ในแต่ละวันที่เราใช้ธนบัตรใบละ 20 50 100 500 และ 1000 บาท แต่ละใบมีค่าและราคาไม่เท่ากัน แต่ธนบัตรไม่ได้ใช้แค่ชำระสิ่งของต่างๆ เท่านั้น ธนบัตรยังมีคุณค่าอีกอย่างหนึ่งคือ หลังธนบัตรมีสิ่งดีๆ ที่สอนให้เรารู้และทราบเรื่องราว แต่ส่วนมากจะไม่ค่อยได้สังเกตและอ่านว่าธนบัตรแต่ละราคาเป็นรูปกษัตริย์พระองค์ใดและเขียนไว้ว่าอย่างไร
ขอนำธนบัตรใบละ 20 บาท เป็นรูปพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อานันทมหิดล และหลังธนบัตรเขียนว่า
         ถ้าคนไทยทุกคน ถือว่าตนเองเป็นเจ้าของชาติบ้านเมือง
       และต่างปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ดี
       ด้วยความสุจริตและถูกต้อง
       ตามทำนองคลองธรรมแล้ว ความทุกข์ยากของบ้านเมือง ก็จะผ่านพ้นไปได้

ธนบัตรใบละ 100 บาท ส่วนใหญ่คงจำกันแม่นว่า“หลังธนบัตร”สีแดงใบละร้อย เป็นภาพของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระปิยะมหาราช แต่หลังธนบัตรเขียนไว้ว่า
ประเพณีทาสที่มีอยู่ในพระราชอาณาจักรสยาม ถือเป็นวิธีทาสทำสารกรมธรรม์
ขายตัวด้วยใจสมัคร มิใช่ทาสเชลย ที่เป็นการกดขี่อย่างร้ายแรงก็จริง
แต่เป็นเครื่องกีดขวางทางเจริญ ประโยชน์และสุขสำราญ ของมหาชนอยู่อย่างหนึ่ง
ซึ่งจำเป็นจะต้องเลิกถอย อย่าให้มีประเพณีทาสในพระราชอาณาจักรนี้
กรุงสยามจึงจะมีความสมบูรณ์เท่าทันประเทศอื่น

ธนบัตรใบละ 500 บาท จะเป็นธนบัตรสีม่วง เป็นภาพพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ทรงมีพระราชดำรัสไว้ให้เราทราบคือ
การงานสิ่งใดของเขาที่ดี ควรจะเรียนร่ำเอาไว้ ก็เอาอย่างเขา
แต่อย่าให้นับถือเลื่อมใสไปเสียทีเดียว


ธนบัตรใบใหญ่ที่สุด ใบละ 1000 บาท หลายคนทราบดีว่าเป็นภาพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หลังธนบัตรเขียนไว้ว่า
เศรษฐกิจแบบพอเพียง …
เศรษฐกิจแบพอมีพอกิน แบบพอมีพอกินนั้น หมายความว่าอุ้มชูตัวเองได้ ให้มีพอเพียงกับตัวเอง
ทั้งหมดนี้คือคุณค่าหลังธนบัตรที่เราไม่ค่อยสังเกตุกัน

        “ประพณีทาสที่มีอยู่ในพระราชอาณาจักรสยาม ถึงเป็นวิธีทาสทำสารกรมธรรม์ 
ขายตัวด้วยใจสมัคร มิใช่ทาสเชลย ที่เป็นการกดขี่อย่างร้ายแรงก็จริง
แต่เป็นเครื่องกีดขวางทางเจริ

        
ซึ่งจำเป็นจะต้องเลิกถอน อย่าให้มีประเพณีทาสในพระราชอาณาจักรนี้
กรุงสยามจึงจะมีความสณ์เท่าทันประเทศอื่น

ร
ะสิริเกียรติกุล ที่มีอยู่ใ ป
ฃพินัย สิริเกียรติกุลพินัย สิริเกียรติกุล