โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ
เรื่องการเจ็บไข้ ได้ป่วย แต่ละคนคงไม่คิดว่า การป่วยที่คนอื่นเป็นนั้น วันหนึ่งอาจเกิดขึ้นกับตัวเราก็ได้ เช่น กระเพาะปัสสาวะเกิดอาการอักเสบขึ้น เคยได้ยินน้องกาญ บ่นว่าเป็นกระเพาะปัสสาวะอักเสบ ต้องไปหาหมอรักษาแต่ก็ยังไม่หายดี ต้องดื่มน้ำบ่อยๆ และดื่มมากๆ ได้ฟังแล้วก็บอกตัวเองว่าเราโชคดีที่ไม่เป็น
และแล้วเมื่อประมาณเดือนเมษายนที่ผ่านมา ตัวเองก็เกิดกระเพาะปัสสาวะอักเสบ จะมีอาการปวดปัสสาวะบ่อยครั้ง ปวดแต่ละครั้งเวลาห่างกัน 1-2 วินาที ก็มี นานสุดประมาณ 5 นาที ต้องเข้าห้องน้ำบ่อยครั้งมาก ปัสสาวะมีเลือดออกเล็กน้อย ในวัยที่หมดประจำเดือนแล้ว ก็จะคิดว่าประจำเดือนตกค้างกระมัง จึงเข้าห้องน้ำบ่อย เพราะวัยผู้ที่หมดประจำเดือนการเกิดอาการหลังหมดประจำเดือนจะมีอาการแตกต่างกัน ตามภาวะของร่างกาย
การเกิดกระเพาะปัสสาวะอักเสบครั้งนั้น ต้องเปลี่ยนจากการนุ่งกางเกงเป็นนุ่งผ้าถุงแทน เพื่อเตรียมพร้อมในการเข้าห้องน้ำ จะไปหาหมอก็ไปไม่ได้เพราะกลัวว่าจะปัสสาวะระหว่างทางไปโรงพยาบาล จึงให้หลานกับลูกไปซื้อยาจากร้านขายยาที่มีเภสัชกรประจำร้าน มารับประทานก่อน หากอาการไม่ดีขึ้นจึงจะไปหาหมอ หลังรับประทานยาแล้ว สักพักมีอาการดีขึ้นมาก และหายขาด จากเดือนเมษายนกระทั่งถึงเดือนสิงหาคม เผอิญได้อ่านพบเรื่องกระเพาะปัสสาวะอักเสบ โดย นพ.อภิรักษ์ เลิศสุวรรณโรจน์ ศัลยแพทย์ระบบทางเดินปัสสาวะ โรงพยาบาลเมืองราช จังหวัดราชบุรี ได้เขียนบทความ ในนิตยสาร GORATCHABURI.COM ปีที่ 2 ฉบับที่ 17 เดือนสิงหาคม 2555 หน้า15 จึงขอนำมาบอกต่อ ดังนี้
กระเพาะปัสสาวะอักเสบเป็นภัยใกล้ตัวสำหรับผู้หญิง ผู้หญิงส่วนใหญ่ เวลาปวดปัสสาวะมักจะกลั้นไว้ อาจเนื่องจาก กำลังทำงานสำคัญ มีงานยุ่งอยู่ กำลังติดต่อกับลูกค้า หรือขณะเดินทางบนท้องถนน การกลั้นปัสสาวะบ่อยๆทำให้เกิดอาการปวดท้องน้อย ปัสสาวะขัด ปวดเสียวท่อปัสสาวะและปัสสาวะบ่อย
สาเหตุที่เกิด
กระเพาะปัสสาวะอักเสบเป็นได้ทุกวัย ส่วนใหญ่จะเกิดเฉพาะเพศหญิง เกิดจากการกลั้นปัสสาวะ ปวดปัสสาวะแล้วไม่สามารถเข้าห้องน้ำได้ ทำให้แบคทีเรียเอาชนะกลไกการป้องกันเชื้อโรคบริเวณเยื่อบุผิวของกระเพาะปัสสาวะ คือการปริแตกของสารที่ชื่อว่า Glycoaminoglycan (GAG ) และเชื้อส่วนใหญ่ คือเชื้อ E.coli ชนิดเดียวกับที่พบในระบบทางเดินอาหาร เดินทางจากทวารหนักเข้าสู่ท่อปัสสาวะ ท่อปัสสาวะในผู้หญิงมีความยาวเพียง 4 ซม. จึงเป็นเหตุผลว่า ทำไมจึงไม่พบโรคนี้ในเพศชาย หรืออาจพบได้ในคนที่มีลักษณะนิสัยชอบดื่มน้ำน้อย ทำให้ระยะเวลาในการปวดปัสสาวะห่างขึ้น แบคทีเรียจึงมีเวลาในการแบ่งตัวเพิ่มจำนวนขึ้น มีมากพอที่จะก่อโรคได้
อาการแสดงที่สังเกตได้
หลังจากกลั้นปัสสาวะแล้วไม่นาน จะเริ่มมีอาการปัสสาวะขัด แสบท่อปัสสาวะ ปัสสาวะบ่อยขึ้น ต่อมาเริ่มมีอาการปวดท้องน้อยเหนือหัวเหน่า ปวดเหมือนปัสสาวะไม่สุดหรืออาจเสียวตอนสุด มีกลิ่นเหม็น ถ้ายังไม่ได้รับการรักษา 2 – 3 วัน จะพบในปัสสาวะมีเลือดปนหรือเป็นเลือดสด และอาจพัฒนาไปเป็นกรวยไตอักเสบได้ โดยจะมีอาการไข้สูง 39 – 40 องศา หนาวสั่น ปวดเอวข้างใดข้างหนึ่ง เคาะหลังแล้วเจ็บ แสดงว่า มีอาการป่วยหนัก
การปฏิบัติตัวเพื่อไม่ให้เกิดโรค
1.ควรดื่มน้ำมากๆ วันละ 6 – 8 แก้ว
2.ไม่ควรกลั้นปัสสาวะโดยไม่จำเป็น ปัสสาวะก่อนออกเดินทางไกล และก่อนเข้านอน ให้เป็นกิจวัตร
3.เมื่อมีอาการ ควรได้รับยาปฏิชีวนะที่เหมาะสมโดยทันท่วงที เพื่อไม่ให้เกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรง
ดังนั้น ทุกครั้งที่เข้าห้องน่ำ ควรราดโถส้วมเพื่อล้างน้ำสกปรกที่ตกค้าง ไม่ให้กระเด็นใส่ร่างกายเรา
การเจ็บไข้ ได้ป่วย ต้องไม่ประมาท ต้องจำไว้ว่า การป่วยที่ผู้อื่นเป็นนั้น ก็อาจเกิดขึ้นกับเราได้เช่นกัน
ทำใจให้สบาย ทำกายให้เป็นสุข รักษาสุขภาพกายและใจให้แข็งแรงอยู่ตลอดเวลา ความแข็งแรงก็จะคงอยู่กับเราเสมอ ถึงแม้จะเจ็บป่วยบ้าง แต่ร่างกายก็จะฟื้นตัวและแข็งแรงได้เร็ว
One thought on “โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ”
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.
วิธีการรักษาที่ดีที่สุด คือการดื่มน้ำสะอาดมากๆ เพื่ือช่วยชะล้างเชื้อโรคที่สะสมอยู่ เคยไปซื้อยาที่เภสัชศาลามารับประทาน แต่มันคงดื้อยาแล้ว ไม่หายขาด เพราะเป็นมาก ติดต่อกัน ๔ ครั้ง เดินไม่ได้ต้องนอนพักอย่างเดียว คิดว่าคงตายแน่ๆ อาการที่สังเกตุ ได้ระยะแรกเริ่ม คือ น้ำปัสสาวะจะมีสีคล้ำ และปัสสาวะไม่สุด แสดงว่า ดื่มน้ำน้อย ต้องรีบไปดื่มน้ำทันที ไม่มียาฆ่าเชื้อตัวใดที่ดีที่สุด แต่ยาที่ดีที่สุด คือการได้ดื่มน้ำอยู่บ่อยๆ และราคาก็ไม่แพง ขอบคุณค่ะสำหรับข้อมูล