วันที่ 1 มิ.ย. 2557 เป็นต้นไป กรมการขนส่งทางบกได้ปรับหลักเกณฑ์ใหม่สำหรับประชาชนที่ต้องการขอใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ทั้งรถยนต์บุคคลและสาธารณะ    ทำให้การทำใบอนุญาตขับขี่ยากขึ้นกว่าเดิม  ต่อไปนี้ใครที่ต้องสอบใบขับขี่ใหม่จะต้องมีการเข้มงวดกับข้อสอบมากยิ่งขึ้นตามที่กรมการขนส่งทางบกมีความปรารถนาต้องการให้เกิดการเปลี่ยนแปลงบนท้องถนนของเมืองไทย เพื่อให้บ้านเรามีระเบียบวินัยมากยิ่งขึ้น

เริ่มจากการตรวจสอบร่างกาย ทดสอบสมรรถภาพของร่างกายรวมถึงเพิ่มชั่วโมงการอบรมให้มากกว่าเดิมที่มีอยู่แค่ครึ่งวัน  ที่สำคัญการสอบข้อเขียนต้องผ่านการทดสอบ 90%   ซึ่งเดิมผ่านแค่ 75% ถือว่าผ่านแล้ว  ดังนั้นผู้ขับขี่ต้องใส่ใจการอบรมถึงจะมีโอกาสสอบผ่านกระบวนการทั้งหมด  ทั้งนี้ที่เป็นข่าวว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงนั้นนับว่าเป็นเรื่องที่ทำให้สังคมเกิดการกระตุ้นตัวเองโดยเฉพาะบรรดาวัยรุ่นมือใหม่ที่ได้จับรถยนต์  รถจักยานยนต์ต้องเตรียมพร้อมรับมือกับการสอบใบขับขี่ที่จะเข้มข้นกว่าเดิม
ทั้งนี้  จากสถิติการเกิดอุบัติเหตุุบนท้องถนนพบว่า สาเหตุสำคัญเกิดจากการขาดวินัยและสำนึกที่ดีในการขับขี่  รวมถึงขาดความระมัดระว้งในการใช้รถใช้ถนนจึงต้องปรับหลักสูตรใหัมีความรู์  ความเข้าใจทีปลอดภัยอย่างแท้จริง  ในการสอบภาคทฤษฎีทั้งหมด 100 ข้อ  ออกเผยแพร่ทางเว็บไซต์  www.dlt.go.th  ใครอ่านมากและทดลองทำมากก็จะทำให้ทำข้อสอบได้
สำหรับค่าใช้จ่ายอาจไม่มีค่าใช้จ่าย  หรือมีก็คิดอัตราค่าอบรมได้ไม่เกินอัตราตามที่กรมกำหนด เมื่อถึง 1 มิ.ย. 2557  จะต้องมีสถานศึกษาอย่างน้อย 1 แห่งในแต่ละจังหวัดที่สามารถดำเนินการอบรมภาคทฤษฎ๊แทนกรมการขนส่งทางบกได้   โดยผู้ที่ผ่านการอบรมสามารถนำหลักฐานมาแสดงเพื่อขอเข้าทดสอบข้อเขียนและทดสอบขับรถกับกรมการขนส่งทางบกได้ต่อไป  ทั้งนี้ สถาบันการศึกษาภาครัฐที่สนใจยื่นเอกสารเพื่อประกอบการพิจารณา สอบถามรายละเอียดได้ที่สำนักงานขนส่งจังหวัดทั่วประเทศ
ตัวอย่าง ประเทศเพื่อนบ้าน อาเซียนเราที่สอบใบขับขี่ขึ้นชื่อเรื่องความหินระดับโลกคือที่ สิงคโปร์ ผู้เข้าสอบต้องรับการอบรมกับโครงการฝึกขับรถของภาครัฐเสียก่อน แม้จะผ่านการฝึกจากโครงการดังกล่าวไปแล้ว ก็ยังมีผู้สอบผ่านเพียง 60% เท่านั้น เมื่อเทียบกับราคาค่าเข้าร่วมโครงการที่แพงถึง 2,000 เหรียญสหรัฐ (ราว 6.4หมื่นบาท)
ประเทศ ฟินแลนด์ ต้องผ่านการฝึกการขับรถของทางการฟินแลนด์ก่อนทุกคน โดยนักเรียนของศูนย์ต้องผ่านการฝึกควบคุมรถขณะที่วิ่งบนถนนที่จับตัวเป็นน้ำแข็ง ใช้เวลาถึง 30 ชั่วโมงและภาคทฤษฎีอีก 20 บทเลยที่เดียว
ประเทศไทย ตายเป็นอันดับ 3 ของโลก สาเหตุใหญ่ประมาทมากถึง 80% เหตุรุนแรงถึง 15 % การสวมหมวกนิรภัยประเทศเรา 70 % ประเทศที่พัฒนาแล้วทั้งยุโรปมีการสวมหมวกนิรภัย 99 % เลยที่เดียว  และพบว่าสาเหตุหลักที่ไม่สวมหมวกเพราะ ผมเสียทรง อึดอัดและรีบ เป็นต้น
หากประเทศไทยเราหากผู้ขับขี่ได้รับการอบรมและผ่านข้อสอบอย่างเข้มงวดจริงจังเช่นประเทศอื่น ๆ อุบัติเหตุคงลดลง
 
จากโพสต์ทูเดย์  31 พ.ค 14