สวัสดีวันเด็ก
วันนี้เป็นวันเสาร์ที่ 12 มกรา ซึ่งเป็นวันเสาร์ที่สองของเดือนมกราคมที่รัฐบาลกำหนดให้เป็นวันเด็กแห่งชาติประจำปี วันนี้จึงเป็นวันของเด็กโดยเฉพาะ เด็กๆจะได้รับความสำคัญมากที่สุด ทุกหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนต่างพร้อมใจกันจัดงานวันเด็กเพื่อมอบของขวัญและมอบความสุขให้แก่เด็กๆ แล้วที่จะขาดเสียมิได้ในวันเด็กนั่นก็คือ “คำขวัญวันเด็ก” ไงล่ะ เรามาย้อนรอยเรื่องเกี่ยวกับวันเด็กและคำขวัญวันเด็กกันดีกว่าว่ามีความเป็นมาอย่างไรบ้าง
แรกเริ่มเดิมทีนั้นวันเด็กถูกจัดขึ้นเป็นครั้งแรก เมื่อวันจันทร์แรกของเดือนตุลาคม ปีพ.ศ. 2498 โดยผู้คิดริเริ่มคือนาย วี.เอ็ม. กุลกานี ซึ่งเป็นผู้แทนองค์การสหพันธ์เพื่อสวัสดิการเด็กระหว่างประเทศแห่งสหประชาชาติ เพื่อเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนได้เห็นความสำคัญของเด็ก และประเทศไทยของเราก็ได้จัดงานนี้ต่อเนื่องมาทุกปีจนถึงปีพ.ศ. 2506 ทางรัฐบาลเห็นว่าควรเปลี่ยนแปลงการจัดงานไปเป็นวันเสาร์ที่สองของเดือนมกราคม เนื่องจากช่วงเดือนตุลาคมนั้นเป็นฤดูฝนและวันจันทร์เป็นวันทำการของราชการ ไม่สะดวกด้วยประการทั้งปวง ดังนั้นจึงเปลี่ยนมาจัดงานในวันเสาร์ที่สองของเดือนมกราคมตั้งแต่ปี พ.ศ. 2508 เป็นต้นมาถึงปัจจุบันนี้ (ในปีพ.ศ. 2507 จึงงดจัดไปหนึ่งปีเพราะจัดไม่ทัน)
แต่เดิมนั้นในวันเด็กของทุกๆปี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะพระราชทานพระบรมราโชวาท สมเด็จพระสังฆราชประทานพระคติธรรม และนายกรัฐมนตรี จะเป็นผู้มอบคำขวัญวันเด็ก การที่ทุกฝ่ายให้ความสำคัญแก่เด็กนั้น เพราะเห็นว่าเด็กคือทรัพยากรที่มีคุณค่ามากที่สุดของชาติ จนมีคำกล่าวที่เรามักจะได้ยินอยู่บ่อยๆว่า “เด็กคืออนาคตของชาติ เด็กฉลาด ชาติเจริญ” ทีนี้เรามาติดตามดูซิว่าคำขวัญที่นายกรัฐมนตรีของเราตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันนั้น ในแต่ละปีแต่ละท่านได้ให้คำขวัญใดบ้างแก่อนาคตของชาติ
ปี 2499 – จอมพลป. พิบูลสงคราม – จงบำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นและส่วนรวม
ปี 2502 – จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ – ขอให้เด็กสมัยปฏิวัติของข้าพเจ้า จงเป็นเด็กที่รักความก้าวหน้า
ปี 2503 – ” – ” จงเป็นเด็กที่รักความสะอาด
ปี 2504 – ” – ” จงเป็นเด็กที่อยู่ในระเบียบวินัย
ปี 2505 – ” – ” จงเป็นเด็กที่ประหยัด
ปี 2506 – ” – ” จงเป็นเด็กที่มีความขยันหมั่นเพียรมากที่สุด
ปี 2507 – จอมพลถนอม กิตติขจร – งดจัดงานวันเด็ก
ปี 2508 – ” – เด็กจะเจริญต้องรักเรียนเพียรทำดี
ปี 2509 – ” – เด็กที่ดีต้องมีสัมมาคารวะ มานะบากบั่นและสามัคคี
ปี 2510 – ” – อนาคตของชาติจะสุกใส หากเด็กไทยแข็งแรงดี มีความประพฤติเรียบร้อย
ปี 2511 – ” – ความเจริญและความมั่นคงของชาติไทยในอนาคต ขึ้นอยู่กับเด็กที่มีวินัย เฉลียวฉลาดและรักชาติยิ่ง
ปี 2512 – ” – รู้เรียน รู้เล่น รู้สามัคคี เป็นความดีที่เด็กพึงจำ
ปี 2513 – ” – เด็กประพฤตีและศึกษาดี ทำให้มีอนาคตแจ่มใส
ปี 2514 – ” – ยามเด็กจงหมั่นเรียน เพียรกระทำดี เติบใหญ่จะได้มีความสุขความเจริญ
ปี 2515 – ” – เยาวชนฝึกตนดี มีความสามารถ
ปี 2516 – ” – เด็กดีเป็นศรีแก่ชาติ เด็กฉลาดชาติเจริญ
ปี 2517 – นายสัญญา ธรรมศักดิ์ – สามัคคีคือพลัง
ปี 2518 – ” – เด็กดีคือทายาทของชาติไทย ต้องร่วมใจร่วมพลังสร้างความสามัคคี
ปี 2519 – ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช – เด็กที่ต้องการเห็นอนาคตของชาติรุ่งเรือง จะต้องทำตัวให้ดี มีวินัยเสียแต่บัดนี้
ปี 2520 – นายธานินทร์ กรัยวิเชียร – รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เป็นคุณสมบัติของเยาวชนไทย
ปี 2521 – พลเอกเกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ – เด็กดีเป็นศรีแก่ชาติ เด็กฉลาดชาติมั่นคง
ปี 2522 – ” – เด็กไทยคือหัวใจของชาติ
ปี 2523 – ” – อดทน ขยัน ประหยัด เป็นคุณสมบัติของเด็กไทย
ปี 2524 – พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ – เด็กไทยมีวินัย ใจซื่อสัตย์ รู้ประหยัด เคร่งครัดคุณธรรม
ปี 2525 – ” – ขยันศึกษาใฝ่่หาความรู้ เชิดชูชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เป็นคุณสมบัติของเด็กไทย
ปี 2526 – ” – รู้หน้าที่ ขยัน ซื่อสัตย์ ประหยัด มีวินัยและคุณธรรม
ปี 2527 – ” – รักวัฒนธรรมไทย ใฝ่ดีมีความคิด สุจริตใจมั่น หมั่นศึกษา
ปี 2528 – ” – สามัคคี นิยมไทย มีวินัย ใฝ่คุณธรรม
ปี 2529 – 2531 ” – นิยมไทย มีวินัย ใช้ประหยัด ใจซื่อสัตย์ ถือคุณธรรม (ใช้คำขวัญเดียวกัน)
ปี 2532 – 2533 – พลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ – รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ใจสัตย์ซื่อ ถือคุณธรรม (ใช้คำขวัญเดียวกัน)
ปี 2534 – ” – รู้หน้าที่ มีวินัย ใฝ่คุณธรรม นำชาติพัฒนา
ปี 2535 – นายอานันท์ ปันยารชุน – สามัคคี มีวินัย ใฝ่ศึกษา จรรยางาม
ปี 2536 – 2537- นายชวน หลีกภัย – ยึดมั่นประชาธิปไตย ร่วมใจพัฒนา รักษาสิ่งแวดล้อม (ใช้คำขวัญเดียวกัน)
ปี 2538 – นายชวน หลีกภัย – สืบสานวัฒนธรรมไทย ร่วมใจพัฒนา รักษาสิ่งแวดล้อม
ปี 2539 – นายบรรหาร ศิลปอาชา – มุ่งหาความรู้ เชิดชูความเป็นไทย หลีกไกลยาเสพติด
ปี 2540 – พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ – รู้คุณค่าวัฒนธรรมไทย ตั้งใจใฝ่ศึกษา ไม่พึ่งพายาเสพติด
ปี 2541 – 2542 – นายชวน หลีกภัย – ขยัน ประหยัด ซื่อสัตย์ มีวินัย (ใช้คำขวัญเดียวกัน)
ปี 2543- 2544 – ” – มีวินัย ใฝ่่เรียนรู้ คู่คุณธรรม นำประชาธิปไตย (ใช้คำขวัญเดียวกัน)
ปี 2545 – พ.ต.ท. ทักษิณ ชิณวัตร – เรียนให้สนุก เล่นให้มีความรู้ สู่อนาคตที่สดใส
ปี 2546 – ” – เรียนรู้ตลอดชีวิต คิดอย่างสร้างสรรค์ ก้าวทันเทคโนโลยี
ปี 2547 – ” – รักชาติ รักพ่อแม่ รักเรียน รักสิ่งดีๆ อนาคตดีแน่นอน
ปี 2548 – ” – เด็กรุ่นใหม่ต้องขยันอ่านขยันเรียน กล้าคิดกล้าพูด
ปี 2549 – ” – อยากฉลาดต้องขยันอ่านขยันคิด
ปี 2550 – พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ – มีคุณธรรมนำใจ ใช้ชีวิตพอเพียง หลีกเลี่ยงอบายมุข
ปี 2551 – ” – สามัคคี มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ เชิดชูคุณธรรม
ปี 2552 – นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ – ฉลาดคิด จิตบริสุทธิ์ จุดประกายฝัน ผูกพันรักสามัคคี
ปี 2553 – ” – คิดสร้างสรรค์ ขยันใฝ่รู้ เชิดชูคุณธรรม
ปี 2554 – ” – รอบคอบ รู้คิด มีจิตสาธารณะ
ปี 2555 – น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร – สามัคคี มีความรู้คู่ปัญญา คงรักษาความเป็นไทย ใส่ใจเทคโนโลยี
ปี 2556 – ” – รักษาวินัย ใฝ่เรียนรู้ เพิ่มพูนปัญญา นำพาไทยสู่อาเซียน
ไม่น่าเชื่อว่าประเทศไทยของเราจัดงานวันเด็กผ่านมากว่าครึ่งศตวรษแล้ว (57 ปี) เราทุกคนต่างผ่านงานวันเด็กมาแล้วทั้งนั้น จากวัยเด็กที่สนุกสนานเป็นผู้รับความสุขที่ผู้ใหญ่ใจดีเขาจัดให้ จนบัดนี้เรากลายเป็นผู้ใหญ่กันไปตามวัยบางท่านอาจใกล้เกษียณแล้วด้วยซ้ำ จึงต้องรับไม้ต่อมาเป็นผู้จัดงานให้กับเด็กรุ่นลูกรุ่นหลานกันไป หอสมุดของเราจัดงานวันเด็กที่หน้าหอสมุดมาถึง 10 ปี ปีนี้มิได้จัดที่นี่แต่โยกย้ายไปจัดที่หอสมุดเพชรบุรีแทนเพื่อเป็นการกระจายกิจกรรมตามแผนยุทธศาสตร์ของสำนักหอสมุด (กลัวจะถูกมองว่าเราผูกขาดงานนี้แต่ผู้เดียว!!) แต๋ถึงยังไงเราก็ยังแอบไปมีส่วนร่วมงานวันเด็กนอกสถานที่อยู่ดี (ไปจนได้) เราไปเป็นผู้ร่วมสนับสนุนรายย่อยกับกิจกรรมวันเด็กของโรงเรียนบ้านหนองแก ซึ่งเป็นโรงเรียนระดับประถมและก่อนวัยเรียน(ศูนย์พัฒนาเด็ก) ส่วนจะสนุกสนานและประทับใจกันเช่นไรนั้นขอยกหน้าที่ให้กับท่านหัวหน้าทีมก็แล้วกัน เขามีรูปภาพเยอะให้เขานำเสนอดีกว่าจ้ะ