เมื่อไอ…อย่าคิดว่าแค่เป็นหวัด
เมื่อวันเสาร์ที่ 16 ก.พ. ได้พาเจ้าใบหม่อนลูกสาวสุดที่รักไปพบแพทย์เฉพาะทาง (คลีนิคหู ตา คอ จมูก) เพราะสังเกตมาประมาณเกือบสัปดาห์แล้วว่าเจ้าหม่อนมีอาการไอ แต่ไม่มีเสมหะ และไม่มีอาการไข้หรือปวดหัวแต่อย่างใด ก็พยายามให้ลูกทานน้ำอุ่น ทานอาหารที่ไม่มัน แล้วก็ซื้อยาแก้ไอมาให้ทาน แต่อาการก็ไม่ดีขึ้น ปกติก็จะพาไปพบแพทย์เด็ก ซึ่งไปทุกครั้งก็จะได้รับคำตอบว่า เป็นต่อมทอลซิลอักเสบ แล้วก็ให้ยาเหมือนเดิมมาทุกครั้ง คือ ยาแก้แพ้ ยาแก้ไอ ยาลดน้ำมูก และยาละลายเสมหะ อาการก็ทุเลาลง แต่ครั้งนี้ลองตัดสินใจเปลี่ยนแพทย์ที่รักษา จึงลองไปคลินิกที่เปิดใหม่ เป็นแพทย์จาก รพ.ศิริราช ปกติทำงานประจำอยู่ที่ศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก ม.มหิดล หรือแถว ๆ ศาลายานี่เอง
ปรากฏว่าเมื่อพาไปพบแพทย์ ขอเรียกว่าคุณหมอล่ะกัน ก็คือ คุณหมอพูนศักดิ์ ซึ่งได้ตรวจอย่างละเอียดแล้วปรากฏว่า เจ้าหม่อนมีอาการของโรคภูมิแพ้ คุณหมออธิบายว่า โรคนี้อาจเกิดได้จาก 1. กรรมพันธุ์ 2. ไรฝุ่น หรืออื่น ๆ ได้หลายสาเหตุ แต่ทุกคนที่บ้านลงความเห็นว่าเกิดจากกรรมพันธุ์ เพราะสังเกตตัวเองแล้วมักมีอาการคัดจมูก และมีน้ำมูกไหลทุกเช้าเวลาที่ อาบน้ำ หรืออากาศเปลี่ยน
การรักษา คุณหมอก็ตรวจคอ เช็คหู กดตรงบริเวณรอบลำคอแล้วพบว่า มีก้อนเนื้ออยู่ทั้งสองข้าง แล้วก็ให้ยามามากมาย คือ ยาแก้แพ้ ยาแก้ไข ยาพ่นจมูกทุกเช้าและก่อนนอน และแนะนำให้รักษาความสะอาดในห้องนอนให้มาก ๆ เช่น ซัก-เปลี่ยน ผ้าปูที่นอน ผ้าห่ม ทุกสัปดาห์ หลีกเลี่ยงตุ๊กตาขนสัตว์ทุกชนิด ออกกำลังกายให้มาก ๆ และควรงดการน้ำว่ายน้ำในระหว่างรักษา คุณหมอขอเวลารักษาภายใน 2 เดือน ถ้าอาการยังไม่ดีขึ้นอาจต้องผ่าตัด แต่คุณหมอบอกว่าถ้ารักษาตั้งแต่แรก ๆ ก็อาจไม่ต้องผ่าตัด ในช่วงแรกของการรักษาคุณหมดขอนัดดูอาการก่อน 1 สัปดาห์ ซึ่งจะครบวันเสาร์ที่ 23 ก.พ. นี้
ที่เล่ามานี้เพื่อให้ทุกคนได้ลองสังเกตตัวเองดูว่ามีอาหารเหล่านี้บ้างหรือเปล่า เพื่อว่าจะได้ลองเปลี่ยนวิธีรักษา ดูบ้าง…อ้อ…หลังจากเสาร์ที่ 23 แล้วจะมาเล่าให้ฟังต่อนะคะ