อ่านหนังสือวันละเล่ม "นรก สวรรค์ ท่านเลือกได้ ฉบับฉลองพุทธชยันตี เฉลิมพระเกียรติพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดชมหาราช เจริญพระชนมายุ ๘๕ พรรษา

หนังสือเล่มนี้มีหน้าปกเป็นภาพพระพุทธเจ้า พร้อมตราสัญญลักษ์ฉลองพุทธชยันตรี ๒๖๐๐ ปี แห่งการตรัสรู้  มีขนาดความสูง ๓๗ ซม. ภาพสีสวยงาม หน้าปกใน  พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เกีี่ยวกับหนังสือ “นรก   สวรรค์ ท่านเลือกได้”
เป็นหนังสือที่ดีมีประโยชน์ ผู้ทำมีวิริยะอุตสาหะมาก  เป็นการเสียสละอย่างยิ่ง ถ้าใครได้อ่านแล้ว จะไม่มีใครทำบาปเพราะกลังตกนรก คนที่ได้อ่านหนังสือเล่มนี้แล้ว จะทำแต่ความดี ถ้ามีการแปลเป็นภาษาอังกฤษและภาษาจีน พิมพ์เผยแพร่ออกไปให้ผู้คนทั่วโลกได้อ่าน โลกจะมีแต่ความสันติสุข เพราะทุกคนจะเกรงกลัวการทำบาป มีแต่จะทำความดี เพราะ นรก สวรรค์  มีจริง เนื้อหาในเล่มประกอบด้วย
😀 หน้าต้นๆ เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้า คือ “การไม่ทำบาปทั้งปวง  การทำกุศลให้ถึงพร้อม การชำระจิตใจของตนให้ขาวรอบ”
😆 มีถ้อยแถลง กล่าวสรุปความได้ว่า “บุคคลผู้ฉลาดจึงควรเรียนรู้กฏแห่งกรรม การเวียนว่ายตายเกิดเหมือนการเรียนประวัติศาสตร์ สิ่งใดที่เราเคยทำผิดพลาดมาแล้วจะได้ไม่ทำซ้ำอีก ชาติกำเนิดมิใช่เป็นตัวกำหนดความดีชั่วของตน หากแต่กรรมคือการกระทำของตนเองเป็นตัวกำหนด… เพื่อควบคุมวิถีชีวิตของตนเองไม่ให้กระทำผิดพลาด ไม่สร้างปัญหาชีวิตให้กับตนเอง ครอบครัว สังคมและประเทศชาติ เพราะความประมาทและความเขลาเบาปัญญาของตนเอง… ไม่อวดดี อวดเก่งเกินกว่าคำสอนของพระบรมศาสดาเอกของโลก อย่างน้อยควรที่จะต้องเชื่อพระพุทธเจ้าไว้ก่อน เหมือนบุคคลทั่วไปที่ยังไม่สามารถเห็นเชื้อโรคด้วยตนเองได้ ก็ต้องเชื่อหมอไว้ก่อน ทำตามคำหมอสั่ง เพื่อความปลอดภัยของชีวิตตนเอง
🙄 ดังนั้น ท่านที่มีวาสนาและเยาวชนจำเป็นต้องศึกษาพิจารณาใคร่ครวญในหลักคำสอนของพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า เพื่อใช้เป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต อันจะเป็นประโยชน์สูงสุดที่มนุษย์จักพึงได้ในฐานะที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์และได้พบพระพุทธศาสนา และได้ปฏิบัติธรรม ก่อนที่ความตายจะทำลายร่างกายให้เน่าเฟะ ส่วนใจไม่ได้เน่าสลายตามร่างกาย จิตวิญญาณเป็นตัวสั่งสมบุญบาปและจำต้องเดินทางไกลไปปรโลก ซึ่งชีวิตหลังความตายจะไปไหนต่อ ?  คำตอบ  มีอยู่ในหลักพุทธศาสนาทั้งหมด และตัวอย่างการเวียนว่ายตายเกิด จะเป็นประจักษ์พยานให้ได้เป็นข้อมูลในการพิจารณาวินิจฉัยว่าสมควรเชื่อหรือไม่เพียงไร ?  ควรที่เยาวชนและท่านผู้มีปัญญาเห็นคุณค่าของชีวิตพึงใช้วิจารณญาณไตร่ตรองให้แจ้งประจักษ์ด้วยใจอันชอบธรรม เพราะ  นรก สวรรค์  เลือกได้
😳 แผนที่ธรรม (Dhamma Map)  กรรมพาเราไปไหนได้บ้าง (Where our good and bad deeds can lead us?)
ถ้าทำบุญ (Meritorious Action) มีการให้ทาน (Giving) ; รักษาศีล (Precept) ; การเจริญภาวนา (Meditation)  ทางที่ไป คือ เกิดเป็นมนุษย์ ๑ เทวดา ๖  คือสวรรค์ ๖ ชั้น ได้แ่ก่ ๑.จาตุมหาราชิกา ๒.ดาวดึงส์ ๓.ยามา๔. ดุสิต ๕.นิมมสนรดตี  ๖.ปรนิมมิตวสวัตตี
ถ้าเรารักษาศีล ๕ ฟังธรรม เป็นประจำสม่ำเสมอ เกิดเป็นมนุษย์แน่นอน
ถ้าเรามีการเจริญภาวนา อยู่สม่ำเสมอ เตรียมตัวไปนิพพาน แต่ต้องไปเกิดสุคติภูมิอีก ๗ ชาติ
ถ้าทำบาป (Evil Action) คือ กายทุจริต ๓ ; วจีทุจริต ๔ ;มโนทุจริต ๓  ตกอบายภูมิ ๔ อย่างเดียว (๑.ดิรัจฉาน ๒.อสุรกาย ๓.เปรต ๔. นรก)
ส่วนรูปโลก คือ รูปพรหม ๑๖ ชั้น ได้แ่ก่ ๑. ปาริสัชชา ๒.ปุโรหิตา ๓.มหาพรหมา ๔.ปริตตาภา ๕.อัปปมาณา ๖.อาภัสสรา ๗.ปริตตสุภา ๘.อัปปมาณสุภา ๙.สุภกิณหา ๑๐.เวหัปผลา  ๑๑.อสัญญี ๑๒.อวิหา ๑๓.อตัปปา ๑๔. สุทัสสา ๑๕.สุทัสสี ๑๖.อกนิฏฐา
* หมายเหตุ พรหม ๕ ชั้นสุดท้ายเป็นพระอนาคามีไปสู่พระนิพพานเท่านั้น
อรูปโลก คือ อรูปพรหม ๔ ชั้น ได้แก่ ๑. อากาสานัญจายตนะ ๒.วิญญาณัญจายตนะ  ๓.อาิกิญจัญญายตนะ  ๔.เนวสัญญานาสัญญายตนะ
พระนิพพาน (Nibbana)ได้แก่พระอรหันต์ (Worthy One) ไม่กลับมาเกิดอีก
ทุกท่านสามารถเลือกได้ว่่า เราไปทางไหน   ที่แน่ๆ ผู้เขียนพึงปราถนาความพ้นทุกข์ ถึง มรรค ผล นิพพาน สาธุ
เนื้อหาภายในเล่ม ประกอบด้วย
😆 อารัมภบท ; 🙄 อรกานุสานี ;:cry: ปายาสิสูตร ;:lol: กำเนิดสี่  :roll:นรกสวรรค์ ๓ ประเภท ; :cry:บ่ายหน้าสู่แดนนรก ; :oops:มหาสีหนาทสูตร ; :lol:ประเภทนรก ; 🙄 อุสสุทนรก ; 😳 ยมโลกนรก ; :lol:โลกันตนรก ; 😆 พระบาลีเรื่องนรก ; :roll:หลวงปู่คำคนิง จุลมณี ท่องนรก ; :roll:ช่วยมารดาพ้นนรก ; 😆 หลวงปู่่จันทาเห็นฑูตนรกที่บ้านเฉลียงลับ ; 😳 พระผู้มาโปรดนรกภูมิ ; :roll:เปรตติวิสยภูมิ ; 🙄 ที่มาของเปรต ; 😆 หลวงปู่มั่นเจอยักษ์ ; 🙄 ดิีรัจฉานภูมิ ; 😳 ตัวอย่างการเวียนว่ายตายเกิด ; :roll:สรุปดิรัจฉานภูมิ ; 😳 มนุสสภูมิ ; :roll:ประเภทมนุษย์ ; 😆 บุคคล ๔ จำพวก ; :roll:ประจักษ์พยานการเวียนว่ายตายเกิด ; 😆 เด็กอัจฉริยะ ; 🙄 เทวภูมิ ภูมิสวรรค์ ; 😆 มหาสีหนาทสูตร ; 😳 จาตุมหาราชิกาภูมิ ; 🙄 ตาวตึงสาภูมิ ; 😆 ยามาภูมิ ; 🙄 ดุสิตาภูมิ  ;นิมมานรตีภูมิ ; 😳 ปรนิมมิตวสัตตีภูมิ ; 🙄  ประสบการณ์เกี่ยวกับสวรรค์
สิ่งที่น่ากลัวในเล่มหนังสือ คือ การไปสู่นรกภูมิ ซึ่งกรรมที่ทำไว้ในอดีตชาติ ส่งผลไปยังภูมินั้นๆ พร้อมภาพประกอบสยดสยองยิ่งนัก
🙄  ยกตัวอย่างเช่น  ชาติก่อนเป็นมนุษย์ใจบาปหยาบช้า จับเอาสัตว์เป็นๆ มาเผาหรือปิ้งให้สุกแล้วกินเป็นอาหารอยู่เนืืองนิตย์ บางคนเคยเป็นตุลาการพิพากษาความไม่ยุติธรรม ด้วยอำนาจ โลภ โกรธ หลง เห็นแก่สินจ้าง สินบน เข้าข้างโจกท์บ้าง เข้าข้างจำเลยบ้าง ที่ชนะให้แพ้ ที่แพ้ให้ชนะ บางคนเคยเป็นบุคคลที่โลภมาก รุกที่บ้านเืรือกสวนไร่นาของผู้อื่นมาเป็นของตน  บางคนชอบลักขโมยเบียดบังเอาทรัพย์สมบัติที่เขาอุทิศถวายพระพุทธเจ้า พระธรรมเจ้า พระสงฆ์เจ้า มาเป็นของตน วิบากกรรมจึงส่งผลให้บังเกิดในโรวุวมหานรก : นรกที่เต็มไปด้วยเสียงร้องไ้ห้
ความเป็นอยู่ในนรกขุมนี้ มีดอกบัวเหล็กเต็มพรืดไปหมด แต่ละดอกมีสัตว์นรกอันน่าสมเพช เสวยทุกขเวทนาอยู่ในนั้น คือนอนคว่ำอยู่กลางดอกบัวเหล็กแค่ข้อเท้า มือทั้งสองกางจมมิดเข้าไปในดอกบัวเหล็กแค่ข้อมือ  นอนคว่ำหน้าอยู่ด้วยความเร่าร้อน ครวญคราง
ด้วยอาการเช่นนี้ เปลวไฟก็พลันปรากฏขึ้น เผาไหม้ดอกบัวเหล็กพร้อมกับสัตว์นรกเหล่านั้น เปลวไฟแลบเข้าหูซ้าย ออกหูขวา แลบเข้าหูขวาออกหูซ้าย เข้าปาก ตา จมูก ร้อนไหม้ทุรนทุราย
สัตว์นรกเหล่านั้น ก็ได้แต่ส่งเสียงร้องครวญครางโหยหวน เสียงดังสนั่น จะตายก็ไม่ตาย มีร่างกายทุกข์ทนยากลำบากแสนสาหัส ต้องเสวยทุกขเวทนาอย่างนี้ตลอดจนสิ้นอายุขัย คือ ๔๐๐๐ ปี ซึ่ง ๑ วัน ๑ คืนของ โรรุวมหานรก เท่ากับ ๒๓๔ ล้านปีของมนุษย์
🙄 ขอยกตัวอย่าง เทวดาฟังธรรม  พวกทวยเทพเทวดาชอบสดับฟังธรรมอยู่เสมอ ขณะท่านพระอาจารย์มั่นแสดงธรรม หัวหน้าเทวดาเล่าว่า…
ท่านพระอาจารย์มั่นได้มาพักอยู่ที่นี่…..ทำให้เทวดาสบายใจไปทั่วกัน เทวดามีความสุขมาก เพราะกระแสเมตตาธรรมของท่าน แผ่กระจายครอบท้องฟ้านภากาศและแผ่นดินเป็นที่อัศจรรย์มาก พระธรรมที่แผ่ไปทั่วทุกทิศทางออกจากองค์ท่าน แม้เวลาที่ท่านแสดงธรรมแก่เณรและประชาชนกระแสเสียงท่านก็จะสะเทือนทั่วทั้งเบื้องบนเบื้องล่างไม่มีขอบเขต… ทั่วไปหมด ขณะท่านอาจารย์มั่นย้อนถามเทวดาว่า “ก็มนุษย์ไม่เห็นได้ยินกันบ้าง? ภ้าว่าเสียงเทศก์สะเทือนไปไกลดังที่ว่านั้น ? หัวหน้าเทพฯ ตอบทันทีว่า “ก็มนุษย์เขารู้จักเรื่องอะไร ? เขาจะสนใจกับศีล กับ ธรรมอะไรกัน ? ตา หู จมูก กาย ใจ ของเขาใช้ในทางบาปกรรม มีน้อยเต็มทีที่จะสนใจศีลธรรม ชีวิตเขาก็น้อยนิดเดียว ถ้าเทียบกันแล้วมนุษย์ตายคนละกี่ร้อยครั้ง เทวดาก็ยังไม่ตายกันเลยไม่ต้องพูดถึงชั้นพรหมซึ่งมีอายุยืนนาน มนุษย์มีความประมาทมาก…
🙄 หลวงปู่มั่นถามว่า “ทำไมพากันมาหาบ่อยนัก ?” เทวดาตอบว่า “มนุษย์ที่มีศีลธรรม มิใช่มนุษย์ที่ควรน่ารังเกียจ แต่กลับจะยิ่งเป็นที่หอมหวลชวนให้เคารพบูชาอย่างยิ่ง และอยากจะมาเยี่ยมมาฟังเทศก์อยู่เสมอมิรู้เบื่อ”
😆 ท่านพระอาจารย์มั่นไม่ว่าจะพักอยู่ที่ใด ? จำต้องได้ติดต่อสื่อสารกับพวกกายทิพย์อยู่สม่ำเสมอ แม้พวกเปรตที่รอรับไทยทานจากญาติๆ ยังอุตส่าห์มาติดต่อกับท่าน เืพื่อให้ท่านเมตตาอนุเคราะห์ช่วยบอกญาติๆให้พากันทำบุญให้ทาน แล้วอุิทิศแผ่ส่วนกุศลไปให้เขาที่กำลังเสวยทุกข์อยู่จะได้ทุกข์เบาบางลงบ้าง ผู้ที่ตายไปตกนรกตั้งหมื่นตั้งแสนปีทิพย์ กว่าจะพ้นโทษและขึั้นมาเสวยกรรมปลีกย่อยต่อเป็นเศษของนรก รายที่ไม่มีเจ้าของคอยอุปการะนี้ ก็มีอยู่จำนวนไม่น้อย ท่านก็ช่วยอนุเคราะห์ให้ด้วยจิตอันเมตตาอ่อนโยน ท่านพระอาจารย์มั่น หลังจากท่านเดินทางมาถึงแดนวิมุตติแล้ว คืนต่อๆมา มีพระพุทธเจ้าพร้อมสาวกจำนวนมาก ได้เสด็จมาอนุโมทนาวิมุตติธรรมกับท่านเสมอ
😆 พระพุทธเจ้าเสด็จมาอนุโมทนาตอนหนึ่ง… พระบรมศาสดาตรัสอนุโมทนาว่า “เราตถาคตทราบว่าเธอพ้นโทษจากอนันตทุกข์ในที่คุมขังแห่งนี้ใหญ่โตมโฬารและแน่นหนามั่นคงมาก จึงยากที่จะมีผู้แหวกว่ายออกมาได้สัตว์โลกอาภัพเพราะกิเลสตัณหาในใจเบียดเบียนเสียดแทงทำให้เป็นทุกข์แบบไม่มีจุดหมายว่าจะหายเมื่อไร ? ถ้าไม่มารับยาคือธรรมะจะไม่มีวันหาย ต้องฉุดลากสัตว์โลกให้ตายเกิดคละเคล้าไปกับการทุกข์กาย ทุกข์ใจ และเกี่ยวโยงเหมือนลูกโซ่ตลอดกาล ธรรมแม้จะเต็มโลกธาตุ ก็ไม่สามารถอำนวยประโยชน์ให้แก่ผู้ไม่สนใจ ไม่ไปปฏิบัติรักษา ตัวธรรมก็อยู่แบบธรรม สัตว์โลกก็หมุนตัวเองเป็นกงจักรไปกับทุกข์ในภพน้อยภพใหญ่แบบสัตว์โลก โดยไม่มีจุดหมายปลายทางว่าจะสิ้นสุดความทุกข์ลงได้เมื่อใด ? ถ้าไม่สนใจช่วยเหลือตัวเองโดยยึดธรรมมาเป็นหลักใจ ที่นี่เธอเห็นพระตถาคตแท้จริงแล้วมิใช่หรือ ?  พระตถาคต คือความบริสุทธิ์ใจที่เธอเห็นแล้ว นั่นแล…..ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเราตถาคต”
🙄 ท่านพระอาจารย์มั่น สอนศิษย์ให้เร่งปฏิบัติเพื่อกำจัดอวิชาให้สิ้นไป  อวิชชาเป็นจิตที่ทรงอิสระ เกินคาดหมายที่จะค้นเดาได้ถูกเป็นแดนแห่งความเกษมสำราญ เป็นภูมิของท่านผู้ทรงอำนาจเหนือสมมติที่จะเสวยกัน ถ้าอยากรู้อยากเห็นจงพากันตื่นตัวอย่าหลงมัวเมากิเลสอออวดกันด้วยอากัปกิิริยาที่ขัดต่อธรรมเครื่องออกจากทุกข์ ถ้าไม่รีบเร่งขวนขวายตัวเอง ตะเกียกตะกายด้วยความพากเพียรของตนเพื่อจะหลุดพ้นแล้ ก็ไม่มีผู้อื่นผู้ใดจะมาถอนให้เราได้ ไม่มีผู้ใดจะนำเราพ้นออกไปจากที่คุมขังได้ นอกจากความพากเพียรของเราเท่านั้น อย่าชินกับกิเลสเป็นอันขาด ผู้ที่แหวกว่ายผ่านพ้นไปได้ ต้องเอาให้หนักในเรื่อง อสุภะ ไตรลักษณ์ พิจารณาให้แจ้งชัด เอาให้เห็นจริง ธรรมสถิตที่ใจเท่านั้น ขอให้หนักแน่นในอรรถในธรรม กิเลสหมดจากใจ ท่านทั้งหลายจะแสนบรมสุขทุกทิวาราตรี
ข้อคิดที่ได้จากหนังสือเล่มนี้ก็คือ อย่าคิดทำอกุศลเลยตกอบายอย่างเดียว
ปัจจัตตัง จะรู้ได้เห็นได้แต่เฉพาะผู้ปฏิบัติ ใครปฏิบัติผู้นั้นก็จะเห็นเอง สาธุ
สามารถหาอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เลขเรียกหนังสือ  BQ ๔๕๒๕ ข๙๖
 
 

Leave a Reply

Tags

blog CONSAL KPI PULINET การจัดการความรู้ การดูแลสุขภาพ การทำงาน การท่องเที่ยว การบริการ การปฏิบัติงานล่วงเวลา การประชาสัมพันธ์ การพัฒนาตนเอง การพัฒนาบุคลากร การลงรายการ การศึกษาดูงาน การอ่าน การเรียนออนไลน์ กิจกรรมสำหรับเด็ก กิจกรรมส่งเสริมการอ่าน กิจกรรมห้องสมุด ความสุข ค่ายห้องสมุด งานบริการ ธรรมะ นวนิยาย นักเขียน บรรณารักษ์ บริการชุมชน ประกันคุณภาพ ภาพถ่าย ภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยศิลปากร ระบบห้องสมุดอัตโนมัติ วัด วันสำคัญ วารสาร สัมมนา สุขภาพ หนังสือ หนังสือบริจาค หนังสือและการอ่าน หอสมุดพระราชวังสนามจันทร์ ห้องสมุด ห้องสมุด 24 ชั่วโมง อาหาร