อีกไม่กี่วันก็จะสิ้นปีเก่าก้าวย่างสู่ปีใหม่อีกครา แล้วหลายคนก็มักจะได้รับคำถามยอดฮิตว่า ช่วงหยุดปีใหม่ไปเที่ยวที่ไหน แล้วช่วงเวลานี้ลมหนาวมาเยี่ยมเยือนพอดี เหมาะแก่การเดินทางท่องเที่ยวยิ่งนักและส่วนใหญ่ก็มุ่งไปสู่ภาคเหนือเป็นหลัก โดยเฉพาะผู้ที่ชื่นชอบความเย็นจับใจขนาดน้ำค้างยังเป็นน้ำแข็ง แต่อิฉันขอบ๊ายบายจ้า ไม่ถูกอัธยาศัยกับความเย็นขนาดนั้นมันทรมานตัวเองซะมากกว่า ขอกลับบ้านไปทำบุญก็แล้วกัน
การท่องเที่ยวนั้นถือเป็นการพักผ่อนหย่อนใจเพื่อคลายความเครียดจากภาระงานประจำของชีวิต ดังนั้นคนเราเมื่อมีโอกาส มีเวลาและปัจจัยพร้อม จึงมักใช้เวลาช่วงหนึ่งเพื่อการท่องเที่ยว และถือว่าเป็นการเติมพลังให้ชีวิตด้วย อาจจะปีละครั้งหรือสองครั้งตามแต่โอกาสจะอำนวย แต่บางคนก็ชื่นชอบที่จะท่องเที่ยวทุกเทศกาลหรือทุกช่วงวันหยุดยาวต่อเนื่องกันหลายวันก็มีไม่น้อย
การท่องเที่ยวในยุคปัจจุบันนั้นแทบทุกประเทศในโลกให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆเพราะเป็นแหล่งที่ทำรายได้ให้แต่ละประเทศมิใช่น้อยจนเกิดเป็น “อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว” (Tourism Industry) โดยมีแหล่งทรัพยากรทางธรรมชาติ แหล่งมรดกทางประวัติศาสตร์ เป็นสินค้าหลัก แล้วก็มีนักท่องเที่ยวเป็นลูกค้าที่สำคัญ
ปัจจุบันการท่องเที่ยวมีหลากหลายรูปแบบให้เราได้เลือกตามความชอบหรือความสนใจที่จะไปยังแหล่งต่างๆ จะไปเพื่อความสุขสนุกสนานรื่นเริง ไปเพื่อหาประสบการณ์หรือจะไปเพื่อเก็บเกี่ยวความรู้ก็แล้วแต่ใครจะได้สิ่งใดกลับมา
สำหรับแหล่งทรัพยากรหลักที่เป็นสิ่งดึงดูดให้ผู้คนทั้งในประเทศและต่างประเทศมาท่องเที่ยว จนกลายเป็นอุตสาหกรรมที่ทำรายได้และมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศชนิดหนึ่งไปแล้วนั้น มี 3 ประเภทคือ
1. ทรัพยากรการท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ได้แก่ ทะเล ภูเขา น้ำตก อุทยานแห่งชาติต่างๆ
2. ทรัพยากรการท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ เช่น แหล่งโบราณวัตถุสถาน ปราสาท พระราชวัง อุทยานประวัติศาสตร์ พิพิธภัณฑ์ แหล่งโบราณคดี วัด เป็นต้น
3. ทรัพยากรการท่องเที่ยวทางศิลปะวัฒนธรรม เช่น งานประเพณีต่างๆ การไปสัมผัสวิถีการดำเนินชีวิตของกลุ่มชนต่างๆ หรือตามชุมชนเก่าแก่ทั้งชนบทและในเมือง อย่างตลาดน้ำ ตลาดบก เป็นต้น
นอกจากนี้ยังการท่องเที่ยวเชิงเกษตร ที่ไปตามสวนเกษตรต่างๆ ฟาร์มปศุสัตว์ แหล่งเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ หรือการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ก็มีตามแหล่งน้ำพุร้อน น้ำแร่ สวนสมุนไพร แหล่งแพทย์แผนไทย สปา และการท่องเที่ยวที่กำลังเป็นที่นิยมของเหล่าส.ว. (หวังว่าคงแปลได้แน่นอน) ที่ยังมีเรี่ยวแรงแข็งขันนั่นก็คือการท่องเที่ยวทางธรรม (ทัวร์ธรรมะ) โดยการพาไปไหว้พระ ทำบุญ ปฏิบัติธรรม ตามวัดต่างๆหรือสำนักปฏิบัติธรรมเป็นต้น อ้อ!!ยังมีสถานที่ที่น่าไปเที่ยวอีกที่หนึ่งคือ…ค่ายทหาร ไงล่ะ ปัจจุบันค่ายทหารแทบทุกที่เปิดให้ประชาชนได้เข้าไปท่องเที่ยวอย่างสะดวกสบาย มีกิจกรรมให้ทดลองเรื่องพละกำลังและความกล้าหาญหลากหลายชนิด มีประวัติศาสตร์ทางทหารให้ได้ศึกษา สถานที่สวยงามมีระเบียบเรียบร้อยมิใช่ “เขตทหารห้ามเข้า” อีกต่อไป
เท่าที่จาระไนมานี้บางคนอาจจะไปมาแล้วทุกประเภท เพราะเป็นนักท่องเที่ยวตัวฉกาจ ก็ถือว่าเป็นกำไรของชีวิต บางคนมีโอกาสได้ไปเที่ยวต่างประเทศมาหลายครั้งแล้ว ก็ถือว่าได้ไปเปิดโลกให้ตัวเอง และประการสำคัญคือการท่องเที่ยวนั้นคือการไปกระจายรายได้ให้แก่ชุมชน และท้องถิ่นที่เราได้ไป คงไม่มีใครที่ไปเที่ยวแล้วไม่เคยควักสตางค์ซื้อของเลย!! เป็นแน่แท้ อย่างน้อยก็ต้องซื้อน้ำกินบ้างละน่า เชื่อเถอะ!  แล้วปีใหม่ที่กำลังจะมาถึงนี้หากท่านใดมีโปรแกรมที่จะไปท่องเที่ยวไม่ว่าที่ใดก็ขออวยพรให้ท่องเที่ยวอย่างมีความสุข สนุกกับการกระจายรายได้ เดินทางไปและกลับโดยสวัสดิภาพ ไปเติมพลังมาให้มากๆนะ เพราะหลังปีใหม่มีเรื่องให้เราทั้งผองต้องใช้พลังงานอีกเพียบ!!!