อาลัย…ป้านพรัตน์

เมื่อป้าอยู่บ้านกตัญญู บ้านโป่ง
เมื่อป้าอยู่บ้านกตัญญู บ้านโป่ง

บ้านเตือนใจ บ้านโป่ง ที่อยู่สุดท้ายของป้า
บ้านเตือนใจ บ้านโป่ง ที่อยู่สุดท้ายของป้า

วันที่ 26 มี.ค. 2555 เวลาประมาณ 20.20 น. เมื่อได้รับโทรศัพท์พร้อมเสียงสะอื้นของหลานสาวป้านพรัตน์ ก็นึกรู้ได้ทันทีว่าคงมีเหตุการณ์ไม่ค่อยดีแล้ว และก็จริงดังคาด หลานสาวและน้องสาวป้าบอกว่า..”ป้าเสียแล้ว” ที่ รพ.บ้านโป่ง และขอให้น้องรถโฟล์ค (หนูเล็ก) ช่วยจัดการให้ทีเหมือนครั้งคุณยาย (แม่ของป้านพรัตน์) เมื่อโทร.แจ้งหนูเล็ก เจ้าตัวก็ยินดีเป็นธุระให้ทุกอย่าง  ต่อจากนั้นก็บอกเพื่อนบ้าน (สุนีย์) โทร.บอกหัวหน้าหอฯ พี่ตา น้องเอ๋ (ซึ่งได้ช่วยดูแลเสมอ)
ป้าอยู่คู่กับหอสมุดฯ และอยู่กับพวกเรามานานหลายรุ่นแม้จะเกษียณอายุราชการไปแล้วก็ยังมาช่วยทำงานให้หอสมุดฯ จนกระทั่งมาไม่ไหวเนื่องจากถูกรถปิคอัพเฉี่ยวชน กระดูกขาร้าวต้องพักรักษาตัว  ไม่คิดว่าสุขภาพป้าจะเลยเถิดไปขนาดนี้
บัดนี้ป้านพรัตน์ได้จากพวกเราไปแล้ว ขอให้ป้าไปสู่สุคติเถิด

10 thoughts on “อาลัย…ป้านพรัตน์

  • คนเรามีเพียงเท่านี้นะพี่
    สุดท้ายก็กว้างไม่เกินศอกยาวเสมอวา
    สิ่งใดติดค้างขุ่นข้องละวางไว้เพียงภพชาตินี้นะจ๊ะพี่
    สิ่งที่พี่เห็นสิ่งที่พี่รับรู้ จากวันแรกที่นู๋เข้ารับราชการ
    จวบจนถึงวันนี้ วันที่พี่ละร่างกาย ละสังขารที่ไม่เที่ยง
    พี่เห็นน้องคนนี้อย่างไร น้องยังคงเป็นอยู่อย่างนั้น
    …อาจมีปัด มีเป๋…ไปบ้างตามจังหวะหายใจเข้า-ออก
    สำหรับพี่
    สิ่งใดใดที่พูด-คุยกันระหว่าง “เรา” แม้จะไม่บ่อยนัก
    นู๋หมายความตามนั้น…พี่คงรับรู้
    รู้เท่าๆ กับที่พี่ “รู้จัก” น้องคนนี้มาตลอด ๒๕ ปีในชีวิตราชการของนู๋
    น้องไม่มีอะไรจะบอกพี่มากไปกว่า
    ขอให้บุญกุศลที่พี่เคยทำมาแต่อดีตในทุกชาติภพ
    ทั้งกับคุณยายและทุกๆ คนที่พี่และเขาเคยเกื้อหนุนกันมา
    ส่งหนุนให้พี่ไปสู่สัมปรายภพที่ดี
    เชื่อว่ามือที่ปล่อยวางของพี่ “เมื่อวาน”
    คงละทุกอย่างไว้ข้างหลังแล้ว
    หลับให้สบาย…ไปสู่สุขคติค่ะพี่นิศา

  • ตอนป้าเกษียณอายุ เรากับน้องๆ ช่วยกันทำวิดีโอเรื่อง “ตามหานิสา” โดยใช้ไอเดียแบบคนค้นคน ตัดแต่งรูปป้า จำได้ว่าทำไปหัวเราะกันท้องแข็งกันไป ตั้งแต่นั้นจึงผูกพันกันเรื่อยมา เพราะก่อนหน้านั้นไม่เป็นแบบนี้ ต้นฉบับวีดิโอไม่รู้อยู่ไหนกันแล้ว แต่ป้ามีแผ่นและเคยเล่าให้ฟังบ่อยๆ ว่า เอามาดู พอดูไปก็จะบอกว่า แหม…เธอช่างทำกันจริง
    ป้านพรัตน์ เป็นแบบอย่างของบุคคลที่รักองค์กรแบบขั้นสูงสุด ที่รุ่นหลังจากดิฉันถือเป็นไอดอล …
    ตอนเกษียณพี่สุนีย์ได้แต่งกลอนไว้ให้ จึงอยากเอามาฝากพวกเราให้ได้อ่านกัน…
    “พี่นพรัตน์….ฮัด…ฮัดเช้ย……”
    ในวาระเกษียณเวียนมาถึง วันนี้จึงมีความหมายหลายสถาน
    เราจึงร่วมพร้อมใจกันจัดงาน เพื่อรำลึกถึงวันวารที่ผ่านมา
    สามสิบปีที่รับใช้ราชการ จะว่านานก็นานนะคุณขา
    ถึงหกสิบอย่าหาว่าชรา ยังสง่างามพริ้งปิ๊งสมวัย
    หกสิบแล้วยังแจ๋วแหววนะน้อง ขอรับรองคุณภาพทราบใช่ไหม
    พี่นี้รักห้องสมุดสุดหัวใจ จึงขอทำต่อไปให้ฟรีฟรี
    มาทำงานจักรยานสองล้อถีบ ไม่ลืมหยิบแว่นตาดำนำวิถี
    พร้อมร่มอีกคันหนึ่งจึงดูดี เท่ห์เหลือที่พี่เขาไม่เบาเลย
    อ้อ! เกือบลืมเรื่องเด็ดอย่าเอ็ดไป เอกลักษณ์เหนือใครใคร่เฉลย
    เรื่องนี้ดังเล่าเมื่อไหร่ไม่มีเชย ฮัด…ฮัดเช้ย….ย! !เอ่ยมาฮาทุกที
    อย่าถือโทษโกรธน้องเลยนะคุณพี่ เพราะรักออกอย่างนี้จึงกล้าเผย
    ถ้าไม่รักจักไม่บอกออกไปเลย ขอฮัดเช้ย….ย! !สักทีนะพี่ยา.
    ท้ายที่สุดขอพุทธรัตนตรัย สิ่งศักดิ์สิทธิ์ใดใดในทั่วหล้า
    อีกกุศลผลบุญหนุนนำมา ดลชีวาผาสุกทุกคืนวัน
    เป็นเศรษฐีมีทรัพย์รับไม่อั้น สวยดั่งสาวสองพันปีศรีสง่า
    อย่าเจ็บไข้แม้เข้าวัยเฒ่าชรา แข็งแรงดั่งแม่อำภา น่ารักเอย !
    สุนีย์ ตรียินดี
    7 ตุลาคม พ.ศ.2547

  • ตอนมาทำงานที่นี่แรกๆ บอกกับพี่นพรัตน์ว่า จะเรียกป้านะไม่เรียกพี่ เพราพี่เค้าปีเดียวกับแม่ของเรา พี่เค้างอนไป…จะว่าไปก็พูดคุยกับพี่เค้าน้อยมาก แต่ทุกครั้งที่เจอหน้ากันก็เป็นอันต้องพูดและแซวกัน จนวันที่พี่เค้าเกษียณอายุ เอ๋ก็เป็นคนหนึ่งที่มีส่วนร่วมในการทำวิดีโอด้วยเช่นกัน
    จนวันหนึ่งได้พาลูกชายไปเรียนเทนนิสซึ่งอยู่ใกล้ๆ บ้านพี่เค้า ก็ได้ไปเยี่ยมเยียนพี่เค้าที่บ้านหลายครั้ง และได้ชวนพี่เค้าไปนั่งรถเที่ยว แ้ก้เหงา เพราะหลังจากที่พี่เค้าถูกรถชนก็ไม่สามารถที่จะไปไหนมาไหนได้สะดวก
    แต่ก็ไม่นึกเลยว่า วันที่ชวนพี่เค้าไปนั่งรถเที่ยว จะเป็นวันที่ต้องพาพี่เค้าไปส่งโรงพยาบาล และไปดูแลหลายครั้ง ทั้งดุทั้งปลอบให้สู้ๆๅๆๆ แต่พี่เค้าก็ไม่มีโอกาสได้กลับมาอยู่ที่บ้านอีกเลย จนถึงวาระสุดท้าย…

  • เห็นกลอน “พี่นพรัตน์….ฮัด…ฮัดเช้ย……” ของป้าสุนีย์ แล้วนึกขึ้นได้
    จำได้ว่าสมัยที่มาทำงานใหม่ๆ ที่งานวิเคราะห์ฯ ชั้น๒ ตึกเก่า(‘ถาบันวิจัยบัดnow)
    นั่งๆ ทำงานอยู่จะได้ยินพี่นิศา ฮัดเช้ย ฮัดเช้ย ประจำ
    ครั้งหนึ่งตอนปิดเทอม
    เด็กน้อยหลายคนของพวกเรา วิ่งเข้า วิ่งออก ขึ้นๆ ลงๆ ตึก๒ ชั้น
    วันนั้นเด็กๆ ที่จำได้แน่ๆ คือ นู๋ออมกะทิดอ๊อฟ
    ใช้ห้องวิเคราะห์ฯ เป็นทางผ่านลงชั้นล่าง
    ขณะที่นู๋ๆ จะเดินลงบันไดหลัง
    ป้านิศาก็บังเอินจามแบบน่ารักๆ “ฮัดชิ ฮัดชิ” สนั่นห้อง
    เจ้านู๋ออม หรือทิดอ๊อฟ ซักคนเนี่ยล่ะ
    ที่เดินผ่านป้าพอดี…ด้วยอารามที่ต๊กกะใจบวกภาษาเด็กซื่อๆ
    ไม่รู้อีนู๋หรือไอ้นู๋(จำไม่ถนัด)เหลียวหันมาดู
    พร้อมเสียงในฟิล์มแบบสุพั๊น “เมื๊อนม๋าเล่ย”
    ทำเอาน้าๆ อาๆ ป้าๆ ลุงๆ บนห้องวิเคราะห์-จัดหา
    โดยเฉพาะลุงสมชาย เล็กเจริญ ฮากันครืน
    แต่ป้านิศางอนไปหลายวัน
    ป้านิศา…
    นู๋เล่าเรื่องเก่า ให้คนเก่าๆ ได้รำลึกอดีต
    ที่เคยหยอก เคยเย้า กระเซ้าหยอกเอินกันฉันท์เพื่อนร่วมงานนะพี่นะ
    วันนี้พวกเราก็พากันไปส่ง “เพื่อน” เป็นครั้งสุดท้าย
    น่าดีใจแทนพี่นะ พี่ๆ น้องๆ เพื่อนร่วมงาน
    ทั้งคนหอ’หมุด คนจากกองงาน อดีตผอ.อาจารย์นรงค์ และส่วนงานอื่นๆ
    ไปส่งพี่กันเต็มศาลา … และข่าวว่า…
    น้องๆ ทางตึกปิ่นฯ กลับมายังฝากกลิ่นธูปตามมาถึงพี่เกกะซ้อดวงที่ต้องเฝ้าค่ายเด็ก
    เอ่ออออออ คือว่า…เรื่องข้างบนที่นู๋เล่าก็อย่าเคืองนู๋น๊าาาาพี่น๊าาาา
    นู๋แค่อยากเล่าเรื่องเก่าที่เราเคยสุขๆ ดิบๆ ด้วยกันนะพี่นะ
    ถ้าจะเคืองกัน นู๋ขอเป็นบน๓ล่าง๓แทนละกันนะพี่นะ
    เอาเป็นว่า เป็นการเป็นงานดีกว่าจ้ะ
    พรุ่งนี้ พี่ๆ น้องๆ เพื่อนๆ ท่านใดที่ไม่มีโอกาสไปส่งพี่นิศาวันนี้
    พรุ่งนี้(วันศุกร์)ทางครอบครัวพี่นิด(น้องพี่นิศา)จะไปเก็บอัฐิที่วัด ๘ โมงเช้า
    เพื่อไปลอยอังคารที่วัดไร่ขิงหลังเสร็จพิธีจากวัดเสน่ห์
    ใครสะดวกไปรดน้ำอัฐิก็เชิญได้ เล็กแจ้งกับพี่นิดเผื่อไว้แล้วจ้ะ

  • ป้าเป็นคนรักน้องหมามาก ตอนที่น้ำท่วมเมืองนครปฐมเมื่อหลายปีก่อน บ้านป้าได้รับผลกระทบไปด้วย จำได้ว่าไปกับหนูเล็กนี่แหละตะลอนๆ ไปช่วยเก็บของ/ขนทรายตามบ้านต่างๆ ไม่รุ้ว่าจะมีใครจำได้ไหม พอไปถึงบ้านพี่นพรัตน์ เจ้ามาน้อยครางหงิงๆ อยู่บนโต๊ะ พวกเราเห็นเมาท์กันว่า หมาไรหว่าไม่ช่วยดูแลกันเลยปล่อยให้น้ำท่วมกันขนาดนี้ ฯลฯ ครั้งนั้นจึงได้รู้ว่าคุณป้ารักน้องหมามาก อยู่มาวันหนึ่งน้องหมาที่ชื่อเจ้าโคล่าต้องลาจากไป ป้าจึงขอให้พี่สุนีย์แต่งกลอนอาลัยให้ พี่สุนีย์ก็ใจดีแต่งให้ ชื่อว่า แด่…โคล่า…หมาสุดที่รัก เมื่อประมาณเดือน มิ.ย.50)ความว่า
    มอบแด่เจ้าโคล่าหมาสุดที่รัก ข้าฟูมฟักเลี้ยงดูคู่เคหา
    มีเจ้าไว้ได้เป็นเพื่อนแม่อำภา และเป็นเพื่อนของข้ามานานปี
    เมื่อถึงคราแม่อำภามาป่วยไข้ ข้านี้สุดทุกข์ใจทักวันวี่
    ห่วงโคล่าหมารักผู้ภักดี ภาระนี้หนักหนาข้าจำทน
    แล้ววันหนึ่งโคล่าก็ลาโลก คงตรอมใจทุกข์โศกแสนสับสน
    ไม่เห็นหน้านายที่รักเลยสักคน คงทิ้งตนแล้วหนาขอลาตาย
    ตั้งแต่นี้ต่อไปหาใครเล่า ทั้งแม่เราทั้งโคล่าลับลาหาย
    ข้าสุดเหงาเปล่าเปลี่ยวสุดเสียดาย จะมีใครที่ไนเล่ามาเฝ้ารอ….
    พอป้าจากไปเหลียวกับมาดูเรื่องความผูกพันของพวกเรา มันมีเรื่องราวเยอะแยะจริงๆ

  • ฮ่า ฮ่า ฮ่า ขำกลิ้งเมื่อได้อ่าน “หมาเห่า” ของหนูเล็ก เพราะเมื่อเช้าวานนี้เพิ่งคุยกับคุณนกเื่รื่องป้า -กับน้องออมเมื่อยังเล็กอยู่ วันเกิดเหตุนั้นผมไปรับกลับมาจากโรงเรียนอนุบาล และพาขึ้นมาส่งแม่เขา เมื่อเปิดประตูบันไดหลังเข้าห้องเทคนิคมา เจ้าน้องออมก็ได้ยินเสียง “ฮัดเช้ย ฮัดเช้ย” โดยไม่เห็นตัวและไม่รู้ว่าเด็กมันคิดยังไงว่าเสียงนี้เป็นเสียง
    “หมาเห่า” แถมหนูน้อยก็ยังพูดเสียงดังฟังชัด ได้ยินกันไปทั้งห้องเทคนิค-งานจัดหา
    ป้าก็เป็นงอนต้องพาไปขอโทษบอกว่าเด็กไม่เจตนา นานครั้งต่อมาป้าก็ยังจำได้และพูดถึงเรื่องนี้อีก ถามเจ้าตัวบอกว่าหนูจำไม่ได้ค่ะุ
    เรื่องป้ายังมีอีกมาก ป้าชอบเรียกผมว่าส้มซ่าส์ บ๊องส์ อาหารปลาหมดนะเธออย่าลืมเติม กลางวันกินข้าวแป๊บเดียวมาช่วยสแกนหนังสือที่เคาน์เตอร์แยกส่งลิฟท์เรียบร้อยทุกวัน วันไหนหนังสือมาคืนมากๆ ป้าจะคอยเป็นห่วงกลัวทำผิดพลาดย้ำแล้วย้ำอีก พวกเราก็แหย่แกไปเรื่องนั้นเรื่องนี้มีฮาบ้าง งอนบ้าง แต่เราก็ไม่ถือสากัน
    ป้าปฏิบัติงานได้เข้มแข็งอย่างหาใครเทียบยากจริงๆ

  • คุณป้าขา….อโหสิกรรมให้ดวงด้วยนะทีแซวป้าประจำเรื่องเสื้อแดง วันหนึ่งป้าใส่ชุดชมพูผูกโบว์หลังมาเหมือนสาวน้อย ไปแซวป้าโกรธเสียไม่มี ขอให้ป้าไปสู่สุขคตินะ อย่าถือโทษน้องๆนะ แถมวันเผาก็ยุ่งกับค่ายเด็กไม่ได้ไปอีก แต่ก็จุดธูปบอกป้าคืนที่ไปแล้ว อโหสิกรรมๆๆๆๆๆๆๆนะป้าขา

  • ยังมีเพื่อนพ้องน้องของพี่อีกหลายคนยังไม่ทราบสาเหตุการจากไปของพี่ เจอกันก็ถามถึงที่ทราบก็คือน้องสาวป้าบอกว่าป้าติดเชื้อในกระแสเลือดจากการใส่สายปัสสาวะเชื้อสะสมเพิ่งแสดงอาการ เส้นทางการเข้าออกโรงพยาบาลของป้าเริ่มจาก 1.โดนรถเฉี่ยวกระดูกร้าว ไปนอน รพ.สนามจันทร์ 2 คืน กลับมารักษาตัวที่บ้านอีกประมาณ 1 เดือน 2.ไปพักที่บ้านมุทิตา ซอย 6 โดยขอให้หนูเล็กช่วยติดต่อ อยู่ที่นี่ประมาณ 2-3 เดือน 3.กลับมาอยู่บ้านอีกประมาณ 3-4 เดือน นั่งจมอยู่ในห้องน้ำลุกไม่ขึ้นคนข้างบ้านมารู้ตอนเช้างัดบ้านเข้าไปช่วย และน้องเอ๋มาพาไป รพ.คริสเตียนหกโมงเย็นกว่าๆ 4.รพ.คริสเตียนบอกให้ส่ง รพ.นฐ. หนูเอ๋แจ้งพี่นกรับช่วงต่อ ก็ชวนลุงบูรณ์ ป้าตา น้าสุนีย์ไปด้วยกัน พาส่ง รพ.นฐ. อยู่ที่นี่อีกประมาณ 3 เดือน ผ่านห้องไอซียู ห้องรวม ห้องพิเศษแล้วไปพักฟื้นที่อื่นต่อ 5.ออกจาก รพ.นฐ.ไปพักฟื้นที่บ้านกตัญญู อ.บ้านโป่ง ราชบุรี หนึ่งเดือน 6.ออกจากบ้านกตัญญูไปพักฟื้นต่อที่บ้านเตือนใจ บ้านโป่ง ราชบุรี อยู่ที่นี่น่าจะประมาณ 5 เดือน แล้วป้าก็ถูกพาส่ง รพ.บ้านโป่ง แล้วก็จากไป
    ได้ข่าวว่าป้าให้โชค ทำบุญให้ป้ากันด้วยนะ

  • พออ่านคอมเม้นท์ของนกนึกได้ว่า ป้าให้โชคจริง ๆ ด้วย วันที่ 27 มี.ค.55 น้องสาวของป้า (พี่นิต) ได้นำศพของป้ามาศาลาวัดเสนหา และพวกเราชาวหอสมุดฯ ก็ได้ไปอาบน้ำศพ (ไปพรมน้ำอบ) เนื่องจากป้าใส่โลงมาแล้ว สัปปะเหร่อเปิดฝาโรงให้พวกเราพรมน้ำอบกัน มีพระ มาทำพิธีให้ ระหว่างที่พวกเรารอจะพรมน้ำอบป้า น้องสาวป้าก็เดินเข้ามาบอกว่า
    น้อง ๆ ๆ พี่จะบอกเลขให้นะ ให้ไปซื้อ 696 หรือ 969 นะ แต่ก็ไม่ได้บอกว่าเอาเลขนี้มาจากไหน แต่สัปปะเหร่อ บอกว่า ให้มาดูที่ฝาโรงกันนะ มีเลข 2 ชุด คือ 813 และ 377
    ทุกคนก็เข้ามาดูกัน เมื่อพรมน้ำอบเสร็จเรียบร้อยแล้ว สัปปะเหร่อปิดฝาโรง นำโลงขึ้นตั้งเรียบร้อย ทุกคนก็กลับ
    เมื่อคืนวันที่หอสมุดฯ เป็นเจ้าภาพ ได้ไปฟังสวดกัน และทุกคนก็ถามถึงอายุป้าบ้าง
    ป้าเกิด 8 พ.ค.2487 ป้าจะครบ 86 ปีเต็มในวันเกิด แต่เรามักจะพูดกันว่า ป้าอายุ 67 ย่าง 68 กัน และป้ามรณะ 26 มี.ค. 2555 ฌาปนกิจศพ 29 มี.ค. 2555
    ซึ่งทุกคนที่รักแลเคารพนับถือป้า ก็ขอโชคลาภจากป้า และในที่สุดในวันฌาปนกิจศพของป้าในวันที่ 29 มี.ค. 55 มีพ่อค้าแม่ค้าขายล๊อตเตอรี่เข้ามาขายในวัด หลังจากที่จุดศพเรียบร้อยแล้ว ผู้ที่มาร่วมงานในวันนั้น ก็เสี่ยงโชค ซื้อล๊อตเตอรี่กันมากบ้าง น้อยบ้าง ตามกำลัง ผลปรากฎว่า วันที่ 1 เม.ย. 2555 ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล สามตัวบนออก 562 และสองตัวล่างออก 69 (ป้ามรณะวันที่ 26) และพี่นิตบอกว่า ให้ไปซื้อเลข 696 หรือ 969 นี้ (พี่ตาจำไม่ได้ว่าพี่เขาบอกว่าเลขอะไร) ก่อนที่ผลสลากกินแบ่งรัฐบาลจะออก
    ก่อนหน้านี้ในวันที่ 29 มี.ค.55 ในตอนช่วงเช้ามีการทำบุญเลี้ยงพระเพล พี่ตาเกิดความสงสัยขึ้นมาว่า เลข 696 หรือ 969 นี้ มันมาจากไหนกันแน่นะ ในเมื่อไม่มีในเลขของป้าเขาเลย พี่ตาจึงถามพี่นิตว่า เลขนี้ได้มาจากไหนนะ พี่นิตบอกว่า วันที่พี่ไปรับศพป้าที่โรงพยาบาลบ้านโป่ง พี่เห็นรถยนต์ที่จอดอยู่ในลานจอดรถของ ร.พ. มีแต่เลข 69 96 เต็มไปหมด (อย่างนี้แล้วจะสรุปว่า ป้าเขาให้โชคจริง ๆ นะ) ทำให้น้องสาวมองเห็นเลขรถทุกคันเป็นเลข 69 หรือ 96 เต็มไปหมด
    พอมาถึงวันที่ 16 เม.ย.55 ป้าก็ยังให้โชคกับพวกเราอีกนะ สองตัวล่างออก 62 อีก
    ทำบุญ 100 วันป้า ก็อย่าลืมทำบุญให้ป้า (วันที่เท่าไรจะถามพี่นิตอีกที)
    ป้าชอบกินขนมเทียนใส้หวาน พอตรุษจีน ทีไร ป้าจะบอกว่า ตาเธออย่าลืมขนมเทียนใส้หวานนะ (พี่ตาก็ไม่เคยขาด จะนำมาฝากป้าเขาเป็นประจำ ตั้งแต่คุณแม่ของป้าเขายังมีชีวิตอยู่) ถ้าวันไหว้ตรงเสาร์-อาทิตย์ พี่ตาก็นำไปนึ่งใหม่ มาให้ป้าเขา กลัวว่าจะบูดเสียก่อน
    พอนึกถึง ก็คิดถึงป้านะ ป้าเขาชอบจริง ๆ ขนมเข่ง ป้าบอกไม่ชอบเท่าขนมเทียนต้องใส้หวานด้วยนะ ใส้เค็มป้าก็ไม่ชอบ แต่พี่ตาจะนำมาให้ป้าเขาทั้ง 3 อย่าง

  • พอพี่ตาอ่านคอมเม้นท์ของปอง ลงท้ายด้วยกลอนของสุนีย์ ลงวันที่ 7 ต.ค. 2547 ก็ให้รำลึกนึกถึงคุณพี่ทั้ง 3 คน พี่น้อย พี่ปุ๊ และพี่ผาณิต ในวันที่พวกเราชาวหอสมุดร่วมงานมุทิตาจิตพี่ทั้งสาม ณ ห้องประชุมชั้น 1 อาคารหอสมุดฯ ในวันศุกร์ที่ 12 มี.ค. 2547 เวลา 17.00 – 18.00 น.ร่วมมุทิตาจิต และร่วมรับประทานอาหารด้วยกัน ในเวลา 18.00 – 22.00 น. พี่ทั้งสามเออรี่ เมื่อป้านิศาเขาจากไปแล้ว พี่ตาได้ให้เพื่อนที่มีเบอร์พี่ทั้ง 3 โทรแจ้งบอกพี่ ๆ ด้วยว่าป้านิศาได้จากไปแล้ว ถ้าพี่เขาว่างก็มาร่วมบุญกัน

Leave a Reply

Tags

blog CONSAL KPI PULINET การจัดการความรู้ การดูแลสุขภาพ การทำงาน การท่องเที่ยว การบริการ การปฏิบัติงานล่วงเวลา การประชาสัมพันธ์ การพัฒนาตนเอง การพัฒนาบุคลากร การลงรายการ การศึกษาดูงาน การอ่าน การเรียนออนไลน์ กิจกรรมสำหรับเด็ก กิจกรรมส่งเสริมการอ่าน กิจกรรมห้องสมุด ความสุข ค่ายห้องสมุด งานบริการ ธรรมะ นวนิยาย นักเขียน บรรณารักษ์ บริการชุมชน ประกันคุณภาพ ภาพถ่าย ภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยศิลปากร ระบบห้องสมุดอัตโนมัติ วัด วันสำคัญ วารสาร สัมมนา สุขภาพ หนังสือ หนังสือบริจาค หนังสือและการอ่าน หอสมุดพระราชวังสนามจันทร์ ห้องสมุด ห้องสมุด 24 ชั่วโมง อาหาร