คำสอนของแม่
จากหัวข้อ “คำสอนของแม่” ซึ่งผู้เขียนต้องการจะสื่อว่า คำสอนของแม่นั้นเป็นคำสอนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต เพราะว่า แม่เป็นผู้สร้างให้เราเกิดมาให้มีชีวิตที่สุขสบาย และสมบูรณ์แบบ ด้วยความรัก ความเมตตา และความหวังดี อันบริสุทธ์ ที่ไม่อาจหาได้ง่ายนักกับบุคคลอื่นๆ และที่เราเชื่อ ศรัทธาในคำสอนของแม่ ก็เพราะแม่เป็นแบบอย่างการใช้ชีวิตให้กับลูก ๆ ได้เป็นอย่างดี เช่น แม่เป็นผู้ใฝ่เรียนรู้ ชอบอ่านหนังสือธรรมะ ชอบทำบุญ ช่วยเหลือคน เป็นผู้ให้ มีความขยัน มานะ อดทน ถึงแม้แม่จะเป็นผู้มีการศึกษาน้อย ซึ่งจบเพียงแค่ ป.4 แต่แม่ก็สามารถใช้ สติ ใช้ปัญญา ใช้ประสบการณ์ของตนเอง อบรมสั่งสอนให้ลูกให้เป็นคนดี มีการศึกษา พร้อมทั้งทำตัวเป็นต้นแบบที่ดีให้กับลูก ๆ ทุกคน
แม่เป็นผู้สร้าง ผู้บันดาล ให้ลูกทุกคนมีชีวิตที่ดี ประสบความสำเร็จในชีวิตระดับหนึ่ง ที่มีพร้อมทั้งการศึกษา สมบัติ คำสอน ที่ทำให้ชีวิตของลูกมีความสุขสบายตามอัตภาพ และใช้ชีวิตอย่างมีความสุข นั่นคือความสำเร็จของผู้เป็นแม่ที่ทำหน้าที่ของตนเองได้อย่างสมบูรณ์แบบ จากการที่แม่เป็นผู้ให้ ผู้เสียสละ อดทน ผู้อบรมสั่งสอน เป็นแบบอย่างที่ดี ทำให้ลูกทุกคนดำเนินชีวิตตามคำสอนของแม่ อย่างภาคภูมิใจ เคยได้ฟังท่านพุทธทาสกล่าวว่า แม่ไม่เคยตายไปจากโลกนี้ เขายังอยู่กับเราในโลกนี้เสมอ มีเพียงแต่สังขารเท่านั้นที่ไม่มีให้เราได้เห็น นั่นหมายถึง แม่ได้ทำความดี มอบสิ่งดี ๆ ไว้ให้กับเรา นั่นก็คือ แบบอย่าง คำสอน คุณงามความดีของแม่ที่สร้างไว้ บารมีของแม่ที่สร้างไว้ ทำให้ลูกๆ มีชีวิตที่สุขสบาย คือแม่เป็นผู้ให้ความรู้ มีโอกาสได้เรียนสูง แม่มีสมบัติให้ทั้งทรัพย์สิน เงินทอง มีพี่น้อง มีเพื่อน มีผู้ใหญ่ ที่คอยเมตตา และมอบสิ่งดี ๆ ให้เสมอมาซึ่งหลักคำสอนที่แม่ให้ไว้เพื่อเป็นหลักดำเนินชีวิตของลูกได้อย่างมีความสุข ก็คือ
1.แม่ไม่มีโอกาสได้เรียนสูง ๆ แต่แม่จะส่งให้ลูกได้มีโอกาสเรียนสูง ๆ ซึ่งแม่ได้เป็นแบบอย่างในการเป็นผู้ใฝ่เรียนรู้ด้วยการชอบอ่านหนังสือ เช่น หนังสือธรรมะ ตำราต่าง ๆ แม่ชอบเรียนรู้จากประสบการณ์ทั้งจากตนเองและผู้อื่นเห็นได้จากแม่เป็นคนชอบคุยแล้วนำสิ่งดี ๆ ที่แม่ได้จากการพูดคุยมาเล่าให้ลูก ๆ ฟังเสมอ แม่มีเพื่อนที่เคารพนับถือมากมายด้วยความที่เป็นคนยิ้มเก่ง มนุษยสัมพันธ์ดี
2.แม่เป็นแบบอย่างเรื่องการบริหารจัดการชีวิตที่ทำให้ครอบครัวมีความสุข คือมีความขยัน มานะ อดทน ไม่ย่อท้อต่อความยากลำบาก รู้จักทำมาหาเลี้ยงชีพ (มีความสามารถหลายอาชีพ) มีวิธีบริหารจัดการเงินได้ดีเยี่ยม แม่จะสอนลูกให้รู้จักความลำบาก รู้จักการหาเงิน ด้วยการฝึกให้ลูกช่วยทำงานและประกอบอาชีพ
3.แม่เป็นแบบอย่างของการนำธรรมะมาใช้ในการดำเนินชีวิต เช่นแม่เป็นคนชอบทำบุญ ชอบช่วยเหลือ มีน้ำใจ เป็นผู้ให้ ซึ่งสิ่งที่แม่ได้สอนลูกเสมอว่า อย่าอยากได้ของคนอื่น อย่าแข่งขันกับคนอื่น ให้แข่งขันกับตัวเอง ถ้าอยากได้อะไรให้ทำด้วยตัวเอง อย่าอิจฉาริษยา อย่าเป็นคนสร้างปัญหาให้ผู้อื่นและตัวเองเดือดร้อน เราต้องเป็นผู้ให้ก่อนโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน สิ่งเหล่านี้ทำให้เรารู้สึกว่าแม่เป็นผู้มีบารมี ที่มีคนให้ความเคารพ ยอมรับนับถือและยกย่อง ของลูก ๆ และเพื่อน ๆมากมาย
จากบทเรียนชีวิตของแม่ที่เราได้เห็น ได้สัมผัสมาตลอดชีวิตของเราทำให้เราได้คิดและมีความมุ่งมั่นที่จะดำเนินชีวิตตามแบบฉบับของแม่ ที่เน้นในเรื่องของ การใช้ชีวิตให้มีความสุข การมุ่งมั่นที่จะทำความดี เพราะชีวิตของคนเราไม่รู้ว่าวันไหนเราจะไม่มีลมหายใจ (เห็นได้จากชีวิตของแม่)
ฉะนั้นการที่เราไม่ได้เกิดมาลำบากมากนัก ซึ่งก็โชคดีที่มีแม่เป็นผู้สร้างและบันดาลชีวิตของเรามาเกือบครึ่งชีวิต ส่วนที่เหลือเราต้องเรียนรู้ด้วยตนเอง ซึ่งสิ่งที่เราได้เรียนรู้ด้วยตนเอง โดยใช้คำสอนของแม่เป็นหลักในการดำเนินชีวิต คือ เรามี conceptในการใช้ชีวิต ที่เน้นความสุข ฉะนั้น ความสุขจะเกิดขึ้นได้ ก็ต้องเกิดจากการที่เราต้องรู้จักตัวตนของเราก่อนว่าเป็นอย่างไร เช่น เป็นคนที่ชอบใฝ่เรียนรู้ ชอบการมีเพื่อน เป็นผู้ให้โดยไม่หวังผลตอบแทน เป็นผู้เสียสละ เป็นคนเงียบไม่ชอบความวุ่นวาย มีความเข้าใจคน รักในศักดิ์ศรี มีความจริงใจให้กับคนรอบข้าง ชอบความเป็นผู้นำ เป็นนักแก้ปัญหา มีความทะเยอทะยานสูง เมื่อเรารู้จักตัวตนของเราแล้วจะทำให้เรารู้ว่าเป้าหมายชีวิตเราคืออะไร ทำอย่างไรจึงจะดำเนินชีวิตในสังคมได้อย่างมีความสุข นั่นหมายถึงการปรับตัวให้เข้ากับการใช้ชีวิตในสังคมที่มีความหลากหลายทั้งด้านความคิด พฤติกรรม นิสัย พื้นฐานครอบครัว พื้นฐานการศึกษา ประสบการณ์ที่แต่ละคนได้รับ เป็นต้น ซึ่งหลักที่เรายึด ก็คือ ต้องใช้ธรรมะเป็นที่ยืดเหนี่ยวซึ่งธรรมมะที่ให้ความสำคัญที่สุด คือ ความกตัญญูกับผู้มีพระคุณ ไม่ว่าจะเป็น พ่อแม่ พี่น้อง เพื่อน เจ้านาย ผู้อบรมสั่งสอน หรือผู้ที่มอบสิ่งดี ๆ ให้กับชีวิตเรา เป็นต้น
การเป็นผู้ใฝ่เรียนรู้ทำให้เรามีความรู้ ทักษะ ความสามารถที่สามารถนำไป แก้ไขปัญหา ในชีวิตประจำวันได้ รู้จักคิด แยกแยะ รู้จักที่จะมองข้าม ยอมรับ และก้าวผ่าน ให้อภัย ห่วงใย รับผิดชอบต่อหน้าที่ทุกบทบาท ไม่ทำให้คนอื่นและตนเองเดือดร้อน มีความจริงใจให้กับคนรอบข้าง ทำทุกอย่างให้ดีที่สุดตามศักยภาพที่มี แล้วเราจะไม่เสียใจ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ นี่คือบทเรียนชีวิตที่ได้เรียนรู้จากคำสอน แบบอย่าง ประสบการณ์ ของแม่ ที่เรานำมาใช้ในการดำเนินชีวิตที่คิดว่าเราได้พบกับความสุข และความสำเร็จที่สัมผัสได้จาก ความรัก ความเมตตา ความห่วงใย การดูแล จากคนรอบข้างและ ได้มีโอกาสเรียนรู้ทั้งจากตำราและประสบการณ์ทำให้เรารู้จักที่จะปรับตัวเปลี่ยนแปลงกับการอยู่ในสังคมที่มีความหลากหลายอย่างรู้เท่าทันและมีความสุขเสมอ สิ่งที่ได้เขียนมาทั้งหมดคือ บทเรียน ประสบการณ์ ที่ทำให้เราได้เรียนรู้ และอยากแบ่งปันซึ่งเชื่อว่าหลาย ๆคนได้สัมผัสกันแล้ว