ดวงคนจะเป็น “ดาว” นี่ห้ามไม่อยู่จริงๆ ฉับพลันที่ย้ายลุงและพี่ๆ น้องๆ ลงไปแสดงตัวให้ผู้คนรู้จักและสัมผัสกับการทำงานแบบตัวจริงของจริง “ลุง” เลยเป็นขวัญใจของคนที่ผ่านไปผ่านมา
“ลุง” เป็นสรรพนามที่พวกเราใช้แทนเรียกพี่มานิตย์ เท่าๆ กับ “ป้า” ใช้เรียกพี่จันทร์ทอน
แต่ “ลุง” ในงานทับแก้วบุ๊คแฟร์นั้นอิฉันตีความว่าคือโลโก้ของคลินิกหนังสือ ที่เกิดจากทุกๆ คนที่ช่วยเหลือกัน มีอาจารย์ท่านหนึ่งมาคุยพร้อมกับจดจำชื่อทุกคนและถ่ายรูปไว้ พร้อมกับชักชวนเพื่อนอาจารย์ท่านอื่นมาสนทนา และแถมยังป็นอาจารย์ชาวต่างประเทศ
เกือบทุกวันจะมีสองเจ้ผู้น่ารัก ที่หื้วหนังสือทั้งที่ซื้อจากงานนี้ และหิ้วมาจากบ้านมาแวะหา “ลุง” มีน้องผู้หญิงที่เหมือนน้องเขียดของเราทั้งหน้าตา รูปร่่าง วิธีการพูด จนเรางงว่าอะไรจะเหมือนกันขนาดนี้ เลยแนะนำให้รู้จักกับน้องๆ เพราะต่างจะได้มีเพื่อนมากขึ้น และบอกให้เค้าเข้ามาอ่านหนังสือในห้องสมุดของเรา
มีนักศึกษาเฮ้วๆ ยกหนังสือมาบอกว่าทำได้ป่ะ? บรรดาลุงๆ ตรวจอาการบอกว่าทำได้ หลายคนแวะเวียนมา บอกว่าเสาร์อาทิตย์จะมาใหม่อีกครั้งนะครับ
ถามนิวาศสถานของ “ลุง” ลุงบอกว่าอยู่ชั้น 4 คร๊าบบบ
คุณหนูใหญ่คงต้อง renovate บ้านของ “ลุง” เร็วกว่าเดิมกระมังคะ

อิฉันอัพเดทสเตตัสในงานบุ๊คแฟร์ตลอดงาน จนชายหนุ่มบอกว่ารูดปรื้ดทั้งวัน พบว่ารูปของ”ลุง” โคจรอยู่ในโลกออนไลน์ด้วยความชื่นชม…. รูปนี้มีการแชร์ไปทั้งสิ้น 18 ครั้ง ตามไปดูที่แชร์พบว่ามีการกด like สะระตะเป็นร้อย
อ่าน comment แล้วยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ เล่าให้ลุงฟัง ลุงบอกจริงเหรอ เลบต้องรูดปรื้ดๆให้ลุงดูหลักฐาน… ลองอ่านกันดูนะคะ
เยี่ยมค่ะ, ดูคุณตาในบู้ทเย็บหนังสือให้ค่ะ.,ความคิดที่เก๋กู๊ดค่ะ,สุดยอด,กิจกรรมเก๋กู้ดค่ะ, ดีจังเลย อนุรักษ์ศิลปะซ่อมหนังสือที่ค่อยๆเลือนหาย, งานสัปดาห์หนังสือที่.. มีการสอนทำบ้างซิจ๊ะ พี่จะได้ไปเรียนรู้ไว้บ้าง,ชอบๆ, หนังสือเจ็บป่วยก็มีหมอดูแลนะครับ, ดีจังค่ะงานหนังสือน่าจะมีแบบนี้บ้าง, ดีจังมีแบบนี้ด้วย, ไปขอถ่ายทอดวิทยายุทธได้เป่าคะ, ต้องขอขอบคุณ คุณลุงมากครับที่ทำให้หนังสือสุดยอดพระเครื่องเมืองนครปฐม กลับมีชีวิตอีกครั้งหนึ่ง ฯลฯ
อิฉันในฐานะผู้ชมรู้สึกสุขนิ่งนัก …อบอุ่นในยามที่หนาวเหน็บ…
ขอบคุณทุกคนค่ะ
ปล.งานนี้มีการพูดกันมาก่อนหน้านี้จากคณะทำงานชุดก่อนๆ ส่วนปีนี้ก็แค่ทำให้เป็นจริง