สายสัญญาณไมโครโฟน กับการดูแลรักษา
สายสัญญาณไมโครโฟน กับการดูแลรักษา
สายสัญญาณไมโครโฟนกับขั้วต่อ มีความสำคัญเป็นอย่างมากที่เราควรจะต้องทราบ และเข้าใจก่อนที่จะเลือกใช้งาน การที่เรานำสายชนิดอื่นมาใช้แบบผิดๆ อาจทำให้เกิดปัญหาเรื่องสัญญาณรบกวนในการใช้งาน และอาจลามไปถึงในส่วนที่เป็นอุปกรณ์ที่นำมาใช้งานร่วมกัน สัญญาณรบกวนได้แก่ คลื่นความถี่ไฟฟ้า, สัญญาณวงจรนาฬิกา, สัญญาณจากเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ, คลื่นรบกวนจากสถานีวิทยุ เป็นต้น
ที่จะกล่าวถึงนี้ ขอกล่าวแค่ในเรื่องของสายสัญญาณไมโครโฟน ที่ใช้ประจำการอยู่ในห้องดูหนังฟังเพลงเท่านั้นนะครับ เพราะว่าสายสัญญาณ และการต่อสายสัญญาณมีหลากหลาย ขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ที่เราใช้งานอยู่เป็นสำคัญ
ส่วนประกอบของสายไมโครโฟนและขั้วต่ออุปกรณ์มีดังนี้
1. ขั้วต่อ XLR แบบตัวเมีย เป็นขั้วต่อสัญญาณเสียงมี 3 ขา สามารถใช้ต่อสัญญาณเสียงแบบ BALANCED SIGNAL โดยต้องใช้การนำสัญญาณทั้งหมด 3 ขาคือ ขา HOT, ขา COLD, ขา GROUND (หรือเรียกว่า บวก, ลบ, กราวด์) หรือแบบ UNBALANCED SIGNAL โดยใช้การนำสัญญาณ 2 ขาคือ ขา SIGNAL และขา GROUND)
2. สายชีลด์ (Shield) หรือสายนำสัญญาณ ภายในสายจะมีสายไฟอยู่ 2 เส้น สายเส้นหนึ่งจะเป็นส่วนของ สัญญาณ และสายอีกเส้นจะเป็นส่วนของกราวด์ สายชีลด์ สายชนิดนี้สามารถป้องกันสัญญาณรบกวน หรือคลื่นรบกวนที่จะเข้ามารบกวนในส่วนของสายสัญญาณ และสามารถป้องกันการแพร่กระจายคลื่นที่เล็ดลอดออกมาจากสายนำสัญญาณได้
3. MONO phone jack ¼ ” แบบตัวผู้ เป็นขั้วต่อสัญญาณเสียง มี 2 ขา (เนื่องจากเป็นแบบ Mono จึงมีเพียง 2 ขา) สามารถใช้ต่อสัญญาณเสียงแบบ UNBALANCED SIGNAL โดยใช้ 2 ขาสัญญาณ (คือขา SIGNAL และขา GROUND)
พอจะทราบส่วนประกอบที่สำคัญๆ ของสายสัญญาณไมโครโฟนกันแล้วนะครับ สรุปก็คือสายสัญญาณที่ใช้ประจำการอยู่นี้เป็นการต่อสายแบบ UNBALANCED SIGNAL ซึ่งเป็นการต่อสายแบบง่ายที่สุด (ในความคิดของผม) เพราะใช้การเชื่อมต่อของสายสัญญาณเพียง 2 เส้น เท่านั้น ทีนี้ก็มาพูดถึงการบำรุงรักษาหรือการซ่อมแซมกัน สายสัญญาณไมโครโฟนส่วนใหญ่ที่เสียจนใช้งานไม่ได้เลยก็คือ มักจะเกิดการขาดในของสายนำสัญญาณ อันเนื่องมาจากการใช้งาน หรือคุณภาพของสายต่ำ
สายสัญญาณไมโครโฟนที่ใช้งาน ส่วนใหญ่จะขาดบริเวณใกล้ขั้วต่อ XLR (ตรงที่ต่อกับตัวไมโครโฟน)
ใช้คีมตัดสายไฟ ตัดสายบริเวณตรงที่เกิดรอยขาด แล้วทำการปลอกสายสัญญาณ
เมื่อปลอกสายนำสัญญาณออกมาจะพบ สายอยู่ภายใน 3 เส้น คือ 1. สาย GROUND 2. สาย SIGNAL 3. เชือก ให้ทำการตัดสาย สาย GROUND และสาย SIGNAL ให้พอดี (ประมาณ 1-2 cm) เพื่อที่จะทำการบักกรีสายเข้ากับขั้วต่อ XLR ส่วนอีกเส้นเป็นเชือกให้ตัดทิ้ง
ใช้หัวแร้งบักกรีสายเข้าตามตำเหน่งเดิมที่บักกรีไว้
ประกอบขั้วต่อ XLR เข้าตามเดิม