Silpakorn KM Day ครั้งที่ 1

หลังจากที่หาเสียง เอ๊ยยย ไม่ใช่ช่วยประชาสัมพันธ์กิจกรรมนี้เมื่อวันก่อนไว้ที่ http://202.28.73.5/snclibblog/?p=20372 ไปแล้วนั้น ฉับพลันก็ถึงวันจันทร์ที่ 30 เมษายน 2555 ซึ่งเป็นวันของการจัดงาน
อิฉันในฐานะที่ไปนำเสนอโปสเตอร์เรื่อง การใช้กระบวนการจัดการความรู้ในการพัฒนาตัวชี้วัดผลงานหลักรายบุคคล …
ระหว่างหลังจากที่คุณน้องกวีออกแบบและคุณน้องกับสหเพื่อนได้ไปช่วยติดตั้ง คุณพี่ก็คิดๆ ว่าจะทำอย่างไร เพราะมีโต๊ะหน้าขาวตั้งด้วย และเจ้าโต๊ะหน้าขาวนี่แหละทำให้คุณกวีต้องมาปรับโปสเตอร์ใหม่ เรื่องนี้คุณพี่แมวบอกแล้ว แตาคุณพี่กะกว่าจะยกไป แต่ดูไปดูมาคงยกไม่ได้ จึงต้องคิดวิธีการต่อไป
ระหว่างนั้นก็จินตนาการว่าบนโต๊ะจะต้องมี 1) ผ้าปูโต๊ะ – ขอหนูใหญ่  2) แจกัน – ยืม พี่จิ 3) คัมภีร์ KPI ทั้งสองเล่ม – ยืมธุรการ ยังโล่งแฮะ….
ระหว่างนั้นไปชมนิทรรศการที่เมืองทอง เห็นเค้าแจกลูกอม เอาวะ แจกกับเค้าบ้าง จึงลงทุนให้ลูกน้อยไปซื้อมา 1 ถุง ส่วนที่ใส่ก็หาๆ จากในครัว ได้กะปุกพลาสติคใส่ใส่ลอยแก้ว จึงเทลงไป แหม..ดูเก๋ทีเดียว … มีคนแซวว่าติดสอนบน ม่ายมี๊ ม่ายเคยคิดสักนิด 555
ทีแรกบอกให้ลูกซื้อ “ฮารํทบีท” แต่ไม่มี เลยได้ “มายมินท์” มาแทน ทำไมจึงเลือก “ฮารํทบีท” หรือ “มายมินท์”
อันเรื่องนี้มีที่มา หาได้เลือกแบบไก่กาไม่มา  เพราะเรื่องของ KM หากมีใจที่เปิดและลงมือทำแล้วก็จะทำให้ใจมีสุข จึงใช้ “ฮารํทบีท” เป็นสื่อ
แต่เมื่อไม่มี จึงเลือก “มายมินท์” เพราะโฆษณาบอกว่า….
mint
เพราะการพูดแบบ “สุนทรียสนทนา” ป็นหนึ่งเครื่องมือของ KM ดังนั้นพูดแบบอม “มายมินท์” จะเพิ่มบรรยากาศของการสนทนาให้เย็นใจขื่นอุรา
พร๊อพทุกอย่างจึงมีที่มา ที่ไป เรื่องนี้ได้มาจากการเรียนหนังสือในวิชาที่เกี่ยวกับเรื่องการตีความ ที่แทรกๆ อยู่ในหลายๆ วิชาที่คุณครูท่านสั่งสอนมา
คิดว่าคนที่ไปดูน่าจะได้อะไรบางจึงเขียนเป็นบทความอีกเรื่อง เนื่องจากที่ส่งผลงานไปเน้นที่ “กระบวนการ” ส่วนเรื่องที่แจกไปเป็น “ผล” ของกระบวนการ ก็เขียนกันไปได้เอกสารอีกชุด จำนวน 7 หน้า
ทุกปลายเดือนตัวเองจะต้องมีการเขียน “อ่านเอาเรื่อง” ที่ทำท่าทำทีจะหมดมุข พอมีงานนี้จึงมีความคิดว่าน่าจะเขียนเรื่องราวที่เกี่ยวกับ KM จึงเป็นที่มาของ อ่านเอาเรื่อง ฉบับคำคม “KM” พี่แมวชมว่า แหม… ช่างคิดนะ … เราตอบว่ามองแล้วเป็นภาพรวมดีนะคะคุณพี่ เป็นการสนับสนุนงานซึ่งกันและกัน…คุณพี่จึงบอกว่าให้นำไปแจกในงานด้วย
picture-077

สรรพสิ่งพร้อมแล้ว เช้าวันนี้ก็รีบมาทำงาน มาเตรียมของที่หนูใหญ่เตรียมไว้ให้ หนูน้องฝ่ายสนับสนุนความงาม พี่จิฝ่ายสนับสนุนความสดชื่น แล้วรีบจรลีไปจัดบูธ
น้องวีบอกว่า ผมไปบ้างดีกว่า ไปดู “งาน” ของคนอื่นด้วยว่าหน้าตาเป็นอย่างไร เรื่องนี้คุณพี่ให้คะแนนเต็มร้อยสำหรับการมอง “งาน” ในเรืองเดียวกันในมุมของตัวเอง เป็นการพัฒนาตนเองแบบเนียนไปกับเนื้องาน น้องคงได้เห็น และได้ข้อคิดกลับมาเป็น “องค์” ในตัวเอง
เราก็จัดๆ วางๆ แบบเงียบๆ ออกจะงงกับจำนวนผู้คนมหาศาลที่เต็มสถานที่จัดงาน
มีหลายคนเดินมาบอกว่าโปสเตอร์ออกแบบได้สวย อ่านแล้วสบายตา ตัวอักษรเหมาะกับการอ่าน จึงเป็นเรื่องน่าชื่นใจของคนทำ จึงขอส่งผ่านไปให้น้องวี

ท่านอธิการบดี อาจารย์ ดร.อุทัย ดุลยเกษม ไปเปิดงาน งานนี้ดิฉันตั้งใจฟังเป็นพิเศษ เพราะมีความเห็นว่าท่านเป็นผู้ที่มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับสังคมมาโดยตลอด ผ่านงานเขียนมากมายที่อ่านแล้วเข้าใจง่าย และเป็นนักเขียน นักคิดที่อิฉันตามอ่าน  ตั้งแต่วัยกระเตาะ แถมยังนำมาใช้ โดยเฉพาะเรื่องการเลี้ยงลูกที่ท่านเขียนไว้ในหนังสือประเภทแม่ๆ ลูกๆ
จึงมาเยอะทีเดียวแต่ที่จำแม่นคือ ความสัับสนระหว่างคำว่า information management กับ knowledge management กับการทำ KM แบบว่าทำให้ in trend แล้วไปจัดสัมมนา in hotel ฯลฯ มีพี่ๆน้องๆ หลายคนไปในงานนี้ ขอให้เอามาขยายในแต่ละมุมมองของแต่ละคนกันดีกว่า เพราะเห็นน้องโรสจดยิกๆ ส่วนพี่แมวขอต้นฉบับของท่านมา …
แต่ที่รู้ๆ คือไปหาเอกสารมา่อ่าน เพระาไม่อยากหยุดตัวเองอยู่แค่คำูพูดของท่าน แล้วบอกว่าท่านพูดดีจัง และคิดว่าท่านคงเห็นด้วยกับการปฏิบัติของข้าพเจ้า

picture-009
บอร์ดของหอสมุดฯ อยู่ทางด้านทิศตะวันนออก ตอนเช้าแดดส่องลงมาจนแทบยืนไม่ไหว แสบตา ระหว่างเฝ้าบูธในตอนเช้าจึงต้องใส่หมวก ในที่สุดก็ต้องเดินเข้าไปด้านในฟังการบรรยายพิเศษ พอพักเบรคออกมาชมตามบูธต่างๆ
หลายคนเข้ามาสอบถาม หลายคนมีข้อสงสัย คำถามและข้อสงสัยที่ถามคือ KPI ใช้กันจริงหรือ แต่ละฝ่ายตกลงกันได้หรือ มีปัญหามั๊ย กดดันมั๊ย เบื่อมั๊ย ฯลฯ คำตอบคือ มีทุกอย่างที่ท่านถาม แต่ KPI ที่สร้างขึ้นมานี้ไม่ใช่ข้อสิ้นสุด ทุกอย่างต้องมีการปรับเปลี่ยน ทุกคนมีสิทธิที่จะแสดงความคิดเห็น ทุกคนมีสิทธิที่จะเห็นด้วย หรือไม่เห็นด้วย ทุกคนจะต้องมีส่วนในการพาองค์กรไปให้ได้ การนำพาคือการมองในภาพรวมขององค์กร ไม่ยึดติด
เหนื่อยกันไหม …เหนื่อยสิ เหนื่อยกันทุกคน แม้สิ่งที่ได้จะไม่ใช่สิ่งที่ดีที่สุด เพราะไม่มีใครสามารถตอบได้ว่าสิ่งที่ดีที่สุดคืออะไร
ทำอย่างไร เปิดใจ ทำใจยอมรับ เคารพกติกา มารยาท ข้อตัดสินขององค์กร หากข้อไหนไม่อยากทำ ก็ต้องยอมรับผลที่จะเกิด
แล้วหัวหน้าล่ะ…บอกว่าไม่สามารถตอบแทนใครได้ แต่สำหรับตัวเองแล้ว มีบางข้อที่ขี้เกียจเหมือนกัน ไม่ทำเหมือนกัน และก็ไม่ได้คะแนนเหมือนกัน
ถามว่าทำไมจึงเลือกเรื่องนี้ขึ้นมาทำ ตอบว่า เพราะเป็นเรื่องที่ทุกคนมีผลกระทบ มีคนควรมีส่วนร่วม ซึ่งมากน้อย หนักเบาต่างกัน
ถามว่า ทำมานานหรือยัง  ตอบว่า KM ทำตั้งแต่ปี 48 ส่วน KPIs ทำมาไม่น้อยกว่า 32 ปี ก่อนที่มหาวิทยาลัยจะประกาศให้ใช้
ถามว่า รู้ได้อย่างไรว่าจะต้องทำเรื่องแบบนี้ ตอบว่า หากเราอ่านหนังสือติดตามโลกภายนอก (ศิลปากร) เราจะพบว่ามีเรื่องราวอะไรมากมายและเรื่องราวนั้นจะไปในทิศทางไหน
ถามว่า ทำไมพี่ทำแบบนี้ แล้วทำไมที่ือื่นไม่ทำแบบนี้บ้าง ตอบว่า ไอ้สิ่งที่คุณพี่ทำ คุณพี่ก็ไม่ทราบว่าถูก หรือผิดอย่างไร  เพราะเอกสารที่มีให้อ่านคุณพี่อ่านแล้วไม่เข้าใจ ทำไม่ถูก ขอทำแบบที่คุณพี่เข้าใจ ส่วนที่อื่นทำกันอย่างไรนั้นคุณพี่ไม่สามารถราบรายละเอียดได้ ได้แต่ทราบพอเลาๆ ไม่ชัดเจน
ถามว่า แล้วทำไมคุณพี่ไม่ไปนำเสนอบ้าง ตอบว่า อันตัวคุณพี่นั้นเป็นบรรณารักษ์ค่ะ ไม่ได้เกี่ยวกับการเจ้าหน้าที่ใดๆ เล้ยคุณน้องขา
และคำถามเด็ดประจำกิจกรรม ขอไฟล์ได้มั๊ย ตอบว่า ได้คร่าาา
KM เป็นเรื่องของการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เรื่องแบบนี้จิ๊บๆ
km
ตกบ่ายสามโน่นแน่ะ ชักชวนสหายบูธข้างๆว่าเก็บของกันเถอะเรา สหายบอกว่าอย่าเลยรอก่อน เดี่ยวมีการประกาศผล เอาวะ รอก้รอ
ในที่สุดก็ได้ “รางวัลดีเด่น” มาสำหรับปีนี้ครับท่านผู้อ่าน พอได้แล้วครึ้มๆ เหมือนกันนิ
ขอบคุณพวกเราทุกคนที่ร่วมกันฟันฝ่าและอดทน การได้รางวัลอาจทำให้รูปแบบการทำงานของเรารู้จักกันมากขึ้น
ขอบคุณหอสมุดฯ ที่เป็นแหล่งให้เราทำงาน ได้คิดและได้ทำ ขอบคุณพี่น้องหอสมุดฯ ที่อยู่กันอย่างอบอุ่นมากกว่าร้อนหรือหนาว  ขอบคุณสำหรับวัฒนธรรมการทำงานในเรื่องของการช่วยกันคิด การประชุม แล้ว “จบ” ณ ห้องประชุม หรือโต๊ะตัวนั้น
รางวัลนี้เป็นของทุกคน เพียงแค่ดิฉันเป็นตัวแทนในการนำเสนอ แล้วบังเอิญเวทีนั้นมีรางวัล
เพราะความเชื่อมั่นคือจะมีเวที จะมีรางวัล หรือไม่ก็ตาม หากพวกเรายังยืนหยัดกันทำงานอย่างเหนี่ยวแน่นเช่นเดิม ….
km2

4 thoughts on “Silpakorn KM Day ครั้งที่ 1

  • มีโอกาสได้ทำโปสเตอร์สำหรับงาน Silpakorn KM Day ครั้งที่ 1 แบบไม่ต้องตั้งตัว ทีแรกยังนึกไม่ออกว่าหน้าตาของงานจะเป็นยังไง มีโจทย์บอกมาว่าขนาดของสถานที่เท่านี้นะ นั่งทำอยู่วันสองวันโดยไม่ได้ออกไปดูสถานที่จริง ตัดสินใจไปดูของจริงดีกว่า กลับมาต้องแก้ไขพอสมควร ก็เลยออกมาเป็นแบบที่เห็น วันงานได้ไปชมบูธของหน่วยงานต่างๆ
    มีหน่วยงานที่จัดบูธได้สวย ดูแล้วอยากเข้าไปเยี่ยมชม รับรองว่าปีหน้าแต่ละหน่วยงานคงแต่งเติมบรรยากาศบูธของตัวเองกันเต็มที่ ปีหน้าอย่าลืมไปเยี่ยมชมกัน
    เรื่องราวที่ไปนำเสนอปีนี้ได้รับรางวัลมา ก็ต้องขอแสดงความยินดีด้วยครับ
    “ขอบคุณหอสมุดฯ ที่เป็นแหล่งให้เราทำงาน ได้คิดและได้ทำ ขอบคุณพี่น้องหอสมุดฯ ที่อยู่กันอย่างอบอุ่นมากกว่าร้อนหรือหนาว ขอบคุณสำหรับวัฒนธรรมการทำงานในเรื่องของการช่วยกันคิด การประชุม แล้ว “จบ” ณ ห้องประชุม หรือโต๊ะตัวนั้นรางวัลนี้เป็นของทุกคน เพียงแค่ดิฉันเป็นตัวแทนในการนำเสนอ แล้วบังเอิญเวทีนั้นมีรางวัล”
    ………ขอบคุณพี่ปองแทนพี่น้องชาวหอสมุดทุกคนครับ……

  • KM in trend in hotel ยังรอความหมายอยู่เหมือนกัน เพราะบริบทอื่นๆ ฟังไม่ค่อยได้ยิน ระบบเสียงก้องมาก มาชัดเจนอีกครั้ง ” รางวัลดีเด่น เป็นของหอสมุดพระราชวังสนามจันทร์ ” ขอบอกว่าดีใจสุดๆแทนคุณสมปองและคณะผู้จัดด้วยทุกคนคะ 000

  • “ไม่ได้ไป แต่ส่งกำลังใจ….เกินร้อย” ขอยืมคำฮิตติดปากของต้นข้าว “เยี่ยม” เก่ง โค-ตะ-ระ ๆ

  • เสียดายที่ไม่ได้ไปร่วมงาน…มัวแต่ไปตากแดดอยู่ แต่ก็ลุ้นๆๆๆๆๆ…สุดยอดดดดด

Leave a Reply

Tags

blog CONSAL KPI PULINET การจัดการความรู้ การดูแลสุขภาพ การทำงาน การท่องเที่ยว การบริการ การปฏิบัติงานล่วงเวลา การประชาสัมพันธ์ การพัฒนาตนเอง การพัฒนาบุคลากร การลงรายการ การศึกษาดูงาน การอ่าน การเรียนออนไลน์ กิจกรรมสำหรับเด็ก กิจกรรมส่งเสริมการอ่าน กิจกรรมห้องสมุด ความสุข ค่ายห้องสมุด งานบริการ ธรรมะ นวนิยาย นักเขียน บรรณารักษ์ บริการชุมชน ประกันคุณภาพ ภาพถ่าย ภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยศิลปากร ระบบห้องสมุดอัตโนมัติ วัด วันสำคัญ วารสาร สัมมนา สุขภาพ หนังสือ หนังสือบริจาค หนังสือและการอ่าน หอสมุดพระราชวังสนามจันทร์ ห้องสมุด ห้องสมุด 24 ชั่วโมง อาหาร