ทัศนคติเชิงบวกกับการทำงานยุคอาเซียน
ทัศนคติเชิงบวกกับการทำงานยุคอาเซียน เป็นวิชาที่ได้จากการเรียนออนไลน์ ของ กพ. (HRD : e-Learning) ซึ่งเนื้อหาน่าสนใจและเราสามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง เนื้อหาสรุปคือ
1. ทำความเข้าใจถึงเรื่องของทัศนคติเชิงบวกด้วยการสำรวจแนวความคิดของตัวเอง คือ ทัศนคติเชิงบวกกับทัศนคติเชิงลบเกิดขึ้นไม่พร้อมกัน เด็กมองทุกอย่างเป็นโอกาส แต่สำหรับผู้ใหญ่มองทุกอย่างเป็นอุปสรรค และเราจับผิดผู้อื่นมากกว่าจับผิดตนเอง
2. ทัศนคติเชิงบวก หมายถึง สภาวะที่มั่นใจ ซื่อสัตย์ และสร้างสรรค์ ซึ่งแต่ละบุคคลได้สร้างขึ้นและรักษาไว้ด้วยเจ้าตัวเป็นผู้เลือก ให้เป็นไปตามแรงปรารถนารับรู้อยู่กับตนเอง เมื่อเรามีทัศนคติเชิงบวก เราก็จะมีความสุขกับตนเองและกับผู้อื่นเราจะมีความนับถือตนเอง มีความรู้สึกดี ๆ ประสบแต่เรื่องดี ๆ และห่างไกลจากเรื่องร้าย ๆ ทัศนคติเชิงบวกสอนให้คิด และทำอย่างสร้างสรรค์ แล้วผลักดันส่วนทัศนคติให้เป็นความจริง คิดเชิงลบจะกัดกร่อนพลังในการทำงานของตัวเรา รวมทั้งคนรอบข้าง บั่นทอนความมั่นใจ ทำลายความคิดสร้างสรรค์ทักษะในการคิด การแก้ปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ กรอบความคิดเชิงลบจะเป็นตัวในการแสวงหาโอกาสของเราโดยไม่รู้ตัว
ทัศนคติคติเชิงบวกยังสัมพันธ์กับความฉลาดทางอารมณ์ (EQ) EQ คือ เป็นความสามารถในการรับความรู้สึกของตนเองและคนรอบข้างเพื่อนำมากระตุ้น ผลักดัน และจัดการอารมณ์ของตนเอง อันจะส่งผลทั้งตนเองและความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง
การพัฒนาความฉลาดทางอารมณ์เพื่อ สร้างความเข้าใจว่าความสามารถทางอารมณ์ช่วยสร้างแรงจูงใจ และปรับปรุงทักษะในการประสานและปรับปรุงความสัมพันธ์กับผู้อื่น
3. การสร้างทัศนคติที่ดีกับการทำงาน เป็นเรื่องที่ต้องฝึกฝนเพื่อทำงานกับผู้อื่นด้วยการสร้างนิสัยแบบใหม่ทางอารมณ์ด้วยการปฏิบัติจริง ได้แก่ หลีกเลี่ยงการพูดในแง่ลบ ใช้คำพูดในแง่บวก หลีกเลี่ยงการเข้าไปสู่สภาวะอารมณ์เชิงลบของคนอื่น ๆ ทำให้พวกเขารู้สึกดีขึ้นด้วยอารมณ์เชิงบวกของคุณ หลีกเลี่ยงการซึมซับข่าวสารทางลบ รับข้อมูลทางบวกแทน เรียนรู้ที่จะทำตัวให้สบายเมื่อต้องอยู่ในที่อึดอัดใจ เปลี่ยน “จุดด้อย” ของตัวเองให้เป็นจุดเด่น
อย่างไรก็ตามยังมีหลุมพรางทางความคิดเชิงลบเกี่ยวกับการทำงานที่เกิดขึ้นกับตัวเรา เช่น มองการทำงานเป็นความเครียดไม่ใช่เรื่องท้าทาย ไม่รู้สึกท้าทายกับปัญหาและอุปสรรค จินตนาการความกลัวกับเหตุการณ์ต่าง ๆ ไปเอง กังวลกับผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นมากเกินไป หลีกเลี่ยงงานยากเพราะไม่อยากลำบาก และคิดว่าทำมากกว่าคนอื่น มองผู้อื่นในเชิงลบกับสิ่งที่เราไม่ชอบ และยึดถือแนวความคิดของตัวเองเป็นหลัก
เทคนิคการเอาชนะหลุมพราง รู้จักมองกับสถานการณ์ใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นอย่างเท่าทัน รู้จักการสร้างคำถามด้วยพลังเชิงบวก ปรับเปลี่ยนความคิดกับเหตุการณ์ใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้น และยอมรับในการเปลี่ยนแปลง
คุณสมบัติของนักคิดเชิงบวก ได้แก่ การมีเป้าหมายที่ชัดเจน การมีวินัยในการทำงาน การมีความคิดสร้างสรรค์
5. การประยุกต์ใช้กับสถานการณ์จริงเพื่อเตรียมความพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงเมื่อเข้าสู่ AEC คือ ต้องรู้จักตามอาเซียนพร้อมปรับตัวกับความเปลี่ยนแปลง และเตรียมพร้อมกับปัญหาที่อาจเกิดขึ้นด้วยการใฝ่เรียน ใฝ่รู้ตลอดเวลา
ข้อคิด จะคิดบวก…คิดลบ อยู่ที่ตัวเรา เราสามารถกำหนดเองได้นะจ๊ะ