก็รู้สึกดีใจมากแล้ว ถ้าอย่างไรจะรับข้อเสนอะแนะนี้ไว้พิจารณาให้การช่วยเหลือคุณป้ากุหลาบต่อไป
4 thoughts on “เสร็จสิ้นภาระกิจ "ชีวิตคนชายขอบ"”
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.
ขอยกให้เป็น “คนดีศรีตลาด” จ้า
การให้โดยไม่หวังตอบแทนด้วยบริสุทธิ์ใจ
เป็นความสุขที่หากใครได้ลอง “ลงมือ” จะเข้าใจอย่างซาบซึ้ง
ได้ยินน้องหนิงเล่าก็สุขใจและอนุโมทนาอยู่ในใจ เพิ่งได้ทราบตอนจบวันนี้
สาธุ สาธุ สาธุ
ไหนๆ ก็ช่วยป้ามาขนาดนี้แล้ว ลองติดตามดูสักระยะว่า 600
เพียงพอแก่การยังชีพตามที่ป้าเคยชินมั้ย…
หากป้ายังจำเป็นเพิ่มเติมลองปรึกษาที่ สถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ดูจ้ะ
https://www.facebook.com/สถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์-Fanpage-180769661933911/info/?tab=page_info
รับทราบ พร้อมปฏิบัติ ขอบคุณมากๆๆๆ ค่ะ สำหรับโอกาสที่มากขึ้นของคุณป้า ^_^
การทำดีไม่ต้องมี “ความหวัง” คือ “หวังสิ่งตอบแทน”
เพียงแต่มีแต่ “ความเชื่อ” คือ “เชื่อว่า ทำดีย่อมได้ดี” ) _/ll\_
ขอบคุณสำหรับความรู้ การให้ความช่วยเหลือบุคคลเร่ร่อนให้ได้สิทธิ… และขอชื่นชมที่มีน้ำใจงาม มีจิตอาสา จิตใจให้บริการ …