ดิฉันได้ไปฟังการบรรยายที่คณะอักษรศาสตร์มา จึงมาเล่าสู่กันฟัง เริ่มจากการฟังบรรยายโดย หมอเขียว (ดร.ใจเพชร กล้าจน) ท่านมาจากศูนย์เรียนรู้สุขภาพพึ่งตนเองตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง ณ สวนป่านาบุญ อำเภอดอนตาล จังหวัดมุกดาหาร
ท่านได้ให้พวกเราดูแลสุขภาพกันอย่างไรนั้น มีทั้งแผนปัจจุบัน และแผนโบราณ และหลักธรรมะ โดยพูดถึงแนวหลักพระพุทธศาสนา ละเหตุทุกข์ได้เป็นสุขในทั้งปวง จะเห็นได้ว่าความผาสุกตามหลักของพระพุทธเจ้าอยู่แบบเรียบง่าย กินอาหารแบบธรรมชาติ พึ่งพาพืช ผัก และผลไม้เป็นหลัก โรคภัยไข้เจ็บก็จะไม่เบียดเบียนซึ่งกันและกัน สัตว์ทั้งหลายเกิดจากกรรม เกิดจากการกระทำ รับกรรมทั้งสิ้น การไม่เบียดเบียนสัตว์ ถือว่าเป็นผู้ไม่มีโรคเบียดเบียนเหมือนกัน
การกินได้เรื่อยๆ ไม่รู้สมดุลร้อนเย็น ถ้าเรารู้จะได้พลังยาวนาน (reflex รีเฟล็กซ์) เป็นตัวขับส่งให้กล้ามเนื้อทำงานให้ร่างกายแข็งแรงได้ ผลเกิดจาก ความเจ็บป่วย คือการไม่สมดุล ร้อน-เย็น ยาไม่ใช่ปรับสมดุล ร้อน-เย็น โรคถึงไม่หาย เย็นมากเราก็แก้ด้วยร้อน ร้อนแก้ด้วยเย็น รักษาโรคด้วยร้อนเย็น อาหารมีฤทธิ์ร้อนและเย็น จะมีสภาวะร้อนเกิน เกิดจากการกินอาหารเนื้อสัตว์มากต้องลดลง ผลไม้ก็คือกล้วยน้ำว้า ผักบุ้ง หัวไชเท้า สายบัว ฟักทอง มะยม ตำลึง เป็นต้น
ส่วนอาหารที่ไม่ควรกินมากนักคือ ขนมปัง บะหมี่ ชา กาแฟ โอวัลติน รับประกันได้ว่าโรคใดโรคหนึ่งถามหาแน่นอน โปรตีน ก็จะมีถั่วขาว ลูกเดือย เห็ดฝาง เห็ดนางฟ้า ถั่วทุกชนิด ถั่วแดง (เนื้อนมไข่) เราจะไม่ควรทานมาก พยายามลดเนื้อสัตว์ให้มากที่สุด เลือกเอาปฏิบัติเอา น้ำมันทอดซ้ำๆ ก็เป็นอันตรายได้ เพราะจะทำให้เป็นมะเร็ง ส่วนอาหารที่ทานแล้วจะเป็นผลดีกับเราก็คือ น้ำพริก ต้มยำ แกงอ่อม แกงเลียง ลดน้ำมันจะสบายขึ้น ลองทำดูใช้เกลือเป็นหลัก การปรุงอาหารอย่าใช้ไฟแรงเกินไป ควรให้อาหารสุกพอดี แล้วทานเลย กินผลไม้ก่อนอาหาร แล้วค่อยตามด้วยข้าว กินผลไม้ก่อนข้าวก็จะทำให้เย็น เขี้ยวให้ละเอียด สลับกันไปสลับกันมา จะดี
ส่วนช่วงบ่าย ก็มีการสาธิตการดูแลสุขภาพโดยการทำน้ำสมุนไพร เช่นน้ำใบบัวบก นำมาคั้นเอาน้ำมันออก คนที่ทานไม่ได้ให้ผสมน้ำอ่อนเจือจางหน่อย คนที่ทานรสเข้มข้นก็ทานแบบใบสีเขียวเข้ม จะช่วยให้มีประโยชน์มากกว่า ช่วยลดเบาหวาน ความดันโลหิต ส่วนใบเตยก็นำไปต้มน้ำ หรือนำมาคั้นผสมใบย่านางได้จะช่วยลดเบาหวาน หรือคอเลสเตอรอลได้เป็นอย่างดี ใบชะพลูก็มีประโยชน์มากมีแคลเซียมสูงนำมาปั่น หรือทำแกงคั่วหอยแครงก็ได้อร่อยดี ดีต่อสุขภาพ
จากนั้นก็มีการสาธิตการกดจุด เวลาเราปวดเมื่อยตรงไหน เราก็ช่วยตัวเองได้เสมอ ต่อมาก็มีการพอกหน้า สำหรับผู้ที่แต่งหน้าจัดๆ ก็ล้างให้สะอาด แล้วพอกหน้าสักประมาณ ครึ่งชั่วโมง ล้างออกก็จะเห็นผลทำให้สะอาดเย็นสบาย นุ่มอีกยาวนาน ทำอาทิตย์ละ 1 ครั้ง ขั้นตอนสุดท้ายก็คือการทำกัวซา คือการขับสารพิษออกจากร่างกาย โดยใช้น้ำมันขูดไปเรือยๆ จากศีรษะลงมาลำคอ ลงมาหัวไหล และลงมาทางด้านหลัง ถ้าเป็นผื่นแดงๆ แสดงว่ามีโรคมาก ไม่มีเลยก็ไม่ดี ไม่สามารถทราบว่าเป็นโรคอะไรกันแน่ ส่วนใหญ่จะแดงมากๆ นั่นแหละขับสารพิษจริงๆ เรื่องราวทั้งหมด ก็จะทำให้คนในห้องสมุดได้มีแรงต่อสู้กับงานกันต่อไป