จะยกเลิกเปิด 24 ชม. เมื่อครบ 10 ปีจริงหรือ…

วันนี้แล้วซินะ 29 กันยายน 2554 วันสุดท้าย 24 ชม.ของเทอมแรก ปี 54 (วันนี้น้องปอง และป้าจันทร์ อยู่ปิด 24 ชม. ค่ะ  ส่วนวันเปิด 24 ชม. น้องใหม่ของเรา (น้องหนิง) กับน้องต้อย)
เราทุกคนที่ได้รับมอบหมาย มีภาระงานที่ต้องรับผิดชอบ ดูแลความเรียบร้อยของอาคารหอสมุดฯ ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ตลอด 24 ชม. ที่ทุกคนได้อยู่ปฏิบัติงาน ว่าไปแล้วก็เร็วนะ ตั้งแต่ 5-29 ก.ย.54 ก็เวียนมาจนถึงวันนี้ ก็ตลอดลอดฝั่งมาได้ ไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น
นอกจากปัญหานักศึกษาลืมบัตรบ้าง นำบัตรผู้อื่นมาเข้าใช้บ้าง นักศึกษาของ มศก. นำเพื่อนนักศึกษาที่อื่น ๆ มาเข้าบ้าง นักศึกษานำขนม ของขบเคี้ยว หมอน ผ้าห่ม ตุ๊กตา และอื่น ๆ อีกมากมาย และที่ร้ายแรงก็คือนักศึกษาของเรานำคนนอกมาเข้า (ต้องถามน้องมาร์ค) น้องมาร์คบอกว่าผมมาอยู่วันแรกก็เจอเกือบทุกวัน
สำหรับตัวพี่ตาเองก็อยู่ไปแล้ว 1 คืน และยังอยู่ทำงานอีก 2-3 วัน (อยู่ถึงตี 1 บ้าง ตี 1ครึ่งบ้าง ตี 2 บ้าง) อยู่ได้แค่ 2-3 วัน จริง ๆ ต่อมาก็ไม่ไหวแล้ว รู้สึกร่างกายจะรับไม่ไหวแล้ว พอออกเวร 22.00 น. ก็อยากจะกลับบ้านไปพักผ่อนแล้ว หลังจากนั้นพี่ตาก็ไม่อยู่ดึกอีกเลย มีอยู่อีก 2-3 อยู่แค่ 5 ทุ่ม ก็กลับบ้านแล้ว
สำหรับการบริการ 24 ชม. ที่พวกเราทุกคนต้องฟิตร่างกายของเรา ดูแลสุขภาพของเราให้มีสุขภาพที่แข็งแรงอยู่เสมอ ไม่ให้เจ็บป่วย ที่ต้องมาอดหลับ อดนอน ในการให้บริการ 24 ชม.    ตลอดระยะเวลามาก็ 9 ปีกว่าแล้ว และอีก 1 เทอมก็จะมีอายุครบ 10 ปีพอดี พวกเราหวังว่าคงจะเป็นเทอมสุดท้ายของพวกเรา
พี่ตาขอฝากให้เพื่อนพ้องน้องพี่ ที่อยู่ปฏิบัติงาน 24 ชม. ในเทอมนี้ ได้ร่วมแชร์ประสบการณ์กัน เผื่อว่าใครจะมีอะไรมากกว่านี้ ก็มาเล่าสู่กันฟัง

8 thoughts on “จะยกเลิกเปิด 24 ชม. เมื่อครบ 10 ปีจริงหรือ…

  • ขึ้นต้นดูเหมือนจะเสียดาย
    แต่พอลงท้ายออกแนวลั้ลลา ออกหน้าออกตานะป้านะ
    เวลาเปลี่ยน สถานการณ์เปลี่ยน แวดล้อมเปลี่ยน
    วัฎสงสารไม่มีจุดเริ่มต้น-สิ้นสุด ทุกอย่างเป็นอจินไตย
    มีเกิด ย่อมมีดับ หมุนวน ผลัดเปลี่ยน
    สิ่งใดเป็นเรื่องพ้นคิด ก็มิบังควรไปพิรี้พิไรคิด
    วันนี้เกิด พรุ่งนี้ดับ วันถัดไปก็อาจเกิดขึ้นใหม่
    วางไว้ วางไว้โยมมมมม อย่าถือ อย่าแบก…หนัก หุหุหุ

  • พี่ตาก็เขียนไปตามความคิดของพี่ตานะ พี่ไม่รู้หรอกว่าอนาคตข้างหน้ามันเป็นอย่างไร
    เหมือนทุกวันนี้อะไร ๆ มันก็เปลี่ยนได้ตลอดเวลา ไม่รู้ว่าอะไรมันจะเกิดมันก็เกิด
    ตอนที่พี่ตาเขียนนี้ พี่กำลังอยู่ในวันที่ 29 ก.ย.54 พอดี มันทำให้นึกว่า สิ่งที่ทุกคนคาดหวังว่าจะได้หยุดพักเสียทีกับการที่เราก็มีอายุกันมาก ๆ แล้ว ต้องมานั่งอดหลับ อดนอน
    ยิ่งคนที่มีโรคประจำตัวด้วยแล้ว เสี่ยงมาก ๆ นะ ถ้าเกิดมีคนเป็นลมเป็นแล้ง จนกระทั่งหมดสติขั้นมาสักคน ก็คงจะข่าวครึกโครมแล้วหละ นี่ดีนะ ที่ทุกคนก็พยายามรักษาสุขภาพของตัวเองให้ดีที่สุดในวันที่ต้องมาปฏิบัติงาน 24 ชม.

  • จริง ๆ นะ ภาษาไทยนี้เวลาเขียน เราต้องคิดทบทวนให้ดีเสียก่อน เพราะถ้าเราใช้ภาษาไทย
    ไม่ถูกต้อง จังหวะ ความหมาย มันก็ตีความไปได้หลาย ๆ อย่าง
    เช่น พี่ตาเขียนว่า วันนี้แล้วซินะ เมื่อฟัง ๆ ดูก็จริงนะ ที่มันมีความหมายว่า เรายังอาลัยอาวรณ์อยู่ แต่สำหรับพี่ตาไม่ได้คิดหรอก นึกอะไรก็จะเขียนไปอย่างนั้นด้วยใจจริงจ้ะ
    ถ้าเขียนภาษาไทยผิดพลาดประการ ต้องให้อภัยด้วยนะเพื่อนพ้องชาวหอสมุดฯทุกท่าน

  • เจ๋งจริง ขอชม นับถือ นับถือ อยู่เวร 24 ชั่งโมงแล้วยังปฏิบัติงานต่อได้อีก จนถึงตี1 ตี2 อย่างนี้ต้องยกให้เป็น คนต้นแบบ “คนดีศรีห้องสมุด ” ที่ทุ่มเทชีวิตให้กับงานราชการ ส่วนนัยนา นั่งเขียน KPI อยู่ที่บ้านแค่ 22.59 น. ก็หลับเสียแล้ว …

  • ขอแก้ข่าวจ้ะ ที่ว่าอยู่ถึงตี 1 ตี 2 นั่นน่ะ ไม่ใช่ในวันที่อยู่ 24 ชม.จ้ะ แต่เป็นวันอื่น ๆ ที่พี่ตาออกเวรแล้ว หลังจาก 22.00 น. ก็นั่งทำงานต่อ ก็ช่วงนี้ KPI เขาเร่ง ๆ ก็ต้องเอาเวลาช่วงนี้แหละนั่งทำงานที่ทำงาน เพราะที่บ้านคอมพิวเตอร์ (เสีย) ด้วย เพราะข้อมูลพี่ตามีเยอะ พิมพ์ไม่รู้จักเสร็จสักที เห็นของเพื่อน ๆ เขาเขียนกันสั้น ๆ แต่ต้องได้ใจความนะ เขาก็อยู่ในเกณฑ์แล้ว แต่สำหรับพี่ตาเขียนตามที่ได้ทำงานจริงทุกขั้นตอน เลยพิมพ์ไม่รู้จักเสร็จสักที มีอยู่คืนหนึ่ง (น้องจุ๋มเป็นหัวหน้าเวร 24 ชม.) ยังช่วยน้องจู่มย้ายข้อมูล KPI นี่แหละ ทำได้ทุกอย่าง อดหลับอดนอนก็เพื่อ KPI (ตัวดัชนีชี้วัด) และแล้วก็เสร็จทันเวลาที่กำหนดพอดี รู้สึกโล่งอกไปที
    พี่ตาบอกแล้วว่าอยู่ได้ 2-3 วันจริง ๆ หลังจากนั้นก็ไม่ไหวเหมือนกันจ้ะ กลับไปบ้านก็อยากจะพักผ่อนแล้ว คนดีศรีห้องสมุด พี่ตาว่าน่าจะยกให้น้องสุนีย์ หรือน้องกาญ นะ เพราะทั้งสองสาวนี้พี่ตาเห็นอยู่ดึก ๆ เกือบทุกวัน ที่ทุ่มเทชีวิตให้งานราชการจริง ๆ

  • ขอแถลงข่าวปฏิเสธตำแหน่งที่พี่ตาหรือว่าใครก็ตามที่จะอุปโลกน์ให้ ข้าพเจ้าไม่ปราถนาค่ะ มิได้ทำเพื่อหวังผลอันใดทั้งสิ้น มันแค่ความเคยชินของชีวิตส่วนตัวเท่านั้น มีคนอื่นอีกหลายๆคนที่เขามีความสามารถ ความพยายาม และความอดทนขยันขันแข็งดีกว่าเยอะที่สมควรยกย่องและให้คุณค่าแก่เขา อย่ามายกข้าพเจ้าเป็นตัวอย่างเลยเพราะมันไม่ใช่!!ขอย้ำว่าไม่ใช่! ขออยู่แบบธรรมดาๆก็พอใจที่สุดแล้ว ชีวิตมาถึงจุดนี้ได้ก็นับว่ามาไกลเกินกว่าที่คาดคิดแล้ว พอแล้วค่ะ!!!

  • พี่ตาก็ต้องขอโทษด้วย ที่พาดพิง น้องสุนีย์และน้องกาญนะ งั้นตำแหน่งคนดีศรีห้องสมุด ไม่มีใครได้เป็นคนดีอย่างสมศักดิ์ศรีเลยสักคนเดียว ก็ขออย่าได้ยกย่องใครคนใดคนหนึ่งมาอีกเลย ในการจะตัดสินว่าใครทำดีหรือทำดีที่สุดนั้น มันไม่ใช่อยู่ที่ทุกคนมองเห็นแต่ภายนอก เห็นท่าทางกิริยา เห็นการกระทำแต่เพียงอย่างเดียว ถ้าจะเป็นคนดี…..มันจะต้องทำดีทั้งกาย ทั้งใจ ควบคู่กันกันจ้ะ ต่อไปก็ไม่ต้องตั้งให้ใครเป็นนั่นเป็นนี่แล้วนะคะ เพราะทุกคนก็ไม่ได้ยอมรับในสิ่งที่ทุกคนมองว่าดีงามแล้ว เอาเป็นว่าอย่าไปก้าวก่ายกันก็แล้วกันนะ ขอจบ ต่อไปในการเขียน จะชมใคร ชอบใคร ก็ควรจะระวัง พี่ตาขอต้องขอโทษด้วยอีกครั้งในการที่ไปพาดพิง

Leave a Reply

Tags

blog CONSAL KPI PULINET การจัดการความรู้ การดูแลสุขภาพ การทำงาน การท่องเที่ยว การบริการ การปฏิบัติงานล่วงเวลา การประชาสัมพันธ์ การพัฒนาตนเอง การพัฒนาบุคลากร การลงรายการ การศึกษาดูงาน การอ่าน การเรียนออนไลน์ กิจกรรมสำหรับเด็ก กิจกรรมส่งเสริมการอ่าน กิจกรรมห้องสมุด ความสุข ค่ายห้องสมุด งานบริการ ธรรมะ นวนิยาย นักเขียน บรรณารักษ์ บริการชุมชน ประกันคุณภาพ ภาพถ่าย ภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยศิลปากร ระบบห้องสมุดอัตโนมัติ วัด วันสำคัญ วารสาร สัมมนา สุขภาพ หนังสือ หนังสือบริจาค หนังสือและการอ่าน หอสมุดพระราชวังสนามจันทร์ ห้องสมุด ห้องสมุด 24 ชั่วโมง อาหาร