Campus Bike Tour ปั่น…ปันเรื่อง

26 September 2015
Posted by Narumon Boonyanit

SU_Tour2
ก่อนล้อหมุน

เมื่อต้นเดือนสิงหาคม คุณสมปองหัวหน้าหอสมุดฯ
เชิญบรรดาแกนนอนไปร่วมหารือแจ้งเรื่องงานเปิดบ้านของมหาวิทยาลัย
ซึ่งหอสมุดจะจัดกิจกรรมเข้าร่วม โดยคุณสมฯ ในฐานะเจ้าแม่โปรเจค
เธอนำเสนอ concept ที่คิดมาหลายต่อนให้ช่วยกันต่อเติม
อิฉันรับต่อนเรื่องปั่นจั๊กในทับแก้วมา
เมื่อได้โจทย์มาเป้าที่พุ่ง คือ อาคารเก่า อาคารที่น่าสนใจ
ที่หมายตาแรกแน่นอน คือ เรือนพระกรรมสักขี และเรือนพระสุรภี
ซึ่งเป็นเรือนไม้เก่าสมัยรัชกาลที่ 6 ในทับแก้ว ที่อยู่ระหว่างการบูรณะจวนแล้วเสร็จ

ระหว่างเล็งเป้าสิ่งปลูกสร้างก็เล็งเส้นทางไปพลาง
ระหว่างระยะวนไกลรอบมหาวิทยาลัยกับรอบใกล้พับครึ่งแค่สระแก้ว
เมื่อเป้าระยะทางเริ่มชัดก็ต้องหาข้อมูลจุดที่น่าสนใจไปพร้อม

งานจดหมายเหตุฯ จึงเป็นเป้าต่อไปที่ต้องเล็งน้องนก…วิไลรักษ์ จึงรอดยาก
และทุกครั้งที่พี่ขอน้องก็จัดให้ไม่ผิดหวัง เพียงข้ามวันข้อมูลที่ต้องการส่งตรงมาถึงมือ
บางส่วนมีรายละเอียดครบถ้วนจนเกินใช้ แต่อีกบางส่วนก็สั้นจนใจหาย
จำต้องหาเพิ่มในแหล่งที่คิดว่าน่าจะเป็นคลังข้อมูลบุคคลเพิ่มเติม

เริ่มที่อาคารไม้เก่าที่โสตฯ ส่วนกลางเคยใช้ ประเมินแล้วอาวุโสร่วมสมัยก็น่าจะเป็นพี่บุญส่ง แย้มพราย
ส่วนอาคารวชิรมงกุฎจะเป็นใครไม่ได้นอกจาก อ.สกุล บุณยทัต หรือ อาจารย์หนูของเหล่าลูกศิษย์
ระหว่างนั่งปั้นข้อมูล สโนว์ไวท์ก็นัดแนะทีมงานทั้ง 7 ชีวิตไปปั่นนำร่อง ดูเรี่ยวแรง ป้าๆ น้าๆ ว่าไหวอ๊ะป่ะ
ส่วนอิฉัน…ถือโอกาสแว๊นนนแมงกาไซด์นำทีม เพราะนอกจากจะต้องซ้อนป้าสุนีย์ด้วยป้าไม่ถนัดปั่นจั๊กแล้ว
พอถึงวันจริง อิฉันกะป้าก็พากันวิ่งแซงหน้าคณะปั่นเพื่อไปดักถ่ายภาพระหว่างทางมาให้เชยชม
กว่าจะเป็นแผ่น…มานั่งพับ
หลังสำรวจเส้นทางเป็นที่เรียบร้อย ก็ต้องมาขมักเขม้นปลุกปล้ำแผ่นพับเส้นทาง

ด้วยความเชี่ยวชาญและศิลปะประจำตัวอันมีอยู่น้อยนิด สิ่งที่ทำได้ ใช้เป็น จึงต้องงัดแงะมา
เริ่มจากการหาผังเส้นทางของวิทยาเขต จะหาที่ไหน กุเกิ้ลสรณังเป็นที่พึ่งได้เสมอ
หลังจากเพียรหาอยู่หลายตลบ ได้พบแผนผังเกินบ้าง ขาดบ้าง ถูกใจบ้าง ไม่ถูกใจบ้าง
สุดท้ายก็มาลงตัวที่ผังงานรับปริญญาปี 2556 แต่ผังดูออกจะแน่นขนัด
จึงต้องใช้วิทยายุทธ์อันมีอยู่จำกัดน้อยนิดไปกำจัดสิ่งที่ไม่ต้องการออก
ด้วยยางลบของโปรแกรมโนเน๊ะพื้นๆ ที่อิฉันจับต้องได้ คือ paint Brush
ได้ผังพึงใจโล่งๆ มาประมาณหนึ่ง ทีนี้ก็ถึงคราวข้อมูลที่จะสื่อสาร

อย่ากระนั้นเลยหาภาพที่เป็นตัวแทนสื่อถึงอาคาร สิ่งปลูกสร้าง รวมอนุสาวรีย์ปูชนียบุคคลดีกว่า
เมื่อพบและคัดสรรอย่างที่พึงใจแล้ว ภาพที่ได้มีทั้งภาพการ์ตูน ภาพจริง
จึงต้องนำมาผ่านกระบวนการจัดการให้ละม้าย คล้ายๆ ไม่โดดไปจากกัน
เทคนิควิทยาประถมวัยของอิฉันก็เลือกเอาโปรแกรม photo scape มาช่วยจัดการ
ถึงเวลานำภาพที่จัดเตรียมไว้มาประกอบร่างลงในผังที่ทำเตรียมรอไว้
และขีดๆ เขียนๆ ตัวหนังสือ (อันที่จริงพิมพ์) เสร็จสรรพ
ได้ต้นฉบับสวยงามมาประมาณหนึ่ง เสร็จทันเสนอเมื่อประชุมติดตามงานพอดี
แต่ด้วยความที่คุณสมฯ แอบจีบน้องๆ ที่ถนัดวาดภาพไว้แล้ว
จึงได้นำต้นแบบให้น้องไปดัดแปลงเปลี่ยนเป็นสไตล์ลายเขียน…ก็ดูดีไปอีกแบบ
เรื่องเล่าระหว่างวงล้อ
งานเปิดบ้านครั้งนี้มีเวลาเตรียมจวนเจียนมากกว่าครั้งก่อนประมาณสัปดาห์เศษ

อิฉันจึงกระจายภาระบางส่วนนอกเหนือจากข้อมูลหลักให้พี่น้องในทีมงานคนแคระทั้ง 7 ร่วมด้วยช่วยกัน
ป้าจุ๋มอาสาประสานติดต่ออาคารหมวกนิรภัย อาคารที่อิฉัน และเชื่อว่าอีกหลายท่าน
แทบจะไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับชีวิตของผู้คนที่ทำงานอยู่ในอาคารนี้เลย หรือมีก็เพียงน้อยนิด
นอกจากนี้ยังผลักใสให้ป้าประสานเรื่องจักรยานที่ต้องหยิบยืมจากลุงๆ ป้าๆ มาชำระล้างก่อนปั่น
ส่วนพี่จุ๋มเกณฑ์ท่านใดบ้างอิฉันไม่ทราบ แต่ก็ขอขอบคุณทุกท่านอีกครั้ง…ที่ร่วมแรง ร่วมใจ
ส่วนป้าเกอาสาประสานงานทั่วไปตามแต่อิฉันจะไหว้วาน พร้อมรับมอบอาคารหอสมุดกับอาคารมล.ปิ่นฯ ไปดูแล
ท่านอื่นๆ ทำหน้าที่แตกหน่อ แต่งใบ ข้อมูลที่ได้รับในเบื้องต้นให้เป็นของตนเอง

ป้าสุนีย์รับหน้าที่ชี้ชวนชมอาคารปาฐอาศรม (ประโชติ เปล่งวิทยา) และสวนสมุนไพรคณะเภสัชฯ
ด้วยเล็งหน่วยก้านแล้วป้าสันทัดกรณีพรรณไม้ ใบหญ้ามากๆ
น้องษร ในเบื้องต้นมอบภาระนำชมอาคารไม้เก่าโรงเรียนการช่างชายเดิม ซึ่งปัจจุบันเป็นอาคารในความดูแลของโรงเรียนสาธิต มหาวิทยาลัยศิลปากร ต่อมาป้าๆ น้าๆ ประเมินแล้ว ควรตัดเส้นทางนี้ด้วยเวลาจำกัด
น้องษรจึงต้องเปลี่ยนที่หมายใหม่เป็นอาคารวชิรมงกุฏ
สถาบันหมวกนิรภัยนั้น ไหนๆ ก็เป็นผู้ประสานงา…เอ้ยย งานแล้ว ป้าจุ๋มก็ได้รับมอบไปตามระเบียบ
ซึ่งที่สถาบันนี้ต้องขอบอกว่า ได้รับความอนุเคราะห์เป็นกรณีพิเศษจริงๆ
เพราะนอกจากจะไม่มีหนังสือติดต่อเป็นทางการแล้ว ปกติก็ไม่เปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชม
แต่พี่ๆ ใจดี อยากให้น้องที่สนใจได้อะไรๆ มากกว่า มาดูอาคารและแผ่นศิลาฤกษ์
เมื่อคณะเราเดินทางไปถึง พี่ที่ทำหน้าที่ดูแลประตูทางเข้าได้กล่าวเชื้อเชิญชาวคณะ
เข้าดูงานภายในด้วยอัธยาศัยไมตรี…ต้องบอกว่าโชคดีเกินความคาดหมายจริงๆ
ส่วนอาคารศูนย์ปฏิบัติการทัศนศิลป์ สิรินธร นั้นเมื่ออิฉันติดต่อขอความอนุเคราะห์ไปอย่างด่วนๆ
ตามข้อมูลที่ อ.เปิ้ล สืบสกุล ให้มา พี่บุคลากร (ขออภัยจริงๆ อิฉันให้ชื่อพี่จุ๋มไปแล้วก็แอบลืมชื่อท่านเสียนี่)
ซึ่งพี่เป็นผู้ดูแลเกี่ยวข้องในส่วนนี้ก็รับในทันทีว่าจะมาช่วยชี้ชวนชมความงามของ “ปฏิบัติการทัศนศิลป์”
ซึ่งเมื่อถึงวันจริงก็ได้รับความร่วมมืออย่างดีเยี่ยมเกินคาดหมายจากพี่ๆ นักศึกษาทั้งศิษย์เก่า ศิษย์ปัจจุบัน มาร่วมด้วยช่วยกัน…
บรรยายข้อมูลเบื้องต้นของคณะ กับชี้ชวนให้น้องๆ ชม ชิ้นงานต่างๆ ที่จัดแสดง
อาคารนี้เลยมอบให้ป้าจุ๋มแบบเหมาๆ ไปอีก 1 อาคาร

ส่วนเรื่องราว และอาคารที่…โบร้าน…โบราณอันเป็นงานถนัดอิฉันก็รับหน้าที่ว่าไป
ไล่เรียงตามประวัติมหาวิทยาลัยเริ่มจากอนุสาวรีย์อาจารย์ศิลป์ ซึ่งแปลกใจมากว่า
น้องๆ จาก ต่างถิ่นต่างที่กลับรู้จักท่านดีกว่าน้องๆ ในพื้นที่
ถัดจากนั้นเป็นอนุสาวรีย์มล.ปิ่นฯ ตรงนี้ใจชื้นขึ้นมาเป็นกอง น้องๆ ส่วนใหญ่รู้จัก
ด้วยท่านเป็นบุคคลสำคัญเกี่ยวข้องอย่างมากในเรื่องการศึกษาของไทย
สุดท้ายคือเรือนพระสุรภี และเรือนพระกรรมสักขี ที่คุณสมฯ หัวหน้าหอฯ เมื่อตามคณะปั่นๆ
ได้ช่วยเชื่อมมิติของเรือนและท่านเจ้าของเรือนไปสู่ละครพีเลียด “ข้าบดินทร์” ให้น้องๆ ได้กระจ่างยิ่งขึ้น
คุณๆ ที่ตามอ่านและนับตัวเลขไพร่พลไปพร้อม อาจสงสัยว่าหายไปไหนอีก 2 หน่วยชีวิต
ไม่หายค่ะๆ อีก 2 หน่วยสำคัญ เพราะต้องเป็นผู้ดูแลชีวิตและทรัพย์สินของน้องๆ ที่จะมาร่วมปั่นจั๊ก
ไปตลอดเส้นทางปั่น คือ พี่เม๊ะ ไม้หนึ่ง หัวหน้าทัวร์ตีธงปั่นๆๆๆ กับน้องกอบ ไม้สองมือสำรอง
ส่งมอบภาระให้ผลัดกันเหนื่อยขี่นำขบวน และต้อนรับน้องๆ อยู่ในที่มั่น
ส่วนพี่เกนั้นตามที่ว่าไว้ หากทัพหน้าจำเคลื่อนพลออกจากที่มั่นสิ้นแล้ว
นอกจากประจำการในตึกที่มั่นทั้ง 2 ต้องเข้าแทนที่ในส่วนต้อนรับ ณ ที่ตั้งด้วย
แผนการพร้อม อุปกรณ์พร้อม พร็อพพร้อม คน…พร้อม
พอได้ออกสตาร์ทรอบปฐมฤกษ์เท่านั้น เป็นอันทุกคนลืมสิ้นว่าตกลงให้เข้าประจำการ ณ อาคารของใคร ของเผือก
เพราะเมื่อเริ่มออกรอบแรก ชักชวนกันว่าควรจะร่วมกันไปคารวะ
เจ้าที่ เจ้าทาง เจ้าของแห่งเรือนและอาคารในแห่งที่มีสัญลักษณ์ที่หมาย
คือ รูปจำลององค์พระคเณศ ณ โรงเรียนสาธิต อนุสาวรีย์ท่านผู้ก่อการทั้ง 2 วิทยาเขต
เทพารักษ์ผู้ปกปักแห่งคณะอักษร และท่านเจ้าของแห่งเรือนไทยโบราณทั้ง 2
ซึ่งตามตกลงจะร่วมกันเฉพาะในเช้าวันแรก แต่เอาเข้าจริงทีมงานคนตัวเล็กแต่ใจไม่เล็ก
ต่างพร้อมใจเป็นหนึ่งเดียวว่า ไปพร้อมๆ กัน นี่ล่ะ ดีกว่าไปยืนร้องเพลงรอ…เหงาๆ อยู่คนเดียว…จัดป่ะ
านจบลงแล้ว ทอดเวลามาก็เนิ่นนานแล้ว
แต่ทีมงานคนแคระทั้ง 7 ของพวกเรา และชาวหอสมุดสนามจันทร์ ก็ยังคงระลึก

ในน้ำใจไมตรีอย่างกันเอ๊งงง กันเอง จากพี่-น้องชาวหอสมุดผู้อยู่เบื้องหลังอีกหลายท่าน
ที่อิฉันทราบบ้าง ไม่ทราบบ้าง ตั้งแต่เจ้าของจักรยานทุกคัน
คนช่วยล้าง ช่วยเตรียม อุปกรณ์ช่วยชีวิตนานา หมวกบ้าง น้ำบ้างทุกๆ คน

โดยเฉพาะอย่างยิ่งไมตรีจาก 2 หน่วยงานข้างบ้าน
ที่แม้ไม่ต้องมีพิธีรีตองผ่านกระดาษศักดิสิทธิ์สักน้อย

ก็ยินดีและเต็มใจอนุเคราะห์พวกเราด้วยไมตรี
ขอบคุณน้อง-พี่ ทุกๆ ท่าน ทั้งในบ้านและข้างบ้าน
จากใจจริงๆ ^^

Leave a Reply

Tags

blog CONSAL KPI PULINET การจัดการความรู้ การดูแลสุขภาพ การทำงาน การท่องเที่ยว การบริการ การปฏิบัติงานล่วงเวลา การประชาสัมพันธ์ การพัฒนาตนเอง การพัฒนาบุคลากร การลงรายการ การศึกษาดูงาน การอ่าน การเรียนออนไลน์ กิจกรรมสำหรับเด็ก กิจกรรมส่งเสริมการอ่าน กิจกรรมห้องสมุด ความสุข ค่ายห้องสมุด งานบริการ ธรรมะ นวนิยาย นักเขียน บรรณารักษ์ บริการชุมชน ประกันคุณภาพ ภาพถ่าย ภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยศิลปากร ระบบห้องสมุดอัตโนมัติ วัด วันสำคัญ วารสาร สัมมนา สุขภาพ หนังสือ หนังสือบริจาค หนังสือและการอ่าน หอสมุดพระราชวังสนามจันทร์ ห้องสมุด ห้องสมุด 24 ชั่วโมง อาหาร