ยาตีกัน ภัยร้ายผู้ป่วยเรื้อรัง
ได้อ่านนิตยสารฉบับหนึ่งคือ Health Today ฉบับเดือน สิงหาคม 2554 ว่าจะเอามาเล่าให้ฟังก็ไม่ได้เขียนสักที เลยขอสรุปไห้ฟังดังนี้ค่ะ
ยาตีกัน คือ การที่ฤทธิ์ของยาตัวหนึ่งเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมเมื่อได้รับยาอีกตัวหนึ่งร่วมด้วย โดยผลที่เกิดขึ้นอาจก่อให้เกิดผลการรักษา จะโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม ซึ่งบางครั้งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต ส่วนความรุนแรงจะเกิดขึ้นมากหรือน้อยนั้นก็ขึ้นอยู่กับสภาวะของผู้ป่วย ระยะเวลาที่ใช้ยาร่วมกัน และขนาดยาที่ใช้ด้วย
ขอยกตัวอย่างยามาให้ทราบบางชนิด ดังนี้
1. ยาปฏิชีวนะตีกับยาลดไขมัน ยาแก้โรคหัวใจ ยาขยายหลอดลม
2. ยาลดความดันโลหิตสูงตีกับยาแก้ปวด และตีกับยาแก้แพ้อากาศ
3. ยารักษาเบาหวานตีกับยาแก้แพ้อากาศ
4. ยาแก้ท้องเสียชนิดที่เป็นถ่านตีกับยาเบาหวาน
5. ยาฆ่าเชื้อบางกลุ่มตีกับยาลดกรด
6. ยาแก้แพ้อากาศซ้ำซ้อนกับยาพาราเซตามอล
7. อาหารเสริมตีกับยาป้องกันการแข็งตัวของเลือด
และการดื่มเหล้า หรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ก็จะทำให้ผลการรักษาของยาเปลี่ยนแปลงไปด้วย เช่น เพิ่มความเสี่ยงที่จะทำให้ผู้ป่วยที่กินยาเบาหวานเกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ
ปัญหาเรื่องยาตีกันหรือการใช้ยาซ้ำซ้อน สามารถเกิดขึ้นได้หากเราไม่รู้่เท่าทัน ดังนั้นเวลาไปซื้อยาที่ร้านยา โรงพยาบาล อย่าลืมของ “สมุดบันทึกยา” กลับมาด้วย เพื่อใช้ในการบันทึกรายการยาที่ต้องการใช้เป็นประจำอย่างต่อเนื่อง
ที่สำคัญต้องนำสมุดบันทึกยาไปด้วยทุกครั้งเมื่อไปพบแพทย์ เพื่อผู้ปฏิบัติวิชาชีพจะได้ทราบ และไม่สั่งยาซ้ำซ้อน หรือสั่งยาที่มีฤทธิ์ต่อกันได้ และเรื่องนี้น่าจะเป็นประโยชน์บ้าง เพราะตัวเองก็เคยรับประทานยาซ้ำซ้อนกันมาแล้วโดยที่เราไม่รู้ และเรื่องนี้ก็น่าจะเป็นประโยชน์บ้างสำหรับผู้อื่น
One thought on “ยาตีกัน ภัยร้ายผู้ป่วยเรื้อรัง”
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.
พี่จิ ยาลดไขมัน กับยาระบบไหลเวียนโลหิต และยาแก้แพ้ Telfast 180 mg. มันตีกันไหมเนี่ย