ประวัติและวิวัฒนาการของพจนานุกรม (ตอนที่1)
“พจนานุกรม” เป็นคำภาษาไทย ตรงกับคำภาษาอังกฤษว่า “Dictionary” พจนานุกรมจัดเป็นหนังสืออ้างอิง หรือ Reference Book เป็นหนังสือที่รวบรวมคำในภาษาใดภาษาหนึ่งโดยเรียงลำดับคำตามตัวอักษร แล้วให้ความรู้หรือความหมายของคำนั้นๆเพียงสั้นๆและบอกประวัติที่มาของคำ บอกวิธีการเขียน สะกด การันต์ การออกเสียงอ่าน คำว่า “Dictionary” นั้นเริ่มมีใช้ในยุคกลางราวศตวรรษที่ 16 มีรากคำมาจากศัพท์ภาษาละติน คือคำว่า dictio, dictionarium หลังจากศตวรรษที่ 18 พจนานุกรมได้รับความสนใจและถูกพัฒนาให้ก้าวหน้ามาจนถึงปัจจุบัน พจนานุกรมจึงเปรียบเสมือนบันทึกความเปลี่ยนแปลงของภาษา เพราะทุกภาษานั้นมีชีวิต มีความเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาไม่เคยหยุดนิ่งตามอิทธิพลต่างๆในสังคม วัฒนธรรม การเมือง การศึกษา การใช้ภาษาในยุคหนึ่งอาจมีการปรับเปลี่ยนไปจากแบบเดิมที่เคยใช้มา แต่ความต้องการของผู้ใช้พจนานุกรมไม่เคยเปลี่ยนไป จึงมีการสร้างพจนานุกรมใหม่ขึ้นตลอดเวลา แต่ยังต้องคงคุณสมบัติหรือคุณลักษณะที่สำคัญของความเป็นพจนานุกรมเอาไว้อย่างครบถ้วนเสมอ
ในยุคแรกๆที่มีการทำพจนานุกรมนั้น การจัดทำจะใช้วิธีการจดบันทึกข้อมูลด้วยมือลงกระดาษ ซึ่งต้องใช้ความอุตสาหะอย่างมาก ตั้งแต่การจดบันทึกรายการคำศัพท์ การเขียนนิยามศัพท์ การเพิ่มคำใหม่หรือความหมายใหม่ การแก้ไขคำผิด การสะกดคำ จนกระทั่งในปีค.ศ. 1604 ได้มีการตีพิมพ์ dictionary เล่มแรกขึ้นใช้ชื่อว่า Dictionary of Hard Words โดย Robert Cawdrey แต่ผู้ที่มีชื่อเสียงและเปรียบเสมือนผู้วางรากฐานให้เกิดการพัฒนาความรู้เกี่ยวกับการสร้างพจนานุกรมอย่างเด่นชัดคือ Samuel Johnson ซึ่งได้รับแต่งตั้งจากองค์กรด้านการจัดพิมพ์และจำหน่าย ในปีค.ศ. 1750-1755 เขาใช้เวลาร่วมสิบปีในการเขียนพจนานุกรมชื่อ A Dictionary of the English Language ซึ่งพจนานุกรมฉบับนี้ของเขาได้รับการยอมรับและนำไปใช้อ้างอิงอย่างแพร่หลาย รวมทั้งกลายเป็นต้นแบบของพจนานุกรมและสารานุกรมที่มีชื่อเสียงในปัจจุบัน อย่างเช่น Oxford English Dictionary เป็นต้น
หลังจากเข้าสู่ศตวรรษที่ 19 จนถึงปัจจุบันนี้นับว่าเป็นยุคใหม่อย่างแท้จริงของการจัดทำหรือสร้างพจนานุกรม โดยเฉพาะภาษาอังกฤษ เพราะปัจจัยที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อภาษาอย่างชัดเจนมีสามประการ คือ 1) ความเจริญรุ่งเรืองของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 2) การพัฒนาภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน ที่ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในเรื่องการออกเสียงและไวยากรณ์ ทำให้เกิดคำศัพท์เพิ่มขึ้นมาอีกมากมาย จนเห็นความแตกต่างระหว่างภาษาแบบอังกฤษ(British English) และแบบอเมริกัน (American English) 3) การเกิดภาษาอังกฤษแบบใหม่ ที่ผันแปรไปตามท้องถิ่นหรือภูมิประเทศ เช่น ภาษาอังกฤษแบบอินเดีย แบบออสเตรเลีย แบบฟิลิปปินส์ แบบแอฟริกัน เป็นต้น
ในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ถึงศตวรรษที่ 20 นั้นการทำพจนานุกรมมีการพัฒนาและการเปลี่ยนแปลงอย่างเต็มรูปแบบเนื่องจากคอมพิวเตอร์เข้ามามีบทบาทในการสร้างพจนานุกรมทุกขั้นตอน ใช้เทคโนโลยีทางคอมพิวเตอร์มาสร้างโปรแกรม จัดเก็บข้อมูลต่างๆจนเป็นคลังข้อมูลทางภาษาที่สมบูรณ์และหลากหลาย ตัวอย่างพจนานุกรมที่ใช้คอมพิวเตอร์สร้างอย่างเต็มรูปแบบตั้งแต่ยุคปี 1980 คือ Collins Cobuild English Language Dictionary (COBUILD) ที่ใช้คอมพิวเตอร์มาช่วยพัฒนาทั้งโครงสร้างและเนื้อหาทั้งหมด นอกจากนี้ยังมีสำนักพิมพ์ที่มีชื่อเสียงอีกเป็นจำนวนมากที่ใช้คอมพิวเตอร์ช่วยในการผลิตผลงานเช่น Oxford English Dictionary, Longman English Dictionary, Macmillan English Dictionary, Merriam-Webster]s Dictionary. ซึ่งสำนักพิมพ์ต่างๆเหล่านี้จัดพิมพ์เป็นรูปเล่มหนังสือออกจำหน่ายทั่วโลก เป็นหนังสืออ้างอิงที่ห้องสมุดแทบทุกแห่งโดยเฉพาะในสถาบันการศึกษาต้องมีไว้บริการแก่ผู้ใช้เพื่อการค้นคว้าและอ้างอิง
ปัจจุบันการนำเสนอข้อมูลพจนานุกรมมีวิวัฒนาการไปตามยุคสมัย จากสิ่งพิมพ์ที่เป็นกระดาษหรือรูปเล่มหนังสือ ก็แปรเปลี่ยนเป็นสื่อดิจิทัลเข้ามาแทนที่ เนื่องจากสื่ออินเทอร์เน็ตเข้ามามีบทบาทอย่างสำคัญ การค้นหาข้อมูลสะดวกรวดเร็วกว่า ทำให้สำนักพิมพ์และสถาบันต่างๆทั้งภาครัฐและเอกชนหันมาใช้บริการผ่านอินเทอร์เน็ตแทน ที่เรียกว่า พจนานุกรมออนไลน์ (Online Dictionaries) หรือ พจนานุกรมสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Dictionary) จากการเปลี่ยนแปลงนี้เองผู้ผลิตพจนานุกรมแบบเดิมจึงต้องปรับเปลี่ยนและปรับตัวให้ทันกับยุคดิจิทัล โดยบางสำนักพิมพ์ได้ยุติการพิมพ์จำหน่ายไปแล้ว เช่น สารานุกรม Britanica ซึ่งมีอายุยาวนานถึง 244 ปี ผลิตสิ่งพิมพ์ชุดสุดท้ายเมื่อปี 2010 ซึ่งมี่ 32 เล่ม/ชุด ซึ่งปกติจะจัดพิมพ์ทุก 2 ปี (แจ้งยกเลิกการผลิตเมื่อเดือนมีนาคม 2555) และหันมาให้บริการทางออนไลน์แทน ส่วนสำนักพิมพ์ Oxford University Press ก็จะยุติการพิมพ์พจนานุกรมแบบชุดหนังสือเช่นกันทั้งที่ผลิตมาร้อยกว่าปีแล้ว เพราะมีผู้ซื้อใช้น้อยลงและไม่ได้รับความนิยม (แต่ยังพิมพ์ขนาดเล่มเล็กอยู่) และหันมาใช้ออนไลน์แทนเช่นกัน
One thought on “ประวัติและวิวัฒนาการของพจนานุกรม (ตอนที่1)”
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.
ใครไม่รู้ยังไง แต่หนุชอบอ่านพจนานุกรมภาษาไทยมากๆ ปัจจุบันก็ยังอ่านอยู่ เคยฟังหลายๆพูดเรื่องการฝึกฝนภาษาอังกฤษด้วยการท่องศัพท์จากพจนานกรม A-Z