กล้วยไข่เชื่อมขนมหวานไทยทำเองได้ง่ายๆ
วันเสาร์ที่ผ่านมา (21 ก.พ.) มีโอกาสได้ไปหาแม่ที่บ้าน ต.หนองโพ จ.ราชบุรี ปกติถ้าได้กลับบ้านทุกครั้งก็จะต้องมีกิจกรรมที่ทำร่วมกัน ส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องของอาหารการกินเพราะโดยส่วนตัวแล้วชอบทำ รู้สึกสนุกดี ที่ชอบทำคือขนมหวานไทย เพราะชอบในกลิ่นของกะทิและใบเตย ซึ่งกลิ่นของมันหอมมากๆ
มาคราวนี้เห็นใบเตยที่บ้านกำลังงามเชียว ก็เลยคิดอยากทำกล้วยไข่เชื่อม เคยอ่านในหนังสือมาแล้วทำไม่ยากก็เลยอยากทำ ชวนลูกสาวออกมาตลาดซื้อกล้วยไข่มา 2 หวี เลือกที่กำลังห่ามๆ เพราะถ้าสุกแล้วพอเชื่อมออกมามันจะเละและไม่สวย
อันดับแรกที่ทำคือ ทำน้ำกะทิสำหรับราดกล้วยก่อน ส่วนผสมก็กะเอาเอง ครั้งนี้ใช้กะทิครึ่งกิโลกรัม เกลือ 1 ช้อนโต๊ะ แล้วก็แป้งเอนกประสงค์ 2 ช้อนโต๊ะ นำมาผสมกันแล้วตั้งไปกวนด้วยไฟอ่อนๆ จนกะทิสุก มีลักษณะข้น และต้องไม่แตกมันนะคะ (ไม่ได้ถ่ายรูปตอนกำลังทำค่ะเพราะมัวแต่กวนกะทิอยู่ เพราะกลัวแตกมัน)
เมื่อทำกะทิสำหรับราดเสร็จ จากนั้นก็มาเตรียมน้ำเชื่อมเพื่อเชื่อมกล้วย ใช้กะทะทองเหลืองนะคะ เพราะมันจะควบคุมระดับความร้อนได้ดี ส่วนผสมต่าง ๆ ก็กะเอาเองอีกแหละ ก็มีน้ำตาลทรายขาวประมาณ ½ ก.ก. น้ำสะอาดประมาณ 2 ถ้วยตวง ใบเตย 4-5 ใบ ล้างให้สะอาดแล้วม้วนใส่ลงไปในน้ำเชื่อม ผสมน้ำกับน้ำตาลทรายเข้าด้วยกันแล้วนำไป ตั้งไฟ คนให้ละลาย (จะได้เป็นน้ำเชื่อม) แล้วนำมาลงกรองด้วยผ้าขาวบางหรือกระชอนตาถี่ๆ ครั้งหนึ่ง
จากนั้นก็เทใส่กลับคืนกะทะ แล้วนำไปตั้งไฟเคี่ยวต่อ โดยจะเคี่ยวน้ำเชื่อมไปเรื่อย ๆ แรกๆ ตอนน้ำเชื่อมยังใสอยู่ จะเห็นว่าฟองตอนเดือดจะเป็นฟองค่อนข้างใหญ่ แต่เมื่อยิ่งน้ำเชื่อมข้นมากขึ้นเท่าไหร่ ฟองก็จะยิ่งเล็กลง ซึ่งเราจะเคี่ยวน้ำเชื่อมให้ลดลงไปประมาณ 1/4 ของส่วนผสมครั้งแรก ก็จะได้น้ำเชื่อมที่มีความเหนียวได้ที่ แล้วเราก็ค่อยเอากล้วยไข่ที่เราปอกไว้ใส่ลงไปเชื่อมค่ะ ก็ปอกเปลือกกล้วยไข่ (ยิ่งเขียวมากยิ่งปอกยาก) ถ้ามีเส้นดำๆ ก็ดึงออกให้หมด แล้วตัดหัวตัดท้ายสักหน่อยเพื่อความสวยงาม ปอกเสร็จก็ใส่ลงไปแช่ไว้ในน้ำที่ผสมน้ำเกลือนิดหน่อย เพื่อไม่ให้กล้วยเปลี่ยนเป็นสีคล้ำๆ (ลืมบอกไปว่าวิธีปอกกล้วสำหรับเชื่อมทำได้ทั้ง 2 อย่าง ถ้าไม่ปอกแช่น้ำเกลือก็สามารถปอกแล้วใส่ลงในกะทะเชื่อมได้เลย)
สำหรับตัวเองแล้วใช้วิธีที่ 2 ค่ะ เพราะสะดวกดี การเชื่อมกล้วยเนี่ยจะต้องใจเย็นๆ จะใจร้อนเร่งไฟแรงๆ ไม่ได้ การเชื่อมกล้วยไข่ (หรือเชื่อมอะไรก็แล้วแต่) ให้ใช้ไฟกลางๆ ค่อนมาทางอ่อนสักหน่อย เพื่อค่อยๆ ให้น้ำเชื่อมซึมเข้าไปในเนื้อกล้วย พร้อมกับความร้อนจากน้ำเชื่อมที่จะทำให้กล้วยค่อย ๆ ระอุ และก็สุกพร้อมๆ กับซึมซับน้ำเชื่อมได้เต็มที่ การสังเกตว่ากล้วยสุกหรือไม่นั้นให้ดูจากกล้วยตัวจะตัวยาวขึ้น จากการทำครั้งนี้จับเวลาแล้วใช้ไปประมาณ 1 ½ ชม. จากนั้นก็ก็ตักขึ้นใช่ถาดเพื่อระบายความร้อน กว่าจะได้กล้วยไข่เชื่อมหน้าตาแบบนี้ (แทรกรูป)
กล้วยยังไม่ทันคลายร้อนเลย..ลูกสาวก็มาขอชิม แป๊ปเดียวหมดไป 3 ลูก (ลูกสาวบอกว่าอร่อยมากๆ) เลยบอกลูกสาวว่าเวลาทำนั้นมันน๊าน…นาน แต่เวลาทานมันแป๊ปเดียวจริงๆ