กระดาษ A4 เรียกว่าเป็นนางเอกของการทำงานก็ว่าได้  มาทำงานทุกวันไม่มีวันไหนที่ไม่ได้จับน้อง A4 เลย   แม้จะคุ้นเคยกันมานาน แต่กระดาษ A4  ก็มีมุมที่น่าทึ่ง(ที่เพิ่งรู้)ไม่น้อยเลยทีเดียว
กระดาษ A4 เป็นหนึ่งในขนาดของกระดาษหมวด A (A series) ตามมาตรฐาน ISO 216 โดยกระดาษที่มีสัดส่วนตามมาตรฐานนี้ เมื่อพับครึ่งตามยาว จะได้กระดาษที่เล็กลงครึ่งหนึ่งแต่ยังมีสัดส่วนคงเดิม  เหตุที่นิยมใช้กระดาษขนาด A4 กันในทุกวันนี้ก็เพราะ กระดาษ A4 มีสัดส่วนที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด โดยที่ว่าสัดส่วนแบบนี้มีประสิทธิภาพก็เพราะ ถ้าเราผลิตกระดาษตั้งต้นแผ่นใหญ่จากโรงงานด้วยสัดส่วนนี้ เราจะแบ่งครึ่งมันให้เล็กลงไxได้เรื่อยๆ โดยสัดส่วนจะไม่เปลี่ยนไปเลย จากนั้นเราก็แค่แบ่งย่อยให้เล็กลงๆจนได้ขนาดที่เหมาะกับการใช้งานประเภทต่างๆ
เช่น…   เราเริ่มต้นที่กระดาษแผ่นใหญ่สุดที่เรียกว่า ขนาด A0
เมื่อเราแบ่งครึ่งกระดาษ A0 เราก็จะได้กระดาษขนาด A1 สองแผ่น  (กระดาษ A1 ก็คือขนาดที่ใช้กับโปสเตอร์ตามหน้าโรงภาพยนตร์นั่นเอง)
เมื่อเราแบ่งครึ่งกระดาษ A1 เราก็จะได้กระดาษ A2 แบ่งครึ่งกระดาษ A2 ก็จะได้ A3
และเมื่อแบ่งครึ่งกระดาษ A3  เราก็จะได้กระดาษ A4 ที่เราคุ้นเคยกันนั่นเอง

การแบ่งครึ่งแล้วยังคงสัดส่วนเดิมไว้ มีข้อดีอยู่ที่กระดาษทุกขนาดจะสามารถขยายขนาดขึ้น หรือย่อลงให้พอดีกับทุกๆขนาดในกระดาษหมวด A นี้ได้  หากเรามีรูปภาพขนาด A1 เราก็สามารถย่อลงไปใส่กระดาษ A4 ได้พอดี  หรือถ้าต้องการพิมพ์เอกสารสองหน้าคู่ ก็เพียงแค่เลือกขนาดกระดาษให้ใหญ่ขึ้นไปสเต็ปนึง ด้วยวิธีการแบบนี้ เราก็จะไม่มีเศษเหลือของกระดาษที่ต้องตัดทิ้งให้สิ้นเปลือง
ถ้าใครเคยสังเกตขนาดของกระดาษ A4 ก่อนสั่งพิมพ์เอกสารในคอมพิวเตอร์ จะเห็นว่ากระดาษ A4 มีขนาดเป็นตัวเลขแปลกๆจำยากๆ คือ กว้าง 21 เซ็นติเมตร และยาว 29.7 เซนติเมตร  สาเหตุที่ตัวเลขดูไม่ลงตัวแบบนี้ก็เพราะมาจากการคำนวนสัดส่วนที่ทำให้กระดาษเมื่อพับครึ่งแล้วยังคงได้สัดส่วนเท่าเดิม ความกว้างต่อความยาวที่เป็นไปได้มีแบบเดียวเท่านั้น นั่นคือ กว้าง 1 ส่วน ยาว สแควร์รูท 2 ส่วน  หรือประมาณ 1 ต่อ1.414   กลายเป็นที่มาของขนาดกว้างยาวจำยากๆของกระดาษหมวด A ทั้งหลายที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้