ปัจจุบันมีภัยร้ายที่เกิดขึ้นในรูปแบบใหม่เรื่อยๆ ทั้งยังเกิดในสถานที่ที่มีผู้คนพลุกพล่านและเกิดขึ้นในช่วงเวลากลางวัน ไปอ่านเจอมาในเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ทั้งยังเป็นข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์และเป็นประเด็นในรายการข่าวในช่วงนี้ คือ การถูกยิงน้ำกรดใส่ใบหน้าและร่างกาย โดยมีผู้เสียหายจากเหตุการณ์ดังกล่าวจำนวนหลายราย
จากรายงานข่าวล่าสุดจับกุมผู้ต้องหาได้ 1 ราย โดยให้การรับสารภาพว่า “ยอมรับว่าเป็นคนสาดน้ำยาดังกล่าวจริง แต่ก็สาดเพียงที่เดียวคือ ย่านสะพานควาย สาเหตุที่ทำเพราะเก็บกดและถูกดูถูกจากสังคมว่าเป็นคนเก็บขยะ รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจสังคมจึงก่อเหตุไปสาดน้ำยาดังกล่าว ส่วนน้ำยาที่นำมาส่วนใหญ่ก็เป็นน้ำยาที่มักหาได้จากการเก็บขยะอยู่แล้ว”
ส่วนผู้เสียหายรายอื่นซึ่งยังระบุไม่ได้ว่าเกิดจากสาเหตุใดเพราะผู้เสียหายหลายรายยืนยันว่าไม่เคยมีเหตุหมาดหมางกับใคร มีความเห็นตรงกันว่าน่าจะเกิดจากกลุ่มมิจฉาชีพที่ต้องการทรัพย์สินของผู้เสียหาย หรือเกิดจากบุคคลคนที่มีความผิดปกติทางจิต
โดยเริ่มแรกผู้เสียหายจะรู้สึกเพียงแค่มีน้ำกระเด็นใส่ แค่เวลาไม่นานก็จะรู้สึกแสบร้อน และมากขึ้นเรื่อยๆ เป็นรอยแดงและอาจถลอกเป็นรอยไหม้ ถ้าหากต้องเจอเหตุการณ์แบบนี้ทั้งกับตัวเองและผู้อื่นสิ่งที่สำคัญคือ ต้องมีสติ!! ให้ควบคุมสติไว้ก่อน อย่าพยายามเอามือไปป้ายออกหรือขยี้ กรดจะยิ่งกระจายไปโดนผิวหนังเป็นบริเวณกว้างขึ้น ปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อน และคิดหาทางไปโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด เพราะหากเราไม่ทันระวังตัวและมัวแต่ตกใจกับความปวดแสบปวดร้อน อาจจะทำให้ต้องเสียโฉม และเสียทรัพย์ไปในคราวเดียวกันได้
วิธีปฐมพยาบาลเมื่อโดนน้ำกรด อย่างถูกวิธี
รีบถอดเสื้อผ้าที่เปื้อนถูกน้ำกรดออก หาผ้าแห้งหรือกระดาษแห้งเท่าที่จะหาได้ซับน้ำกรดออก
ห้ามนำผ้าหรือกระดาษที่ซับไปชุบน้ำเด็ดขาด เพราะจะทำให้กรดยิ่งกัดมากขึ้น
น้ำกรดแบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือแบบเจือจาง และแบบเข้มข้น ซึ่งจะมีวิธีการปฐมพยาบาลต่างกัน
1. กรดที่เจือจาง ให้รีบล้างออกด้วยน้ำทันที ล้างให้นานๆเท่าที่จะทำได้โดยปล่อยให้น้ำผ่าน
ห้ามถูล้างแบบล้างสบู่ เพราะจะทำให้ผิวหนังอักเสบหลุดออก
2. กรดที่เข้มข้นห้ามล้างด้วยน้ำทันที เพราะจะทำให้เกิดฟองเดือดและเกิดความร้อนสูงเมื่อน้ำผสมกับกรด จะอันตรายเพิ่มขึ้น ให้ใช้ผ้าหรือกระดาษมาซับออกก่อน (ห้ามเช็ดหรือถูเด็ดขาด เพราะจะทำให้ผิวหนังถูกทำลายมากขึ้น) จนกรดที่เป็นของเหลวนั้นแห้ง จึงล้างออกด้วยน้ำสะอาดมากๆ
** นำมาฝากเพื่อให้รู้เท่าทันภัยร้ายที่เกิดในสังคมค่ะ **