เมื่องานทับก้ว Book Fairได้ซื้อหนังสือ เรื่องมห้ศจรรย์พลังคิดบวก (The magic power of positive thinking) อ่านแล้วมีข้อคิดดีๆที่น่าสนใจลองมาฟังดูค่ะ
คุณคิดอย่างไรกับน้ำครึ่งแก้ว มีน้ำแค่ครึ่ง หรือ มีน้ำตั้งครึ่ง คำตอบอยู่ที่คุณคิดไม่มีผิดหรือถูก
แนวทางสำหรับคนคิดบวก มีน้ำแค่ครึ่ง หมายถึง เราสามารถเพิ่มเติมความรู้เข้าไปได้อีก หรือ พร้อมที่จะเติมสิ่งใหม่ๆ ในขณะเดียวกันก็มองว่า มีน้ำอยู่บ้าง หากไม่มีความรู้พื้นฐานเลย ก็อาจจะนำความรู้ใหม่ๆที่ได้ไปประยุกต์ได้ช้าลง เช่น กรณีอ่านหนังสือ หรือเข้าอบรม สัมมนา คนคิดบวก จะสามารถนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ได้ เพราะรู้สึกว่าความรู้ที่ตัวเองมีนั้นยังไม่เต็ม ยังสามารถรับได้อีก  ส่วนคนที่มองเห็นว่า มีน้ำตั้งครึ่ง เป็นคนมองโลกในแง่ดี จะมองว่า มีน้ำตั้งครึ่งแก้ว มองเห็นในสิ่งที่มีอยู่ หมายถึง เรามีความรู้ความสามารถระดับหนึ่งแล้ว หากต้องลงมือปฏิบัติงาน ที่มีเป้าหมายที่ท้าทายก็สามารถทำได้ เพราะ มีความรู้ตั้งครึ่งหนึ่งแล้ว จึงลงมือทำทันที ไม่ต้องรอจนกระทั่งมีความรู้เต็มที่ก่อนจึงลงมือ ดังนั้นพฤติกรรมหลีกเลี่ยงที่จะลงมือทำจึงไม่เกิดขึ้น
กรณีการทำตัวเป็นแก้วที่มีน้ำอยู่เต็ม พอเทน้ำลงไปน้ำก็จะล้นออกมา คิดว่าตัวเองรู้แล้ว ไม่ยอมรับรู้สิ่งใหม่ ถ้าหากเราทำตัวเหมือนแก้วเปล่าแม้ว่าเราจะพร้อมรับน้ำเข้ามาแต่ก็ต้องใช้น้ำจำนวนมากกว่าจะเติมจนเต็ม
ส่วนคนมองโลกในแง่ร้าย ชอบคิดทางลบ ชอบติ วิจารณ์ จะมองเห็นสิ่งที่ขาด จะมองเห็นว่า มันเหลือแค่ครึ่งแก้ว แค่คิดก็ทำให้จิตใจหดหู่แล้ว จะเห็นว่า คนคิดบวกมองเหตุการณ์ต่างๆ ในการ”เพิ่ม”หรือ “ให้” แก่ตัวเอง ทำให้ได้ประโยชน์ ซึ่งต่างจากคนคิดลบที่มองทุกอย่างเป็นข้อจำกัด และลดทอนพลังของตัวเองไป
“ควรมองอย่างไรจึงจะเกิดการกระทำที่ให้ผลดี”