ยิ้มให้คนแปลกหน้า
เชื่อหรือไม่ ยิ้มให้คนแปลกหน้า วันละนิด ช่วยให้อารมณ์ดีขึ้น
การยิ้มเป็นสากล ไม่มีการแบ่งแยกเชื้อชาติ ศาสนา แต่เป็นธรรมชาติของมนุษย์ทั่วโลก เป็น non –verbal communication ที่บอกถึงความเป็นมิตร ความอบอุ่น และความพึงพอใจ นักจิตวิทยาด้านมนุษยสัมพันธ์ยืนยันว่า การสบตาและยิ้มย่างเป็นมิตรให้กัน จะช่วยให้คนเรารู้สึกโดดเดี่ยวน้อยลง การยิ้มเป็นสิ่งที่มนุษย์ทำได้ตั้งแต่เป็นทารก เป็นไปตามธรรมชาติโดยไม่ต้องฝึกหัด ซึ่งรอยยิ้มแบ่งได้เป็น 3 แบบ คือ ยิ้มจริงใจ ยิ้มเสแสร้ง และยิ้มเศร้า
1. ยิ้มจริงใจ (ยิ้มธรรมชาติ) คือ ยิ้มที่เปี่ยมล้นไปด้วยความรู้สึกที่ดีงาม ยิ้มจริงใจเป็นการแสดงความรู้สึกทางด้านบวกอย่างแท้จริงจะปรากฏขึ้น เป็นการยิ้มทั้งปากและตา เกิดขึ้นในช่วงระยะเวลาสั้นๆ เพียง 3-4 วินาที เท่านั้น หลังจากได้รับรู้สภาวะของอารมณ์ซึ่งรวมทั้งความยินดีจากสิ่งกระตุ้น ทางตา หู จมูก ลิ้น การสัมผัส การยิ้มจริงใจทำให้ร่างกายผลิตฮอร์โมน “ความสุข” (เอนเดอร์ฟิน) ออกมา ซึ่งฮอร์โมนนี้จะไปออกฤทธิ์ทำให้ม่านตาขยายตัว และตามีประกายของความสุขที่เราเรียกว่า “ตายิ้ม”
2. ยิ้มเสแสร้ง (แสร้งยิ้ม) เป็นรอยยิ้มที่ประดิษฐ์ขึ้น เป็นการยิ้มเพียงปาก แต่กล้ามเนื้อรอบดวงตาไม่เคลื่อนไหว จึงเป็นที่สังเกตได้ว่ายิ้มนั้นไม่จริงใจ ยิ้มเสแสร้ง คือ การเจตนาที่จะพยายามกระตุ้นให้เกิดอารมณ์ความรู้สึกในด้านดี ยิ้มเสแสร้งจะปรากฏบนใบหน้านานกว่ายิ้มจริงใจ
3. ยิ้มเศร้า หรือฝืนยิ้มเมื่อจำเป็นต้องยิ้ม
คนเราแต่ละคนจะมีรอยยิ้มเป็นเอกลักษณ์ของตัวเองแตกต่างกันออกไป รอยยิ้มที่ค้างอยู่บนใบหน้านานเกินไป จะดูเหมือนกับหุ่นยนต์ หรือยิ้มเสแสร้ง ควรมีรอยยิ้มที่จริงใจจะดีกว่า
สิ่งที่ได้จากการยิ้ม
– สร้างเสริมสุขภาพร่างกายและคนที่ยิ้มเก่ง ใบหน้าจะเหี่ยวช้า เนื่องจากกล้ามเนื้อได้ออกกำลังอยู่เสมอ
– สร้างเสริมสุขภาพจิตทั้งสุขภาพจิตของผู้ยิ้ม และผู้ที่เรายิ้มด้วย
– ด้านสังคม การยิ้มจะช่วยลดความรู้สึกแปลกหน้าต่อกันได้ และช่วยสร้างสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกัน
การยิ้มมีคุณค่ามหาศาลแถมยังไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ อีกด้วย
ขอยกบทกลอนของ ศ.นพ. ประสพ รัตนากร BF698.9E45ก44 หน้า 43 ที่ว่า
“ เมื่อเรายิ้มเราไม่เสียอะไรเลย แต่ได้ผลงอกเงยมากนักหนา ผู้ได้รับอิ่มเอมเปรมอุรา ผู้ยิ้มให้ก็ใช่ว่าจะจนลง ”
สนใจข้อมูลเพิ่มเติม ห้องสมุดมีหนังสือแนะนำ ที่หมวด
BF637S8ส82 BF698.9.E45 ก44 และ DS736ว74