โรคนิ้วล็อก(2)
หนึ่งปีเศษๆ ผ่านไป เมื่อวันที่ 25 กรกฏาคม 2554ได้นำความรู้เรื่องโรคนิ้วล็อก มาเล่าสู่กันฟัง กล่าวถึงอาการของโรค ผู้เสี่ยงต่อโรค วิธีการรักษา พร้อมได้แนะนำหนังสือที่หอสมุด พระราชวังสนามจันทร์ มศก. ซื้อมาให้บริการในหมวด RC 73.6 ว 62 ณ อาคารหอสมุดฯ ชั้น 2 และยังได้รับความคิดเห็นพร้อมข้อมูลความรู้เพิ่มเติมจากเพื่อนอีก 2 ท่าน คือคุณบุญตาและคุณเอกอนงค์ ต้องขอขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่งมา ณ ที่นี้ และในBlog อื่นๆ ก็ต้องขอขอบพระคุณท่านอื่นๆที่แสดงความคิดเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง
วันนี้ขอนำความรู้เพิ่มเติมโรคนิ้วล็อก ที่อ่านพบในนิตยสารหมอชาวบ้าน ปีที่ 34 ฉบับที่ 400 เดือนสิงหาคม 2555 หน้า 10 – 18 เรื่องโดย รศ.นวลอนงค์ ชัยปิยะพร คณะกายภาพบำบัด มหาวิทยาลัยมหิดล โดยจะขอนำเฉพาะบางส่วนมาเพิ่มเติมดังนี้
นิ้วไหนล็อกได้บ้าง
อาการนิ้วติดหรือนิ้วล็อก จะเกิดขึ้นที่นิ้วมือนิ้วใดนิ้วหนึ่งได้ทุกนิ้ว โดยเฉพาะนิ้วหัวแม่มือ ที่มีความสำคัญ ทำงานได้หลายลักษณะ พบว่าเกิดนิ้วล็อกมากที่สุด รองลงมาพบที่นิ้วนาง นิ้วกลาง และนิ้วชี้ ส่วนนิ้วก้อยพบน้อยที่สุด สำหรับนิ้วเท้า ยังไม่มีข้อมูลใดพบนิ้วเท้าติดล็อก
กล้ามเนื้อฝ่ามือ เป็นกล้ามเนื้อชิ้นเล็ก เกาะอยู่บริเวณฝ่ามือ มีทั้งหมด 20 มัด แบ่งตามที่อยู่ได้ 3 กลุ่ม
1.กลุ่มกลางฝ่ามือ เป็นกล้ามเนื้อชิ้นเล็กยาวเรียว คล้ายใบไม้แทรกอยู่ระหว่างกระดูกฝ่ามือ ทำหน้าที่กางนิ้ว หุบนิ้วและงอโคนนิ้วตั้งฉากกับฝ่ามือ
2.กลุ่มด้านนิ้วหัวแม่มือ ทำหน้าที่กาง หุบ ยก เหยียด และยกนิ้วหัวแม่มือไปแตะปลายนิ้วก้อยและนิ้วอื่นๆ
3.กลุ่มด้านนิ้วก้อย ทำหน้าที่กางนิ้ว งอข้อต่อกลางนิ้ว และยกปลายนิ้วก้อยไปแตะปลายนิ้วหัวแม่มือ
นิ้วหัวแม่มือ มีความพิเศษกว่านิ้วอื่น คือมีกล้ามเนื้อเกาะที่โคนนิ้วถึง 5 มัด มีกระดูกนิ้วเพียง 2 ชิ้น ทำให้ไม่เกะกะ อยู่ในตำแหน่งที่เคลื่อนไหวสะดวก ทำงานได้หลายรูปแบบ ที่สำคัญสามารถเคลื่อนนิ้วเป็นวงผ่านฝ่ามือไปแตะปลายนิ้วและลูบสัมผัสนิ้วทั้ง 4 ทั้งด้านหน้าและด้านหลังได้
วงจรการเกิดนิ้วล็อก
เป็นเรื่องธรรมดาของชีวิต เมื่อมีเกิด ย่อมมีเสื่อม มีดับไปตามวาระ การเสียดสีไปมาของเส้นเอ็นกับปลอกหุ้มเส้นเอ็น(อุโมงค์) ขณะที่งอหรือเหยียดนิ้ว เส้นเอ็นหรืออุโมงค์อาจบาดเจ็บหรืออักเสบได้ เมื่อเกิดซ้ำๆ เส้นเอ็นหรืออุโมงค์จะปรับต้วหนาขึ้น เส้นเอ็นจะสูญเสียความยืดหยุ่น ประกอบกับช่องอุโมงค์ที่แคบเข้า ส่งผลให้เส้นเอ็นลอดผ่านอุโมงค์ลำบากยิ่งขึ้น ถ้าฝืนใช้นิ้วมือที่เจ็บ จะทำให้ตำแหน่งที่เส้นเอ็นเคลื่อนเสียดสีกับอุโมงค์อักเสบและบวมมากขึ้น ที่สุดจะปรับตัวหนาเป็นปม ทำให้เส้นเอ็นเคลื่อนลอดผ่านอุโมงค์ลำบากและเกิดความเจ็บปวดมากขึ้น ถ้าพยายามเหยียดนิ้วต่อไปจะเกิดเสียงดัง ” ป๊อป.” คล้ายเสียงไกปืนลั่น เป็นสัญญาณว่าปมเส้นเอ็นปลิ้นลอดผ่านอุโมงค์ได้แล้ว นิ้วจึงเหยียดได้
ความพยายามจะงอหรือเหยียดนิ้ว ทั้งๆที่ทำด้วยความยากลำบาก ทำให้บริเวณนั้นอักเสบและบวมมากขึ้น เป็นวงจรของการเกิดนิ้วล็อก อักเสบ บวม งอได้ เหยียดไม่ออก เมื่อไม่ได้รับการรักษานิ้วนั้นจะติดในท่างอเหยียดไม่ได้ถาวร
การป้องกันนิ้วล็อก
การป้องกันก็เป็นวิธีที่ดีที่สุด โดยอาศัยพื้นฐานที่เกิดจากการคาดเดาปัญหาและต้นเหตุที่ทำให้เกิด ดังนี้
พักนิ้วมือเป็นระยะๆ ในระหว่างวันที่ต้องใช้มือทำงานหนักและนาน
ออกกำลังกล้ามเนื้อมือ ยืดกล้ามเนื้อฝ่ามือและนิ้วมือในท่าต่างๆ เท่าที่ทำได้ แม้จะเป็นท่าที่ไม่ค่อยได้ทำในชีวิตประจำวัน เช่น สะบัดหรือแอ่นนิ้วมือ
นวดและดูแลมือให้สะอาด เช่นเดียวกับใบหน้าและร่างกายส่วนอื่น
ระมัดระวังอย่าให้มือบาดเจ็บ ถ้ามือบาดเจ็บต้องรีบรักษา
ไม่ใช้มือทำงานผิดประเภท เช่น ฉีกเปลือกมะพร้าวหรือขุดดิน
การหมั่นเหยียดหรือยืดฝ่ามือและนิ้วมือระหว่างวัน จะช่วยให้มือผ่อนคลายและรู้สึกสบายมือ
ท่าออกกำลังนิ้วมือ ดังรูปภาพ ได้ค้นหาเพิ่มเติมจาก.http://doctor.or.th ดังนี้
ท่าที่ ๔ คลึงดินน้ำมันเป็นก้อนกลม เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณครึ่งนิ้ว วางไว้ตรงโคนนิ้วก้อย แล้วพยายามงอนิ้วหัวแม่มือกดไปบนดินน้ำมัน ทำ ๕-๑๐ ครั้ง ทำสลับข้าง
ท่าที่ ๕ คลึงดินน้ำมันเป็นก้อนกลม เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ ๓ นิ้ว กำแล้วกระดกข้อมือขึ้น-ลง ทำ ๕-๑๐ ครั้ง ทำสลับข้าง
ท่าที่ ๖ กำดินน้ำมันเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ ๓ นิ้วในขณะห้อยแขนข้างลำตัว แล้วกระดกข้อมือไปทางด้านหัวแม่มือและนิ้วก้อยทำ ๕-๑๐ ครั้ง ทำสลับข้าง