สัมนาประจำปี-ได้คิด ได้รู้
สถานที่ต่อไปของเราคือ “วนอุทยานปราณบุรี”
สงสัยจังว่า “วนอุทยาน” กับ “อุทยานแห่งชาติ” ต่างกันอย่างไร ไปค้นมา มีผู้รูไปตอบในกูรูกูเกิ้ลว่า http://guru.google.co.th/guru/thread?tid=6081a9c821b049db
อุทยานแห่งชาติ (National Park) หมายถึง พื้นที่ที่สงวนไว้ เพื่อคุ้มครองรักษาทรัพยากรธรรมชาติ โดยเฉพาะ ป่าไม้และสัตว์ป่า ตลอดจนทิวทัศน์ ธรรมชาติที่สวยงาม และมหัศจรรย์อันเป็นที่ตรึงตาตรึงใจแก่ผู้พบเห็นให้คงอยู่ในสภาพธรรมชาติ เดิมมิให้ถูกให้ ทำลายหรือเปลี่ยนแปลงไปและถูกใช้ไปในทางที่ผิด เพื่อรักษาสมบัติของธรรมชาติไว้ให้อนุชนรุ่นหลัง ๆ ได้ชมได้ศึกษา ค้นคว้าธรรมชาตินั้น ๆ ต่อไป อุทยานแห่งชาติ ตามหลักสากล จะมีเนื้อที่ไม่น้อยกว่า 10 ตารางกิโลเมตร หรือ 6,250 ไร่ และที่สำคัญที่สุดในอุทยานแห่งชาติ จะต้องมีสภาพทิวทัศน์ธรรมชาติที่ สวยงาม ซึ่งเป็นจุดเด่นที่สนใจหลายแห่ง เพื่อที่จะดึงดูดประชาชนให้ไปเที่ยวพักผ่อนกันมากที่สุด…
วนอุทยาน คือ พื้นที่ประกอบด้วยทรัพยากรธรรมชาติที่มีความสำคัญทางระบบนิเวศวิทยา อันมีความสวยงามที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่ออนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาตินั้น ๆ วนอุทยานส่วนใหญ่ยังไม่ได้มีการพัฒนาพื้นที่เพื่อการท่องเที่ยวอย่างถาวร
วนอุทยานปราณบุรี อยู่ในพื้นที่หมู่ 1 เป็นพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติคลองเก่า คลองคอย เป็นโครงการพัฒนาป่าชายเลน ตามพระราชประสงค์ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ มีพื้นที่ประมาณ 1,984 ไร่ กรมป่าไม้ประกาศจัดตั้งเป็นวนอุทยานเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2525 ภายในวนอุทยานปราณบุรี มีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติสามารถเดินชมระบบนิเวศของป่าชายเลน ระยะทางเดินมีความยาวประมาณ 1กิโลเมตรนักท่องเที่ยวจะได้ศึกษาป่าชายเลนและวิถีการดำเนินชีวิตของสัตว์ต่าง ๆ ที่อาศัยอยู่ในบริเวณป่าชายเลน
พวกเรามีโอกาสได้เดินตามส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติป่าชายเลน ไปตามสะพานไม้ เส้นทางกำลังดัแค่ 1,000 เมตร โดยมีคุณน้องเจ้าหน้าที่อุทยานเป็นผู้นำชม มีคุณพี่ตาเป็นคนจด มีดิฉันเป็นคนแซว และมีพี่บูรณ์เป็นลูกคู่ จึงเป็นทริปที่น่าประทับใจ ฮาเฮกันตลอดทาง… คุณน้องบอกว่าไม่เหงา เพราะคุณพี่ช่างซักถาม ปากก็บอกว่าไม่กวนนะคะ คุณพี่สงสัยจริงๆ แล้วหากเป็นสัตว์น้ำทั้งหลาย คุณพี่จะมีคำถามสุดท้ายคือ …. กินได้ป่ะ
คุณพี่บูรณ์บอกว่าปลาตีนนึ่งซีอี๊วอาหร่อย เราบอกว่า เมนูนี้พลาดได้อย่างไรไม่เคยเห็นแฮะ …ไม่ได้รู้เรื่องเล้ยว่าล้อเล่งๆ
ต้องขอโทษสิ่งมีชีวิตทั้งหลายที่อาศัยอยู่ในบริเวณนั้นที่ส่งเสียงดังเกินไป …แต่ยังแอบได้ยินปูดีดขัน แป๊ะ แป๊ะ ยังพอได้เห็นปูก้ามดาบโบกมือ (ก้ม) หยอยๆ
ได้รู้จัก “หอบ” สิ่งมีชีวิตที่เป็นผลผลิตของกุ้งกับกั้ง
ได้รู้จัก “แพรก” ที่หมายถึงทางแยกทางน้ำ ทำให้เราคิดได้ว่ายังมี… ห้วย หนอง คลอง บึง และแต่ละคำมีความแตกต่างกันอย่างไร …เก็บๆ เข้าสมองไว้สำหรับเล่าให้ลูกฟังในโอกาสต่อไป
ส่วนเรื่องที่มีความจำสั้นนักคือเรื่องต้นไม้ ลูกถามทีไรไม่พี่สุนีย์ ก็น้องอ้อและที่เป็นที่พึง
ระหว่างเดินสนุกสานและได้ความรู้มากมาย หากให้ๆปอีกก็ยังอยากไป เพราะแต่ละวันแต่ละเดือนมีความแตกต่างกัน
เห็นพี่ตาจดยิกๆ พิมพ์ออกมาแล้วคงได้เป็นหนังสือเล่มโต …จนอยากจะทำ อีบุ๊คส์ให้สักเล่ม