เบื้องบนเมตตาหลี่เซียนเป่า
เรื่องนี้เป็นเรื่องจริง เป็นประจักษ์หลักฐานยืนยันว่า อนุตตรธรรมเป็นธรรมที่สูงส่ง เป็นหลักธรรมจริง เป็นสัจธรรมจริง เป็นพระโองการสวรรค์จริงอีกทั้งมีความลึกซึ้งแยบยลจนยากจะอธิบาย
นิ ตยา หรือ เสียวเป่า แซ่หลี่ ชาวสำเหร่ เกิดแถวสะพานขาวโบ๊เบ๊ กรุงเทพฯ เมื่อ พ.ศ.2486 ขณะเริ่มหัดเดิน พ่อแม่ก็เริ่มล้มป่วยลงเนืองๆ อาจารย์ทางโหราศาสตร์หลายท่านชี้แนะว่าเด็กคนนี้ไม่ใช่คนธรรมดามาเกิด เมื่ออายุได้ 7 ขวบ พ่อแม่จึงตัดสินใจส่งไปให้แม่บุญธรรมที่ต่างจังหวัด โดยมีตวนอิน ลูกสาวของแม่บุญธรรมที่มีอายุมากกว่านิตยาถึง 25 ปี ทำหน้าที่ดูแล เมื่อนิตยาอายุได้ 29 ปี วันหนึ่งขณะที่ตวนอินเดินออกมาจากห้องน้ำ นิตยาสังเกตเห็นฝ่ามือเป็นเส้นลายมือของคนชะตาขาดที่จะมีชีวิตอยู่ได้อีก เพียง 7 วัน เท่านั้น เหตุการณ์ที่ปรากฏขึ้นภายใน 7 วันก็คือตวนอินป่วยด้วยโรคเส้นโลหิตฝอยในสมองแตกและเสียชีวิตอย่างกระทันหัน
เหตุการณ์ ครั้งนั้นทำให้นิตยากินไม่ได้นอนไม่หลับ ในใจมีแต่ความทุกข์โศก ได้แต่เหม่อมองท้องฟ้าทุกวัน จน กระทั่ง วันหนึ่งใน พ.ศ.2526 ได้เกิดเหตุมหัศจรรย์ขึ้น เสี่ยวเป่าได้รับการชี้แนะจากองค์พระศรีอริยเมตตรัยได้ชี้แนะให้เธอกลับไป ยังบ้านเกิดที่กรุงเทพฯ เพราะเป็นหมายกำหนดการที่ฟ้าเบื้องบนมีงานสำคัญที่จะมอบหมายภาระหน้าที่ไห้ ทำ เมื่อเธอกลับไปยังบ้านเกิด องค์พระโพธิสัตว์กวนอิมได้นำพาจิตญาณของเธอออกจากร่างไปท่องเที่ยวบนดินแดน สวรรค์ ซึ่งเป็นภพภูมิระหว่างโลกมนุษย์กับบนชั้นพระนิพพาน พระโพธิสัตว์กวนอิมตรัสว่าผู้ใดที่ยังไม่ได้กราบรับวิถีธรรมไม่สามารถเข้า สู่แดนนิพพานได้ ท่านได้เมตตาชี้แนะต่อไปอีกว่าอีก 2 เดือน ข้างหน้าจะมีโองการสวรรค์มาสู่ประเทศไทย ให้เธอรีบไปหาพระวิสุทธิอาจารย์ที่มีโองการสวรรค์ เพื่อขอรับวิถีธรรม พระโพธิสัตว์กวนอิมชี้นำว่าเป็นเพราะเธอเคยตั้งปณิธานมาจากเบื้องบนว่าจะลง มาเกิดที่โลกมนุษย์เพื่อมาปฏิบัติงานธรรมช่วยฟ้าเบื้องบน ในการฉุดช่วยเวไนยสัตว์ทั้งหลาย ถ้าไม่เช่นนั้นชีวิตกายสังขารก็จะไม่ยืนยาว เพราะความที่เธอไม่มีความรู้ภาษาจีน อีกทั้งยังพูดจีนก็ไม่ได้ จึงไม่กล้าติดตามอาจารย์ผู้อาวุโสออกปฏิบัติงานธรรม พระโพธิสัตว์กวนอิมได้เคี่ยวกรำเธอคือไม่ให้ทานอาหารทุกชนิด ในที่สุดสังขารของเธอได้เปลี่ยนไปจนเหลือความสูงในปัจจุบันเพียง 135 เซนติเมตร สภาพร่างกายกลับกลายเป็นเด็กธรรมดาคนหนึ่งไปแล้ว แม้แต่แพทย์ที่ตรวจเช็คร่างกายก็ยืนยันว่าเธอมีสรีระร่างกายเท่ากับเด็ก สามัญอายุ 7 ปี ทั่วๆไป อีกทั้งนิสัยก็เปลี่ยนไปเหมือนเด็ก คือชอบของเล่นต่างๆ ที่เด็กในวัยนี้พึงชอบบางครั้งใน เวลากลางคืนเธอยังมีความต้องการจุกนมที่เด็กทารกใช้ ดูดไว้ที่ปาก และเป็นที่น่าแปลกก็คือเธอสามารถพูดคุยและเล่นกับเซียนเทพกุมาร และกุมารีน้อยอยู่เสมอๆ เพราะเหตุที่เธอไม่เคยเรียนภาษาจีน อีกทั้งการศึกษาภาคภาษาไทยก็จบเพียงประถม 4 เท่านั้น ต่อมาพระโพธิสัตว์กวนอิมก็ได้นำพาจิตญาณของเธอไปสู่แดนนิพพานไปฝึกเรียนภาษา จีนอยู่ 5 คืน ทุกๆคืนจะเรียนเพียง 2 ชั่วโมง ในที่สุดด้วยระยะเวลาเพียงสั้นๆ เธอสามารถพูดภาษาจีนได้ อีกทั้งยังสามารถเขียนออกมาเป็นอักษรจีนที่สวยงามได้มาตรฐาน นับว่าเป็นเรื่องแปลกประหลาดที่เกิดขึ้นกับเธอเป็นอย่างมาก
ตั้งแต่ พ.ศ.2528 เธอเริ่มอุทิศตนออกมาเผยแพร่วิถีอนุตตรธรรม ฉุดช่วยเวไนยสัตว์ทั้งหลายให้ได้มีโอกาสรับรู้วิถีธรรม เธอได้มีโอกาสเผยแพร่งานธรรมกว้างไกลออกไปยังประเทศต่างๆ อาทิ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น แคนาดา สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ฮ่องกง มาเก๊า จีนไต้หวัน นับว่าเธอเป็นผู้ประกาศสัจธรรมแทนฟ้าเบื้องบนได้เป็นอย่างดี เมื่อไปถึงที่ไหนก็มีแต่ผู้คนยินดีต้อนรับอีกทั้งเป็นบุญตาที่ได้เห็นตัว จริงของเธอจนทุกคนสามารถสัมผัสรู้ได้ว่าเธอเป็นมนุษย์ที่มีความแปลกพิสดาร แตกต่างจากคนทั่วไป ผู้ที่มีโอกาสพบหลี่เซียนเป่ามักจะมีโอกาสฟังธรรมจากเธอ เธอสามารถอรรถาธิบายธรรมได้อย่างมีเหตุมีผลและน่าฟัง 😀
2 thoughts on “เบื้องบนเมตตาหลี่เซียนเป่า”
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.
ก่อนรับ อายุ 99 ปี (คศ. 1983) หลังรับแล้ว อายุเท่าไร ไม่บอก จะให้เดาว่า ปัจจุบัน อายุ 122 ปีหรือไง (ก็ ปีนี้ปี คศ.2009) ใครสนใจธรรมะ แนวทางนี้ โปรดติดต่อพี่หน่อยนะ แกจัดให้ทันที เหมือนสมัครสมาชิกแอมเวย์เชียวแหละ
หนังสือคงจะตัวเล็กเกินไป เลยทำให้ดูตัวเลขผิด ที่ถูกต้องคือรับธรรมตอนอายุย่างยี่สิบเก้าถึงสามสิบปี และปัจจุบันเขายังมีชีวิตอยู่ หน่อยก็ไม่เคยเห้นตัวเขาหรอก แต่หลายคนเคยเห็น ตอนนี้ได้ข่าวว่าเขามีคิวยาว ต้องไปบรรยายธรรมะหลายที่หลายประเทศ กว่าจะถึงคิวเมืองไทย คงอีกนานมั้ง แต่คนที่อายุมากๆ น่ะ คือหลวงปู่คำน้อยค่ะ ท่านเกิดในสมัยรัชกาลที่ 1 และอยู่ปฏิบัติบำเพ็ยเพื่อรอช่วงจังหวะที่ธรรมะลงปรกโปรด เมื่อท่านได้รับธรรมะแล้ว ท่านก็ได้มรณภาพไปแล้วเมือ่ปี 2548 อายุมากกว่า 230 ปี มีหลักฐาน หากมีโอกาส ลองไปถามคนแถววัดถ้ำภูกำพร้า อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร