จิต มาจากไหน

ได้อ่านเรื่องกรรมที่พี่แมวเขียน เลยขอเขียนเรื่องจิตบ้างว่าทำไมเรายังจำเรื่องต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้อย่างดี บางคนจำขนาดที่ว่าจำได้ฝังใจ บางคนจำได้แม้เรื่องราวของอดีตชาติ บางคนจำอดีตชาติไม่ได้ แต่กลับเป็นผู้เรียนรู้จดจำบางเรื่องราวได้รวดเร็วเหลือเกิน สามารถร้องเพลงหรือบอกอุปนิสัยใคอของบุคคลนั้นๆ ได้อ่างถูกต้องแม่นยำ แต่ทำไมบางเรื่องเพิ่งเกิดแท้ๆ กลับนึกอะไรไม่ออก มันเกิดจากอะไร รู้ไหม
มันเกิดจากจิตไงล่ะ ทุกอย่างที่เกิดที่เป็นล้วนเกิดจากจิตทั้งนั้น จิตของคนเรา ของสัตว์ ล้วนมี 2 จิต คือ จิตแท้ กับจิตปลอม
จิตปลอมก็คือ สิ่งที่แสดงความเป็นตัวตนเราทุกวันนี้ เป็นสิ่งติดตัวมาแต่กำเนิดหรือที่คนทั่วๆ ไปเรียกว่า สันดาน แต่พวกที่คงแก่วัด เขาจะเรียกว่า อนุสัย ที่ติดตัวมาแต่ชาติปางก่อนๆ ซึ่งเราเชื่อกันแล้ว..ชิมิ ว่ามันมีจริง
สิ่งที่จิตปลอมคิด จะแสดงออกทางคำพูด สิ่งที่พูดบ่อยๆ จะกลายเป็นการกระทำ สิ่งที่กระทำบ่อยๆ จะกลายเป็นพฤติกรรม สิ่งที่เป็นพฤติกรรม จะกลายเป็นสันดาน

ส่วนจิตแท้ อยู่ที่ไหน ก็อยู่ที่ตัวเรานี่แหละ มีอยู่ในสิ่งมีชีวิตทุกชนิด และคนทุกคน สัตว์ทุกประเภทก็สามารถเข้าถึงจิตเดิมแท้ได้ทั้งหมด เกจิอาจารย์ที่มั่นฝึกฝนเข้าฌานสมาธิ ก็เพื่อให้เห็นจิตเดิมแท้นี่แหละ แต่ใช่ว่าทำได้แต่เกจิเท่านั้น เราๆ ท่านๆ ก็ทำได้และอาจทำได้โดยฉับพลันหากรู้ทางลัดการเข้าสู่ประตูญาณ
ผู้ที่สามารถเห็นจิตแท้ตนเองแล้ว เขาจะกลายเป็นผู้สว่าง เหมือนแก้วที่สะอาดหมดจด จะมองจาดด้านอกเข้ามาข้างในหรือมองจากข้างในออกสู่ภายนอก ก็สว่างสดใส มองเห็นทุกสิ่งได้อย่างชัดเจนจากทุกมุม สอาดหมดจดจนเหมือนไม่มีแก้วใบนั้นให้เห็นอีก ทั้งๆ ที่ยังมีแก้วใบนั้นอยู่ ….. ใช่แล้วล่ะเป็นการยากอย่างยิ่งที่จะทำได้เช่นนั้น …. แต่เขาว่ากันว่า มันทำได้และทำได้จริงๆ
มีเรื่องเล่ามาแต่ครั้งพุทธกาลว่าวิญญาณของมนุษย์มาจากแดนอื่นที่เราก็จำไม่ ได้เสียแล้ว เมื่อมาเกิดในโลก ก็พลันลืมที่อยู่เดิมภาพเดิมๆ ในอดีต เหมือนเรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้
ที่ประเทศอินเดีย มีคนเลี้ยงแกะคนหนึ่ง ทุกๆ วันชายผู้นี้จะต้อนฝูงแกะไปกินหญ้าที่เชิงเขา ตกเย็นก็ต้อนกลับเข้าคอก วันหนึ่งเมื่อมาถึงกลางทาง ก็ได้ยินเสียงร้องครวญคราง ครั้งแรกนึกว่าแมวร้อง จึงเดินเข้าไปดูใกล้ๆ แลเห็นว่าเป็นลูกสิงโตที่เพิ่งเกิด กำลังร้องหิวนม ชายผู้นี้สงสาร จึงอุ้มไว้ในอกแล้วนำกลับมาเลี้ยงที่บ้าน อาศัยให้กินนมจากแม่แกะ ซึ่งต้องกินจากแม่แกะถึง 4-5 ตัวจึงจะอิ่ม ลูกสิงโตจึงทึกทักเอาว่าแม่แกะทุกตัวคือแม่ของตน
เมื่อสิงโตเติบใหญ่ ก็ติดนิสัยชอบกินหญ้าและคำรามไม่เป็น วันหนึ่งขณะกินหญ้า เกิดคอแห้ง จึงเดินไปที่ลำธาร พบว่ามีสัตว์น่ากลัวตัวนึงกำลังอ้าปากจะงับตน ความตกใจจึงส่งเสียงร้องคำรามดังสนั่นไปทั่ว ตอนนี่เองที่สิงโตเริ่มคิดว่าเกิดอะไรขึ้น ตัวสิงโตเองก็ตกใจว่าเสียงคำรามนั้นมันมาจากไหน แล้วใบหน้าที่น่ากลัวนั้นเป็นใครกัน จึงตั้งสติทดสอบตนเองอีกหลายครั้ง ลองก้มลงไปที่ลำธารอีกซิว่านั่นใครกัน เมื่อลูกสิงโตส่ายหน้า สัตว์ในน้ำก็ส่ายหน้า เมื่อลูกสิงโตแลบลิ้น สัตว์ประหลาดในน้ำตัวนั้นก็แลบลิ้นตาม ลูกสิงโตเลยรู้ว่า สัตว์ตัวที่อยู่ในน้ำก็คือเงาของตนเองที่หน้าตาไม่เหมือนพ่อแม่พี่น้องเอา เสียเลย ภายหลังจึงรับรู้ได้ว่า แท้จริงแล้วเราเป็นสิงโต ไม่ใช่แกะ

เอ! แล้วลูกสิงโต จะเลือกทำยังไง… จะเลือกกลับไปอยู่กับแกะ หรือว่าจะเลือกไปอยู่กับแม่แท้ๆ ของตนที่กำลังตามหาลูกของตัวเองที่พลัดพรากจากกันไปนาน ……

เรื่องแบบนี้เรามีคำตอบ 😮

5 thoughts on “จิต มาจากไหน

  • มิซาบเว่คือไรคะ ไม่ธรรดาจริงขนาดธรรมะยังมีศัพท์วัยรุ่น

  • ป้าหน่อยจะมาขายตรงอีกรึป่าวเนี่ย…..ถ้างั้นไม่ต้องรอให้ตอบ ขอตอบก่อนว่า ถ้าผมเป็นสิงโตผมจะยอมรับความเป็นสิงโต ใช้ชีวิตแบบสิงโต แต่จะกินหญ้าต่อไปแบบแม่แกะ แบบว่าสิงโตถือศีลกินเจไง 5555555

  • เมื่อคืนอุตส่าห์เขียนเม้นท์แต่เน็ตไม่เป็นใจ เพราะออกไปแล้วนึกขึ้นมาได้้ว่าสมัยเรียนมหาวิทยาลัยมีพระนักเทศน์คนหนึ่งไปเทศน์ แล้ว ตั้งคำถามว่า แม่กับเมียกำลังจมน้ำ จะเลือกช่วยใคร คนตอบเป็นเด็กนักเรียนสาธิต ตอบว่าเลือกเมีย เหตุผลคือเมียกำลังท้องและเป็นแม่ของลูก แต่โดยยำซะ…. ทำใ้ห้หลายคนไม่พอใจ ส่งเสียฮือฮา และวิพากษ์วิจารณ์กันมาก เหตุผลคือท่านไม่สามารถอธิบาย… ส่วนตัวเองบอกเพื่อนว่าพระมาเทศน์วันแม่ ไม่ได้มาเทศน์วันเมียนี่หว่า แล้วก็ค่อยๆ เดินออกจากห้องประชุม
    หลังจากนั้นทำให้ห่างวัดมาก ทั้งที่สมัยเด็กๆ ชอบไปวัดถึงขนาดไปถือศีลทุกวันพระ หากตรงกับวันศุกร์ เสาร์ หรืออาทิตย์ ทั้งนั่งสมาธิและเดินจงกลมทำมาตั้งแต่เด็กและยังติดตัวมาถึงปัจจุบัน
    หลังจากที่ห่างวัดไปนาน พอจบออกมาที่ทำงานเก่าจะมีสองฝ่ายเราเรียกกันเล่นๆ ว่าฝ่ายธรรมะ ที่กินข้าวมื้อเดียว เคร่งครัดมาก กับฝ่ายอธรรม ที่ชอบกินของอร่อยๆ (คงทายออกว่าหนูอยู่ข้างไหน) ทุกเช้าที่ฝ่ายธรรมะกินข้าว ฝ่ายอธรรมจะเริ่มบรรเลงตั้งคำถามแล้วว่าทำไมต้องกินข้าวมื้อเดียว ทำไมต้องกินมังสวิรัติ ทำไมและทำไม มีพี่อยู่คนหนึ่งรีบมากใส่อาหารทุกอย่างลงในเครื่องปั่นแล้วใช้หลอดดูด อธรรมก็เริ่ม… พี่เขาบอกว่าก็ทุกอย่างมันก็จะไปรวมกันเอง ที่พวกเธอกินๆ น่ะมันมายา แต่ในวันปีใหม่หัวหน้าฝ่ายอธรรมให้หนังสือเรื่องแผ่วผ่านธารน้ำไหล แซวกันหนักๆจึงเบื่อกันไปเองหันมาให้ความเคารพในการใช้ชีวิตของแต่ละคน จึงไปเที่ยวไหนต่อไหนกันได้ แต่มีกฏอยู่ข้อหนึ่งคือไปไหนต้องใส่รองเท้า เพราะพี่แกสามารถเดินเท้าเปล่าไปไหนก็ได้เท่าที่ใจต้องการ สรุปว่าทำกรรมดีไว้ก็แล้วกัน พี่แมวเคยบอกเรื่องนี้เสมอว่าไม่ได้กับตัวเองก็ขอให้ได้กับลูก

  • โดยหลักแห่งธรรมแท้ก็คือธรรมชาติ ไม่ได้แยกฝ่ายแยกกลุ่ม จะอยากเป็นแกะหรือเป็นสิงโตก็ได้ ทุกคนเลือกกันเอง จะเลือกินข้าวมื้อเดียวแบบว่าเคร่งครัด ก็อาจเป็นผู้ฝืนธรรมชาติก็ได้ เพราะโดยหลักการก็ควรกินเป็นช่วงๆ ละ รวมแล้วประมาณ 2-3 มื้อ เพื่อให้ถุงใส่อาหารในท้องเรารู้ว่าจะพอรับน้ำหนักของที่ใส่ไหวไหม ก็คงสรุปได้แบบเดียวกันว่า ทำกรรมดีไว้ก็แล้ว กัน แต่ว่าเมื่อไหร่ จะมีผู้เห็นด้วยอยากซื้อสินค้าของเรามั่งนา…

  • สาธุ๊…นู่ขอเป็นทั้งแกะ และสิงโต ตามกาลเวลา
    หรือเรียกง่ายๆ ว่าเป็นเทพอสูร ละกัน 55

Leave a Reply

Tags

blog CONSAL KPI PULINET การจัดการความรู้ การดูแลสุขภาพ การทำงาน การท่องเที่ยว การบริการ การปฏิบัติงานล่วงเวลา การประชาสัมพันธ์ การพัฒนาตนเอง การพัฒนาบุคลากร การลงรายการ การศึกษาดูงาน การอ่าน การเรียนออนไลน์ กิจกรรมสำหรับเด็ก กิจกรรมส่งเสริมการอ่าน กิจกรรมห้องสมุด ความสุข ค่ายห้องสมุด งานบริการ ธรรมะ นวนิยาย นักเขียน บรรณารักษ์ บริการชุมชน ประกันคุณภาพ ภาพถ่าย ภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยศิลปากร ระบบห้องสมุดอัตโนมัติ วัด วันสำคัญ วารสาร สัมมนา สุขภาพ หนังสือ หนังสือบริจาค หนังสือและการอ่าน หอสมุดพระราชวังสนามจันทร์ ห้องสมุด ห้องสมุด 24 ชั่วโมง อาหาร