มิงกะลาบา เมียนมาร์

สัมผัสดินแดนแห่งมนต์เสน่ห์ของเมียนมาร์ที่สมบูรณ์ทั้งธรรมชาติ ร่ำรวยด้านศิลปวัฒนธรรม และสถาปัตยกรรมอันงดงามจากพลังศรัทธาในศาสนาพุทธ เรื่องราวของพม่า หรือ เมียนมาร์ประเทศเพื่อนบ้านที่มีประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกันอันยาวนานกับชาติไทยมาอย่างน่าสนใจ เราจะไปทำความรู้จักดินแดนแห่งลุ่มน้ำอิรวดี
หลังจากที่เมียนมาร์ หรือพม่านั้นทำการเปิดประเทศก็ได้รับความสนใจจากประเทศต่างๆ และจับจ้องเป็นพิเศษจากประชาคมโลก นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เฝ้าคอยไปค้นหาและอยากจะไปเยือนดินแดนแห่งลุ่มน้ำอิรวดีนี้ พากันทยอยกันเข้าไปทำความรู้จักประเทศนี้ที่เริ่มมีบทบาทขึ้นในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน และไม่น่าเชื่อว่าอันดับ 1 คือนักท่องเที่ยวชาวไทยของเรานิยมชมชอบ ทันทีที่เปิดประเทศ ก็มีการปล่อยตัว นางอองซาน ซูจี ผู้นำฝ่ายค้าน ตามคำประกาศรับรองการปฏิรูปประเทศของประธานาธิบดีเต็งเส่ง พม่าก็กลายเป็นขุมทองของนักธุรกิจ นักลงทุนจากต่างประเทศที่ต่างกรูกันเข้าไปสู่การศึกษาลู่ทางต่างๆ มีการลงทุนในอุตสาหกรรมพลังงาน จากต่างชาติ เช่น ก๊าซธรรมชาติ การผลิตไฟฟ้า ก่อสร้าง และส่งเสริมการท่องเที่ยวให้มีเอกลักษณ์มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มมากขึ้นถึง 1,060,000 คน ในปี 2555 เป็นชาวไทยเข้าพม่าเสียเป็นส่วนมากเป็นอันดับที่ 1 คือ 90,000 คน อันดับที่ 2 คือประเทศจีนและสหรัฐอเมริกา
ตลาดส่งออกของพม่านั้น ประเทศไทยก็เป็นตลาดอันดับที่ 1 เหมือนกัน มีสัดส่วนถึง 42.3 เปอร์เซ็นต์ ของการส่งออกทั้งหมด เป็นเชื้อเพลิง และพลังงานเป็นส่วนใหญ่รวมทั้งโครงการพัฒนาเศรษฐกิจขนาดใหญ่เพื่อพัฒนาประเทศ เช่น โครงการท่าเรือน้ำลึกทวาย เป็นการร่วมลงทุนกับบริษัทเอกชนไทย คือ “อิตาเลียน-ไทย”
นอกจากนี้การไปเที่ยวกับทัวร์นั้นจะบริการกันเป็นอย่างดี ทุกท่านเดินทางไปพม่ากับทัวร์สิ่งที่น่าสนใจมากก็คือ พระเจดีย์ชเวดากอง เป็นที่ยอดนิยมเป็นที่ยอมรับกันเลยว่ามีความสวยงามยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ประดับด้วยอัญมณีอันล้ำค่า หลากหลายชนิด ได้แก่ เพชร ทับทิม นิล ไพลิน และ บุษราคัม เจดีย์ประดับด้วยเพชรขนาดใหญ่ 76 กะรัต ซึ่งมีจุดที่ยืน และสามารถมองเห็นแสงประกายของเพชรในเวลากลางคืนได้ถึง 7 สี เจดีย์ชเวดากองยังเป็นเจดีย์คู่บ้านคู่เมืองของพม่า คำว่า ชเว หมายถึง ทองคำ ส่วนดากองมาจากคำว่า ตะเกิง หมายถึง อวสานแห่งสงคราม หรือการสิ้นสุดของสงคราม หากเราได้เดินทางไปเที่ยวต่างประเทศ
นอกจากเราจะไปเยือนสถานที่ท่องเที่ยวทึ่สำคัญที่มีชื่อเสียงแล้วก็ควรจะหาโอกาสได้ลองลิ้มชิมอาหารพื้นเมืองอันเลื่องชื่อของประเทศนั้นๆ และควรได้ชมการแสดงพื้นเมืองอันแสดงให้เห็นถึงศิลปวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณีของประเทศที่เราไปเยือนอีกด้วย และอีกประการหนึ่งที่สำคัญคือ ควรไปเยือนตลาดสดของเมืองนั้นๆ จะทำให้เราได้รู้จักกับชีวิตความเป็นอยู่ อาหารการกินที่แท้จริงของชาวบ้านชาวเมืองในแต่ละภูมิภาค จึงจะเรียกได้ว่าเที่ยวเป็น เที่ยวได้ครบเครื่องเที่ยวได้ถึงแก่นแท้ ฉะนั้นต่อจากนี้ไปเราจะไปชมการแสดงพื้นเมืองของเมียนมาร์ มีหลายชุดที่โดดเด่น เช่น รำโยเดีย ซึ่งต้นกำเนิดมาจากกรุงศรีอยุธยา คราวที่ถูกกวาดต้อนมาในครั้งเสียกรุงศรีอยุธยา ครั้งที่ 1 การแสดงที่เรียกความสนุกได้ไม่น้อยจากผู้ชมได้ดีก็คือ การแสดงหุ่นกระบอกชัก ทำมาจากไม้ ผูกด้วยเชือกป่าน ใส่เสื้อผ้าเหมือนกับคนจริงๆ ที่แปลกคือ ผมคิ้ว หนวด ใช้ของจริงๆ มาประดับที่หุ่นกระบอกแสดงการเต้นท่าทางตามทำนองเพลงพื้นบ้านแนวตลกขำขันตามนิทานพื้นเมืองที่แพร่หลายรู้จักกันทั่วไป
อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้พม่าหรือเมียนมาร์มีเสน่ห์กว่าที่อื่นก็คือ พระภิกษุ และนางชี ที่เดินบิณฑบาตกันตลอดเวลาตั้งแต่เช้าถึงเย็น ไม่ว่าจะเป็นตามบ้านเรือน ชุมชน วัดวาอาราม ตลอดจนถนนหนทางที่รถได้วิ่งผ่าน ได้ความว่าบิณฑบาตช่วงเช้าเป็นอาหารสดอาหารแห้งช่วงหลังเที่ยงไปแล้วก็บิณฑบาตปัจจัยเป็นเงินที่แปลกตาก็คือ นางชี นุ่งห่มด้วยผ้าถุงสีส้มแดง สวมเสื้อแขนยาวทรงกระบอก คอกลมสีชมพู ห่มด้วยผ้าคลุมบางๆ สีชมพูอ่อนๆ โกนผมแต่ไม่โกนคิ้ว และนำผ้าสีเหลืองคล้างสังฆาฏิวางเทินบนศรีษะ เดินถือหม้ออะลูมิเนียมบิณฑบาตไปตามที่ต่างๆ แปลกตามาก
ถ้าใครเคยไปเที่ยวแล้วจะไม่เคยเห็นที่ใดมาก่อนเลย ที่น่าสนใจอีกสิ่งหนึ่งที่ไม่ควรพลาด คือ พระธาตุอินทร์แขวน “หรือไจก์ทิโย” รัฐมอญเชื่อกันว่า พระอินทร์เสด็จลงมาจากสวรรค์ เพื่อนำเอาพระธาตุมาแขวนไว้ให้ผู้มีบุญมากราบไหว้บูชา ใครได้เข้ามากราบสักการะบูชาก็เท่ากับได้ไหว้พระธาตุเกศแก้วจุฬามณีบนสวรรค์ และจะได้สั่งสมอานิสงค์ให้ไปเกิดร่วมยุคกับพระศรีอริยเมตไตรย์ และผู้ที่มีบุญก็จะสามารถมองเห็นองค์พระธาตุลอยอยู่อย่างชัดเจน (ไม่ติดพื้น) เป็นสิ่งที่น่ามหัศจรรย์ พระธาตุอินทร์แขวนตั้งอยู่บนหน้าผาสูงกว่า 1,200 เมตร จากระดับน้ำทะเล พระธาตุอินแขวนนั้นเป็น 1 ใน 5 มหาบูชาสถานที่ชาวพม่าเครพนับถือสูงสุด ไปทั้งทีต้องไปนมัสการให้ได้สักครั้งหนึ่งในชีวิต
พระธาตุอินทร์แขวนเป็นมหาเจดีย์ที่ศักดิ์สิทธิ์ที่มีความมหัศจรรย์ที่สุดอยู่ในรัฐมอญ เป็นองค์เจดีย์ที่ตั้งอยู่บนชะง่อนผานับเป็นพันๆปีโดยไม่ตกลงพื้น แม้จะมีพายุใหญ่ก็ตาม และแผ่นดินไหวมากมายหลายครั้งก็ไม่มีผลกระทบใดๆ เลย ฉะนั้นนักท่องเที่ยวไทยร้อยทั้งร้อยมักจะนั่งเสลี่ยง กับทุกคนจะเสียเงินท่านละ 800 บาท ไม่เหนื่อย และสนุกดีได้ประสบการณ์ดีแปลกใหม่ หาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว โดยเฉพาะชาวไทยเชื่อกันว่าพระอินทร์เสด็จลงมาแขวนพระธาตุไว้ให้ผู้มีบุญได้มากราบไหว้ ผู้มีบุญจะสามารถมองเห็นองค์พระธาตุลอยอย่างชัดเจน ก้อนหินใหญ่ไม่ติดพื้น หน้าผารวมทั้งชาวเมียนมาร์ยังเชื่อกันว่า ผู้ที่ได้มาสักการะพระธาตุครบ 3 ครั้ง จะพบแต่ความสุข ความเจริญตลอดไป พระธาตุอินทร์แขวนถือว่าเป็นพระธาตุประจำปีเกิดของผู้ที่เกิดปีจออย่างแท้จริง ในช่วงที่มีการเข้าร่วมประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนนี้ก็ขอเรียนเชิญผู้ที่สนใจท่าน
แหล่งข้อมูล ได้จากการอ่านหนังสือ หมวด DS 527.7 จ65 สำนักพิมพ์อทิตตา จำกัด แต่งโดย จิระรัสมิ์ มนตรีมนัส

Leave a Reply

Tags

blog CONSAL KPI PULINET การจัดการความรู้ การดูแลสุขภาพ การทำงาน การท่องเที่ยว การบริการ การปฏิบัติงานล่วงเวลา การประชาสัมพันธ์ การพัฒนาตนเอง การพัฒนาบุคลากร การลงรายการ การศึกษาดูงาน การอ่าน การเรียนออนไลน์ กิจกรรมสำหรับเด็ก กิจกรรมส่งเสริมการอ่าน กิจกรรมห้องสมุด ความสุข ค่ายห้องสมุด งานบริการ ธรรมะ นวนิยาย นักเขียน บรรณารักษ์ บริการชุมชน ประกันคุณภาพ ภาพถ่าย ภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยศิลปากร ระบบห้องสมุดอัตโนมัติ วัด วันสำคัญ วารสาร สัมมนา สุขภาพ หนังสือ หนังสือบริจาค หนังสือและการอ่าน หอสมุดพระราชวังสนามจันทร์ ห้องสมุด ห้องสมุด 24 ชั่วโมง อาหาร