วันสำคัญในรอบปีของมหาวิทยาลัยศิลปากร

มหาวิทยาลัยศิลปากรของเราก่อตั้งมาจนบัดนี้เป็นเวลาถึง 70 ปีแล้วถ้าเป็นคนก็เข้าสู่วัยชรา แต่มหาวิทยาลัยนั้นเป็นสถาบันการศึกษายิ่งมีอายุเพิ่มขึ้นยิ่งแสดงถึงความเข้มขลังและความเข้มแข็งรวมถึงความอยู่ยงคงกะพันของชื่อเสียงและคุณภาพมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน ผลิตบุคลากรออกไปรับใช้สังคมอยู่ในทุกสาขาอาชีพ ที่มีชื่อเสียงปรากฏในระดับประเทศและระดับชาติก็มากมาย แต่กว่ามหาวิทยาลัยจะเดินทางมาถึงวันนี้ได้นั้น ก็ต้องย้อนรำลึกถึงบุคคลสำคัญต่างๆผู้สร้างคุณูปการในการวางรากฐานมาแต่แรกจนแตกหน่อขยับขยายไปหลายวิทยาเขต ดังนั้นมหาวิทยาลัยจึงได้จัดงานเพื่อน้อมรำลึกถึงท่านผู้มีพระคุณเหล่านั้นในทุกๆปี เป็นวันสำคัญต่างๆในรอบปี ดังนี้
1. วันศิลป์ พีระศรี ตรงกับวันที่ 15 กันยายน ของทุกปี ซึ่งตรงกับวันคล้ายวันเกิดของท่าน ท่านอาจารย์ศิลป์นั้นเป็นชาวอิตาลีต่อมาโอนสัญชาติและเปลี่ยนชื่อ-นามสกุลเป็นไทย ชื่อเดิมของท่านคือ คอร์ราโด เฟโรจี ท่านเดินทางเข้ามารับราชการในประเทศไทยในสมัยรัชกาลที่ 6 ท่านเป็นผู้ก่อตั้งโรงเรียนศิลปากรขึ้นเพื่อสอนวิชาศิลปะแบบใหม่ให้คนไทย ต่อมาได้รับการยกฐานะเป็นมหาวิทยาลัยในปีพ.ศ. 2486 ท่านได้วางรากฐานในวิชาประติมากรรม ซึ่งเป็นงานที่ท่านเชี่ยวชาญมาก ชีวิตส่วนใหญ่ของท่านอุทิศให้กับงานศิลปะ ท่านได้ศึกษาค้นคว้าเรื่องเกี่ยวกับศิลปะไทยในทุกสาขาและมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งทั้งทางทฤษฎีและปฏิบัติและยังเขียนเป็นตำราไว้ด้วย  ผลงานด้านประติมากรรมที่สำคัญๆเช่น  พระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชที่เชิงสะพานพุทธฯ, พระบรมรูปพระเจ้าตากสินมหาราช ที่วงเวียนใหญ่, พระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 6 ที่สวนลุมพินี, พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ที่จังหวัดสุพรรณบุรี, รูปปั้นท้าวสุรนารี จ.นครราชสีมา, รูปปั้นที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เป็นต้น  อาจารย์ศิลป์จึงเป็นผู้สร้างยุคแห่งศิลปะไทยแขนงใหม่ขึ้นมาในประเทศไทย และเป็นผู้ก่อตั้งมหาวิทยาลัยศิลปากรแห่งนี้ขึ้นมา
2. วันนริศ ตรงกับวันที่ 28 เมษายน ของทุกปี ซึ่งตรงกับวันคล้ายวันประสูติของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ (พระนามเดิมคือ พระองค์เจ้าจิตรเจิญ เป็นพระราชโอรสองค์ที่ 62 ในรัชกาลที่ 4) ชาวศิลปากรจะจัดงานวันนริศ เพื่อ “ไหว้สมเด็จครู” ซึ่ง “เป็นนายช่างใหญ่แห่งกรุงสยาม” เพราะพระองค์ทรงเชี่ยวชาญในศาสตร์หลายแขนงทั้งอักษรศาสตร์ ประวัติศาสตร์ โบราณคดี และศิลปกรรม โดยเฉพาะด้านศิลปกรรมนั้นพระองค์ทรงสามารถทั้งด้านจิตรกรรม ประติมากรรม สถาปัตยกรรม และดุริยางคศิลป์ สถาปัตยกรรมที่พระองค์ทรงออกแบบไว้และเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายคือ พระอุโบสถวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม รูปปั้นพระแม่ธรณีบีบมวยผม เป็นต้น นอกจากนั้นพระองค์ยังทรงเป็นผู้ออกแบบพระเมรุมาศสำหรับพระราชทานเพลิงพระบรมศพของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ท้องสนามหลวงเมื่อปีพ.ศ. 2468 อีกด้วย  พระองค์ได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้ทรงเป็น “บุคคลสำคัญของโลก” เมื่อปีพ.ศ. 2506 และนับเป็นคนไทยคนที่สองที่ได้รับการยกย่องนี้
3.  วันพระยาอนุมานราชธน ตรงกับวันที่ 14 ธันวาคม ของทุกปี ซึ่งตรงกับวันคล้ายวันเกิดของท่าน ท่านเป็นนักปราชญ์และนักการศึกษาคนสำคัญ ท่านมีส่วนสำคัญในการให้กำเนิดมหาวิทยาลัยศิลปากรอีกคนหนึ่ง แล้วท่านยังเป็นผู้ดำรงตำแหน่งอธิการบดีคนแรกของมหาวิทยาลัยศิลปากรในช่วงปีพ.ศ. 2486-2492 อีกด้วย นอกจากนั้นท่านยังได้ริเริ่มร่วมกับท่านศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี ในการจัดประกวดแและจัดแสดงศิลปกรรมแห่งชาติขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อปีพ.ศ. 2492 และการจัดงานนี้ก็ยืนยาวมาจนมาถึงปัจจุบันนี้ ซึ่งจะมีการจัดประกวดและประกาศรางวัลมาเป็นประจำทุกปี ท่านพระยาอนุมานราชธนเป็นอีกผู้หนึ่งที่ได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโก ให้เป็นบุคลสำคัญของโลก เมื่อปีพ.ศ. 2531
4. วันสมเด็จพระมหาธีราชเจ้า ตรงกับวันที่ 25 พฤศจิกายน ของทุกปี ซึ่งตรงกับวันสวรรตคของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว มหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตพระราชวังสนามจันทร์ จะจัดงานนี้ขึ้นทุกปีเพื่อน้อมรำลึกและถวายสักการะเพื่อแสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านที่มีต่อมหาวิทยาศิลปากรตลอดมา ในอดีตนั้นทางมหาวิทยาลัยจะจัดงานที่พระตำหนักทับขวัญเป็นประจำทุกปี จนถึงปีพ.ศ. 2546 ซึ่งเป็นปีสุดท้าย ก่อนจะย้ายมาจัดงานที่ศูนย์ศิลปวัฒนธรรมเฉลิมพระเกียรติฯจนถึงปัจจุบันนี้
5. วันศาสตราจารย์หม่อมหลวงปิ่น มาลากุล ตรงกับวันที่ 24 ตุลาคมของทุกปี ซึ่งตรงกับวันคล้ายวันเกิดของท่าน จัดงานที่มหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตพระราชวังสนามจันทร์ ท่านเป็นผู้สถาปนาวิทยาเขตพระราชวังสนามจันทร์แห่งนี้  โดยเริ่มก่อตั้งในปีพ.ศ. 2509 และเปิดคณะอักษรศาสตร์ขึ้นเป็นคณะแรกในปีพ.ศ. 2511 และคณะศึกษาศาสตร์ในปีพ.ศ. 2513 โดยมีท่านเป็นคณบดีคนแรกของคณะด้วย ซึ่งในช่วงเวลานั้นท่านศาสตราจารย์หม่อมหลวงปิ่น มาลากุล ดำรงตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยศิลปากรอยู่ด้วยคือช่วงปีพ.ศ. 2508-2514 ท่านดำริจะขยายคณะวิชาให้มีหลากหลายขึ้นแต่พื้นที่ที่ฝั่งท่าพระคับแคบมาก ท่านจึงขยายเขตการศึกษามายังจังหวัดนครปฐม ณ พระราชวังสนามจันทร์แห่งนี้ ด้วยเหตุที่เคยเป็นพระราชวังเก่าของรัชกาลที่ 6 มาก่อน มีเทวาลัยพระคเณศที่รัชกาลที่ 6 ทรงให้จัดสร้างไว้ซึ่งพระคเณศเป็นเทพเจ้าแห่งศิลปะ และเป็นตราของมหาวิทยาลัยศิลปากรอยู่แล้ว นอกจากนั้นยังมีองค์พระปฐมเจดีย์ที่เป็นศูนย์กลางทางด้านโบราณคดีและศิลปะอันสำคัญและเก่าแก่ประดิษฐานอยู่อีกด้วย ประการสำคัญคืออยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯมากนักการเดินทางไปมาก็สะดวก นับว่าท่านมีสายตาอันยาวไกลประกอบกับท่านเป็นนักการศึกษาที่เก่งฉกาจ ท่านจึงได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโก ให้เป็นบุคคลสำคัญ เมื่อปีพ.ศ. 2546 และได้เป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ เมื่อปีพ.ศ. 2530 อีกด้วย
นอกจากบุคคลสำคัญแล้วเรายังมีวันสำคัญที่เกี่ยวข้องกับชาวศิลปากรทุกคน อีก 2 วัน ที่จะมีงานนี้จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีเช่นกัน คือ
  – วันสถาปนามหาวิทยาลัยศิลปากร ตรงกับวันที่ 12 ตุลาคมของทุกปี มหาวิทยาลัยศิลปากรนั้นในครั้งแรกของการก่อตั้งก่อใช้ชื่อว่า โรงเรียนประณีตศิลปกรรม เมื่อปีพ.ศ. 2476 ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น โรงเรียนศิลปากร ในปีพ.ศ. 2478  จนกระทั่งในปีพ.ศ. 2486 จึงได้ยกฐานะขึ้นเป็นมหาวิทยาลัยศิลปากร ตามประกาศราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 12ตุลาคม 2486 จึงถือเอาวันที่ 12ตุลาคมของทุกปีเป็นวันสถาปนามหาวิทยาลัย 
 – วันพระราชทานปริญญาบัตร  ซึ่งจะมีขึ้นในราวเดือนกรกฎาคมของทุกปี (ในปัจจุบัน) งานพระราชทานปริญญาบัตรนั้นถือเป็นงานพิธีอันยิ่งใหญ่สำหรับชีวิตของนักศึกษาที่จบเป็นบัณฑิตทุกคน สำหรับการพระราชทานปริญญาบัตรในครั้งแรกของมหาวิทยาลัยศิลปากรนั้นมีขึ้นเมื่อวันจันทร์ที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2507 โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ เสด็จมาพระราชทานปริญญาทั้งสองพระองค์ และผู้ที่เข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรเป็นบัณฑิตคนแรกของมหาวิทยาลัยศิลปากร ก็คือ ศาสตราจารย์เกียรติคุณชลูด นิ่มเสมอ ซึ่งท่านสำเร็จการศึกษาในปี พ.ศ.2497 เหตุที่เพิ่งมารับพระราชทานปริญญาบัตรในปีดังกล่าวนั้น เพราะในระยะแรกทางมหาวิทยาลัยเปิดสอนเพียงคณะวิชาเดียวคือคณะจิตรกรรมและประติมากรรม(ในขณะนั้น) แล้วท่านเป็นผู้สำเร็จระดับปริญญาตรีเพียงคนเดียวเท่านั้น จึงยังมิได้จัดพิธีอย่างเป็นทางการ จนกระทั่งในเวลาต่อมาทางมหาวิทยาลัยจัดตั้งคณะวิชาเพิ่มขึ้นอีก 3 คณะ คือ คณะสถาปัตยกรรมไทย(ในขณะนั้น), คณะโบราณคดี และคณะมัณฑนศิลป์ ในปีพ.ศ. 2498และ2499 ตามลำดับ จึงมีจำนวนนักศึกษาสำเร็จการศึกษาเพิ่มขึ้น ทางมหาวิทยาลัยจึงเห็นสมควรที่จะจัดงานพีธีพระราชทานปริญญาบัตรขึ้น ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

Leave a Reply

Tags

blog CONSAL KPI PULINET การจัดการความรู้ การดูแลสุขภาพ การทำงาน การท่องเที่ยว การบริการ การปฏิบัติงานล่วงเวลา การประชาสัมพันธ์ การพัฒนาตนเอง การพัฒนาบุคลากร การลงรายการ การศึกษาดูงาน การอ่าน การเรียนออนไลน์ กิจกรรมสำหรับเด็ก กิจกรรมส่งเสริมการอ่าน กิจกรรมห้องสมุด ความสุข ค่ายห้องสมุด งานบริการ ธรรมะ นวนิยาย นักเขียน บรรณารักษ์ บริการชุมชน ประกันคุณภาพ ภาพถ่าย ภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยศิลปากร ระบบห้องสมุดอัตโนมัติ วัด วันสำคัญ วารสาร สัมมนา สุขภาพ หนังสือ หนังสือบริจาค หนังสือและการอ่าน หอสมุดพระราชวังสนามจันทร์ ห้องสมุด ห้องสมุด 24 ชั่วโมง อาหาร