ไทยทรงดำที่ดอนยายหอม
ณ ที่ ต.ดอนยายหอม หมู่ที่ 5, หมู่ที่7 และ หมู่ที่9 เป็นหมู่บ้านไทยทรงดำ เป็นที่ทราบกันดีว่า ความเป็นมาของชาวไทยทรงดำนั้นเริ่มต้นเมื่อสมัยยุคสร้างบ้านแปลงเมือง กษัตริย์ไทยได้ยกทัพไปตีเมืองเวียดนามตอนเหนือและกวาดต้อนผู้คนซึ่งเป็นชน เผ่าไทยทรงดำหรือชาวลาวโซ่งกลับมาด้วย เมื่อมาถึงประเทศไทยได้ตั้งถิ่นฐานอยู่รวมกันที่ อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี ต่อมาได้ขยับขยายที่ทำกินไปตามจังหวัดต่างๆ เช่น นครปฐม ราชบุรี กาญจนบุรี สุพรรณบุรี สุโขทัย เลย พิจิตร พิษณุโลก เป็นต้น ในสมัยพระเจ้าตากสินมหาราช ชาวบ้านกลุ่มหนึ่งได้อพยพออกจากเพชรบุรี เพื่อจะกลับไปยังประเทศเวียดนามตามเดิมแต่ก็มาติดอยู่ที่บริเวณตะเข็บ จังหวัดราชบุรีและนครปฐมเสียก่อน เลยตัดสินใจตั้งรกรากกันอยู่ที่นี่จนถึงปัจจุบัน นับเป็นเวลากว่า 219 ปีแล้ว
ชาวไทยทรงดำแถบนี้มีประมาณ 300 ครอบครัว กระจายอยู่ใน 9 หมู่บ้าน ซึ่งชื่อของหมู่บ้านแต่เดิมก็ตั้งตามชื่อหมู่บ้านในประเทศเวียดนามที่พวกเขาจากมา และดำรงวัฒนธรรมประเพณีของตนเองไว้อย่างเหนียวแน่น อาทิประเพณีเสนเฮือน เป็นการไหว้บรรพบุรุษผู้ล่วงลับให้ช่วยคุ้มครองลูกหลาน หรือประเพณีเล่นคอนฟ้อนแคนจะมีในวันขึ้นปีใหม่ของชาวไทยทรงดำ ประมาณเดือนเมษายน
วัฒนธรรม วิถีชีวิตและประเพณีของชาวไทยทรงดำเป็นเอกลักษณ์ของตนเอง การแต่งกาย ชาวไทยทรงดำชอบใช้เครื่องแต่งกายสีดำหรือสีครามเข้มจนเกือบดำ ผู้หญิง ไว้ผมยาวเกือบ ๑ เมตร เพื่อทำทรงผม เรียกว่า ปั้นเกล้า ไว้กลางศีรษะและสับปิ่นไว้ เสื้อผ้ามีเสื้อก้อม เสื้อฮี ผ้าเปียว ผ้าซิ่นสีครามแก่มีลายทางสีฟ้า เรียกว่าลายแตงโม ผู้ชาย สวมเสื้อก้อมหรือเสื้อไทแขนยาว กางเกงขายาวเรียกว่า “ส้วงขาฮีหรือ ส้วงก้อม”มีสีดำ และ”เสื้อฮี”เป็นเสื้อประจำตัวในการประกอบพิธีกรรมต่างๆ ชาวไทยทรงดำยังคงไว้ซึ่งวัฒนธรรมประเพณีเหนียวแน่น ซึ่งรวมไปถึงวัฒนธรรมในเรื่องของอาหาร การทำอาหารพื้นบ้านของชาวไทยทรงดำ จะเน้นหนักไปที่ผัก และ พืชพรรณที่หาได้จากท้องถิ่น มีทั้งยำหัวปลี ต้มจืดหน่อไม้ แกงหยวกใส่ไส้หมู ผัดเผ็ดปลาดุกกับใบยอ และแจ่วปลาทูกินแกล้มกับผักสด ๆ
และก็เป็นเหตุบังเอิญที่หลายเดือนก่อนระหว่างอยู่เวรล่วงเวลา นั่งเปิดตำราอาหารที่นักศึกษานำมาวางไว้ที่โต๊ะข้างๆ เปิดไปเปิดมาเลยได้เจอกับวิธีทำ ” ยำหัวปลี” ที่ระบุว่า เป็นยำหัวปลีแบบไทยทรงดำ ตำบลดอนยายหอม จังหวัดนครปฐม เป็นยำหัวปลีแบบดิบ เลยนำมาเขียนไว้ เผื่อใครสนใจจะได้ลองทำกัน
ส่วนผสม
หัวปลีซอย 2 ถ้วย (แช่น้ำมะขามเปียกละลายกันดำ) หมูต้มสุกสับละเอียด 1 ถ้วย (หมูสามชั้น ซี่โครง หรือสันในก็ได้) น้ำต้มหมูประมาณ1/4 ถ้วย น้ำมะขามเปียก1/2 ถ้วย น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ ยอดมะกอกอ่อน (ถ้าชอบ)
ส่วนผสมพริกสำหรับยำ
มะแข่น 1 ช้อนโต๊ะ ข่า 4 แว่น ตะไคร้ซอย 1ช้อนโต๊ะ หอมเล็ก 2หัว กระเทียม 2หัว พริกแห้งเม็ดใหญ่ 4 เม็ด
วิธีทำ
1. คั่วส่วนผสมพริกสำหรับยำทั้งหมดให้หอม แล้วโขลกให้ละเอียด เตรียมไว้
2. ใส่หมูสับส่วนผสมพริกยำในชามผสม ปรุงรสด้วยน้ำมะขามเปียก น้ำปลา และน้ำต้มหมูเล็กน้อย (อย่าให้แฉะ) คนให้เข้ากัน จึงใส่หัวปลีซอยและยอดมะกอก เคล้าให้เข้ากัน ชิมรสตามใจชอบ
ในหนังสือบอกว่า ยำหัวปลีสูตรนี้เป็นของชาไทยทรงดำ นครปฐมตามสูตรควรซอยหัวปลีให้หนาเท่าก้านไม้ขีด (ไม่เอาส่วนที่เป็นกล้วยอ่อนหรือ “นม” ) และควรแช่น้ำมะขามเปียกให้ท่วม หัวปลีจะได้ขาวๆ
ส่วนมะแข่น หรือพริกหอม ชาวไทยทรงดำเรียกว่า พริกพาน นิยมใส่ในแกงหรือยำเพื่อช่วยดับกลิ่นคาวและเพิ่มกลิ่นหอม
ข้อมูลจาก : http://watpo.com/archive/index.php/t-13823.html
และ http://service.christian.ac.th/ncc/Ethnic/Lao/Lao_Song.html
และสมชาย มหาสิงห์. อาหารจานสมุนไพร. กรุงเทพฯ : ครัวบ้านและสวน, 2548 หน้า 104
One thought on “ไทยทรงดำที่ดอนยายหอม”
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.
ถวนั้นเขาเรียกกันว่า ลาวโซ่ง ขอแนะนำให้ไปเที่ยวที่ ปิยะชนก ที่หนูใหญ่ชอบไป ถ้าจะให้อินควรต้องไปฟังเพลงไทยดำรำพัน และไทยทรงดำจะมีสมาคมฯ ที่ใหญ่มากทั้งในเมืองไทย และในอเมริกา น่าทึ่งค่ะ