ว่าด้วยเรื่อง บันทึกลับของแอนน์ แฟรงค์

22 February 2014
Posted by Ekanong Duangjak

😯  “หนังสือ “บันทึกลับของแอน แฟรงค์” ในห้องสมุดทั่วญี่ปุ่น กว่า 100 เล่ม ถูกฉีกทิ้ง ยังไม่ทราบสาเหตุและผู้อยู่เบื้องหลัง”

เมื่อวานช่วงค่ำดูข่าวนี้ที่ช่องไทยพีบีเอส ลูกสาวหันมาถามว่าเป็นหนังสือเรื่องเกี่ยวกับอะไร ทำไมถึงถูกฉีก เลยตอบไปเท่าที่จำได้ว่า เป็นหนังสือชีวประวัติเกี่ยวกับเด็กผู้หญิงและครอบครัวที่เป็นชาวยิวในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่เนื้อหาโดยละเอียดจำไม่ได้

วันนี้ก็เลยลองมาค้นอ่านดูพบว่า หนังสือเล่มนี้มีจุดน่าสนใจ 2 เรื่อง คือ

1) “บันทึกลับของแอนน์ แฟรงค์” เป็นหนึ่งใน “หนังสือต้องห้าม 49 เล่ม” ที่ โรงเรียนในสหรัฐอเมริกา ห้ามนำเข้าห้องเรียนประจำปี 2013 ที่นอร์ทวิล รัฐมิชิแกน ซึ่งการเซ็นเซอร์ในโรงเรียนและห้องสมุดในสหรัฐฯ นั้น เพิ่มมากขึ้น เพราะการที่ครูและบรรณารักษ์ต่างมีความพยายามที่จะห้ามหนังสือที่มีเนื้อหา ปัญหาเกี่ยวกับสีผิวและเพศและผลงานการเขียนที่เป็นผลงานของชนกลุ่มน้อยในอเมริกา และสมาคมห้องสมุดแห่งสหรัฐฯ ยังพบว่า สาเหตุที่หนังสือส่วนใหญ่ถูกแบนนั้นมาจากคำร้องเรียนที่เกี่ยวกับ “ความล่อแหลมในเรื่องเพศ ยาเสพติด และภาษาหยาบคาย” แต่กลุ่ม Kid’s Right to Read Project หรือ KRRP ที่มีจุดมุ่งหมายต่อต้านการเซ็นเซอร์ก็ประสบความสำเร็จในการถอนการห้ามหนังสือ “บันทึกลับของแอนน์ แฟรงค์”นี้แล้ว และยังถูกขึ้นบัญชีห้ามในเลบานอนเพราะแสดงภาพพจน์ของชาวยิวและไซออนนิสม์ในทางดี

2) หนังสือเล่มนี้เป็นอีกเล่มหนึ่งที่แปลมาแล้วหลายภาษาและพิมพ์มาแล้วหลายล้านเล่มทั่วโลก สำหรับคนที่พอรู้เรื่องสงครามมาบ้าง รู้ว่าฮิตเลอร์ทำอะไรกับยิวแล้วจะเข้าใจและรู้สึกเห็นใจคนยิว บันทึกของแอนน์เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้รู้เกี่ยวกับคนยิวอีกด้านหนึ่งจากความรู้สึกของเด็กหญิงอายุ 13 ที่มีชีวิตอยู่ระหว่างสงคราม และ เรื่องราวอันตราตรึงใจของแอนน์ แฟรงค์ จะกลับมาเป็นภาพยนตร์อีกด้วย ในรูปของหนังอนิเมชันในเร็วๆ นี้ โดยผู้กำกับ อารี โฟลแมน เพื่อให้ความทรงจำยังอยู่สำหรับเยาวชนรุ่นต่อไป ซึ่งโครงการหนังนี้ได้รับการสนับสนุนเต็มที่จากองค์กร Anne Frank Bond Basel ซึ่งให้ผู้กำกับเข้าดูหลักฐานทางประวัติศาสตร์ทั้งหมดของเรื่องราวนี้ สำหรับเรื่องราวของแอนน์ แฟรงค์ เคยถูกสร้างเป็นหนังทางทีวีและภาพยนตร์มาก่อนหลายครั้ง รวมถึงในฉบับปี 1959 The Diary of Anne Frank ที่ได้รางวัลออสการ์ด้วย

อันเนอลีส มารี “อันเนอ” ฟรังค์ (Annelies Marie “Anne” Frank; 12 มิถุนายน พ.ศ. 2472- ประมาณมีนาคม 2488) หรือมักรู้จักในภาษาไทยว่า แอนน์ แฟรงค์ เป็นเด็กหญิงชาวยิว เกิดที่เมืองแฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี เธอมีชื่อเสียงโด่งดังในฐานะผู้เขียนบันทึกประจำวันซึ่งต่อมาได้รับการตี พิมพ์เป็นหนังสือ บรรยายเหตุการณ์ขณะหลบซ่อนตัวจากการล่าชาวยิวในประเทศเนเธอร์แลนด์ ระหว่างที่ถูกเยอรมนีเข้าครอบครองในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ครอบครัวของเธอได้ย้ายไปยังประเทศเนเธอร์แลนด์ในปี พ.ศ. 2476 หลังจากพรรคนาซีเริ่ม มีอำนาจ ต่อมาเมื่อกองทัพนาซีเข้ายึดครองเนเธอร์แลนด์ พร้อมกับออกมาตรการควบคุมชาวยิวจำนวนมาก เธอและครอบครัวกับผู้อื่นอีก 4 คนจึงต้องไปหลบซ่อนตัวอยู่ในอาคารสำนักงานในเมืองอัมสเตอร์ดัมของออทโท ฟรังค์ผู้บิดาในห้องลับบนหลังคาตั้งแต่ พ.ศ. 2485 จนถูกหักหลังและถูกนาซีจับเข้าค่ายกักกันในปี พ.ศ. 2487 อันเนอ ฟรังค์เสียชีวิตด้วยโรคไข้รากสาดใหญ่ในเวลาใกล้เคียงกับพี่สาวในค่ายกักกันแบร์เกิน-เบลเซินประมาณเดือนกุมภาพันธ์ หรือมีนาคม พ.ศ. 2488 สมาชิกตระกูลฟรังค์มีผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียว คือ ออทโทผู้เป็นพ่อ เขากลับมาอัมสเตอร์ดัมหลังสงครามสิ้นสุดและได้พบสมุดบันทึกของเธอที่เพื่อน เก็บรักษาไว้ให้ จึงพยายามนำออกตีพิมพ์ในปี พ.ศ. 2490 ใช้ชื่อหนังสือว่า “Het Achterhuis” หลังจากนั้นมีการแปลจากต้นฉบับภาษาดัตช์ออกไปเป็นภาษาต่าง ๆ มากมาย ฉบับภาษาอังกฤษใช้ชื่อว่า “The Diary of a Young Girl” ส่วนฉบับแปลภาษาไทยใช้ชื่อว่า “บันทึกลับของแอนน์ แฟรงค์”

ส่วนเรื่องราวในหนังสือ เป็นเรื่องราวของเด็กหญิง แอนน์ กับของขวัญวันเกิดอายุครบ 13 ในปี 1942 นั่นคือสมุดบันทึกปกผ้าลายสก็อตต์ ซึ่งแอนน์ได้ใช้มันเขียนบันทึกและบันทึกของแอนน์ได้กลายเป็นสมบัติล้ำค่าของโลก

ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ออตโต แฟรงค์ พ่อของแอนน์เล็งเห็นว่าชาวยิวจะต้องเดือดร้อนเพราะฮิตเลอร์ เขาจึงอพยพครอบครัวไปอยู่ในเนเธอแลนด์และประกอบธุรกิจ ไม่นานนักมากอท พี่สาวคนโตของแอนน์ก็ถูกเรียกตัว ทั้งหมดจึงต้องอพยพครอบครัวไปอยู่ใน “ที่ซ่อนลับ” ซึ่งเป็นส่วนบนของสำนักงานที่ออตโต แฟรงค์ทำงานอยู่ โดยมีผู้ช่วยเหลือคือ คุณกลูเคอร์ คุณไคล์แมน เบ๊ปและเมี้ยบ ซึ่งในที่ซ่อน ครอบครัวของแอนนท์ มี 4 คนคือ พ่อ,แม่ พี่สาว และแอนน์ กับอีกครอบครัวหนึ่งคือ ครอบครัววานดาน มีนายและนางวานดานพร้อมด้วยลูกชายคือปีเตอร์ ไม่นานที่ซ่อนลับก็มีสมาชิกเพิ่มขึ้นอีกคนหนึ่งคือคุณหมอดุสเซิล ทั้ง 8 คนอาศัยอยู่ด้วยความ “เงียบ” มีอาหารหลักคือถั่ว มันฝรั่ง อาหารกระป๋อง พวกเขายังมีบัตรปันส่วนแบ่งอาหารเพื่อแลกของ และมีเงินเพื่อซื้อของในตลาดมืด

ช่วงสงครามเป็นช่วงที่ของกินอัตคัดและทุกอย่างเป็นเรื่องลำบากสำหรับชาวยิว ที่ต้องหลบซ่อนเพื่อหลีกหนีการจับกุมของทหารเยอรมนีที่จะส่งพวกเขาไปค่าย กักกันและเข้าห้องรมแก๊สให้ตายในที่สุด

แอนน์เขียนบันทึกในขณะที่ใช้ชีวิตอยู่ในที่ซ่อนลับนั้น 2 ปีก่อนที่จะถูกจับได้และส่งไปค่ายกักกันในต่อมาและระหว่างสองปีนั้นเรื่อง ที่แอนน์เขียนในสมุดบันทึกเป็นเรื่องของการใช้ชีวิต ประจำวันของสองครอบครัวซึ่งจะมีตั้งแต่เรื่องของนางวานดานช่างพูด ปีเตอร์ผู้เงียบขรึมขี้อายและหมอดุสเซิลผู้เห็นแก่ตัว แอนน์ไม่ชอบพวกผู้ใหญ่ ไม่ชอบแม่แต่แอนน์เทิดทูนพ่อ เพราะเขาเป็นฮีโร่ของเธอ

ในที่ซ่อนลับ พวกเขาทั้งหมดได้เรียนหนังสือผ่านทางไปรษณีย์โดยใช้ชื่อเบ๊ปหรือเมี้ยป สำหรับการสมัครเรียน พวกเขาเรียนวิชาพีชคณิต ชวเลขและภาษาต่างประเทศเป็นหลัก แอนน์ชอบเรื่องราวเกี่ยวกับราชวงศ์ พวกเขาได้รับข่าวสาร “ข้างนอก” จากพวกที่คอยช่วยเหลืออยู่และจากวิทยุ จึงได้รู้ถึงความเคลื่อนไหวของสงครามตลอดเวลา อีกทั้งในบางครั้งก็มีเครื่องบินมาทิ้งระเบิดอยู่ใกล้ๆ ให้ได้ยินเสมอ

สองปีที่อยู่ในที่ซ่อนลับเหมือนติดคุก พวกเขาไม่สามารถที่จะออกกำลังกายกลางแจ้งได้ ส่งเสียงดังไม่ได้ เปิดม่านไม่ได้ ใช้ห้องน้ำเป็นเวลา และต้องทำตามกฎระเบียบของที่ซ่อนลับ บางครั้งแอนน์ก็โทษโชคชะตาที่ทำให้เธอต้องมาอยู่ในที่ซ่อนลับแต่บางทีเธอก็ ขอบคุณโชคชะตาที่ทำให้เธอมีโอกาสได้มีชีวิตอยู่ “แม้เพียงแค่ 1 ชั่วโมงแต่มันก็คือชีวิต”

บันทึกวันสุดท้ายของแอนน์คือ 1 สิงหาคม 1944 ก่อนที่จะถูกจับเพียง 3 วัน เมี้ยปเป็นคนเก็บสมุดบันทึกของแอนน์ซ่อนไว้และมอบให้ ออตโต แฟรงค์ พ่อของแอนน์ ซึ่งเป็นคนเดียวในจำนวน 8 คนจากที่ซ่อนลับที่รอดชีวิตหลังสงคราม

สำหรับตัวเล่มใครอยากอ่านไปหาอ่านได้ค่ะที่ แฟร้งค์, แอนน์. บันทึกลับของแอนน์ แฟร้งค์ (ฉบับสมบูรณ์) = Anne Frank : the diary of a young girl (the definitive edition) แปลโดย สังวรณ์ ไกรฤกษ์. กรุงเทพฯ : ผีเสื้อ, 2542 เลขหมู่ D810.J4ฟ84

รายการอ้างอิง

เรื่องราวของ Anne Frank จะถูกสร้างเป็นหนังอนิเมชัน โดยผู้กำกับจาก Waltz With Bashir

http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=arcturus&month=27-10-2005&group=4&gblog=7

http://www.manager.co.th/around/viewnews.aspx?NewsID=9560000157634

http://th.wikipedia.org/wiki/รายชื่อหนังสือต้องห้ามโดยรัฐบาล

http://th.wikipedia.org/wiki/อันเนอ_ฟรังค์

//

Leave a Reply

Tags

blog CONSAL KPI PULINET การจัดการความรู้ การดูแลสุขภาพ การทำงาน การท่องเที่ยว การบริการ การปฏิบัติงานล่วงเวลา การประชาสัมพันธ์ การพัฒนาตนเอง การพัฒนาบุคลากร การลงรายการ การศึกษาดูงาน การอ่าน การเรียนออนไลน์ กิจกรรมสำหรับเด็ก กิจกรรมส่งเสริมการอ่าน กิจกรรมห้องสมุด ความสุข ค่ายห้องสมุด งานบริการ ธรรมะ นวนิยาย นักเขียน บรรณารักษ์ บริการชุมชน ประกันคุณภาพ ภาพถ่าย ภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยศิลปากร ระบบห้องสมุดอัตโนมัติ วัด วันสำคัญ วารสาร สัมมนา สุขภาพ หนังสือ หนังสือบริจาค หนังสือและการอ่าน หอสมุดพระราชวังสนามจันทร์ ห้องสมุด ห้องสมุด 24 ชั่วโมง อาหาร