ประสบการณ์ : การต่อใบขับขี่รถยนต์ประเภท 5 ปี
เหตุเกิดเมื่อในที่ 12 กันยายนที่ผ่านมา ได้ลาพักผ่อนไปต่ออายุใบขับขี่รถยนต์ เนื่องจากว่าใบขับขี่รถยนต์ใบเก่าจะหมดอายุในวันที่ 13 กันยายน (ซึ่งตรงกับวันเกิด ทำไมไม่เหมือนบัตรประชาชนที่หมดอายุก่อนวันเกิด 1 วัน 🙄 สงสัยว่าคงกลัวว่า บังเอิญหมดอายุปีเดียวกัน จะต้องไปทำพร้อมกันมั้ง) ก่อนไปต่ออายุใบขับขี่รถยนต์ ก็ได้สอบถามสมัครพรรคพวกหลายคนรวมทั้งคุณสามีแล้วก็พบว่า เดี๋ยวนี้การต่ออายุใบขับขี่รถยนต์ประเภท 5 ปี รอบที่ 2 เป็นต้นไป เค้าต้องที่การทดสอบสมรรถนะทางร่างกาย เช่น ทดสอบสายตา การตอบสนองทางร่างกาย เช่น การเหยียบเบรก เป็นต้น ส่วนหลักฐานการต่ออายุใบขับขี่รถยนต์ก็ตรวจสอบทางเน็ตดูว่าเค่าใช้อะไรบ้าง บางเว็บก็บอกว่า ใบขับขี่ 5 ปี ใบเดิม ตัวจริง สำเนาบัตรประชาชน 1 ใบ สำเนาทะเบียนบ้าน 1 ใบ พร้อมกับเงิน 605 บาทกรณีทำบัตรสมาร์การ์ด ส่วนใบรับรองแพทย์ไม่ต้องใช้ บางเว็บก็บอกว่าไม่ต้องใช้สำเนาทะเบียนบ้าน แต่อย่ากระนั้นเลยก็เตรียมไปให้หมดเถอะ จะได้ไม่ต้องเสียเวลาย้อนไปย้อนมา ถ้าเค้าเรียกเอกสารแล้วเกิดไม่มีขึ้นมา
พอถึงเช้าวันที่ 12 กันยายน ตอนเช้าก็ไปส่งลูกๆ ไปโรงเรียนตามปกติ เสร็จแล้วก็ขับรถเลยไปขนส่งจังหวัดนครปฐมเลย ไปถึงก็ประมาณเวลา 08.40 น. ได้ หาที่จอดรถเรียบร้อยแล้วก็เดินขึ้นไปที่ชั้น3 ก็เห็นว่ามีคนรออยู่ประมาณ 10 กว่าคนแล้ว คุณเจ้าหน้าที่ก็นั่งประจำที่เคาน์เตอร์บริการแล้วก็เลยเดินตรงเข้าไปติดต่อทันที แจ้งกับคุณเจ้าหน้าที่ว่า จะมาต่ออายุใบขับขี่รถยนต์ค่ะ คุณเจ้าหน้าที่บอกว่าใช้ใบขับขี่ 5 ปี ใบเดิมตัวจริงพร้อมสำเนาบัตรประชาชน 1 ใบเซ็นสำเนาถูกต้องด้วยครับ เมื่อส่งเอกสารให้คุณเจ้าหน้าที่ เค้าก็นำไปแนบกับใบคำร้อง แล้วให้เราเซ็นชื่อในใบคำร้องพร้อมทั้งใส่เบอร์โทรศัพท์ และแจ้งว่า เราต้องทดสอบสมรรถนะให้ผ่านก่อนถึงจะได้ใบขับขี่ใหม่ แล้วให้เรานำเอกสารไปใส่ในตะแกรง จากนั้นก็นั่งรอเรียกชื่อ สักพักก็มีเจ้าหน้าที่มาเรียกชื่อให้เข้าไปทดสอบสมรรถนะ แบบค่อยทยอยเรียก ในรอบที่เข้าไปนั้นทั้งหมดก็ประมาณ 20 คน อันตัวเรานั้นเป็นสตรีอยู่คนเดียวในรอบนี้ 😮
การทดสอบสมรรถนะเค้าให้เราเข้าไปนั่งในเครื่องทดสอบสมรรถนะคล้ายกับตู้เกมเลย มีเก้าอี้ พวงมาลัยรถ แล้วก็หน้าจอขนาดใหญ่ เริ่มต้นด้วยการทดสอบตาบอดสี จะมีแผงสีปรากฏที่หน้าจอเหมือนกับแผงสีที่เมื่อก่อนจะมีเจ้าหน้าที่เอาไม้มาชี้แล้วให้เราบอกว่าสีอะไร แต่ตอนนี้เป็นแผงสีบนหน้าจอแทน เครื่องจะมีภาพกรอบสี่เหลี่ยมล้อมรอบสีที่จะให้เราบอกว่าเป็นสีอะไร แล้วเราต้องกดตอบว่า สีที่เห็นในกรอบสี่เหลี่ยมเป็นสีอะไรโดยการกดปุ่มเครื่องหมายสี่เหลี่ยม สามเหลี่ยม วงกลมที่พวงมาลัยรถ (อันนี้จำไม่ได้แล้วว่า อะไรแทนอะไร จำได้แต่ว่า สีแดงต้องกดสี่เหลี่ยม) ซึ่งเป็นที่สิ่งที่ทำให้เครียดมาก เพราะต้องมานั่งจำว่า สีนั้นกดเครื่องหมายนี้ สีนี้กดเครื่องหมายนั้น 👿 แต่ไม่ต้องกังวลมากเพราะเค้าให้ทำช้าๆ ได้ เราก็เลยนั่งท่องเป็นนกขุนทอง ตามองหน้าจอว่าสีอะไร แล้วก้มมามองที่พวงมาลัย แล้วท่องไล่เครื่องหมาย แล้วถึงกด หากเป็นคนอื่นเค้าก็คงใช้ตามองมือกดได้เลย แต่เราทำไม่ได้และไม่คล่อง
อ้อ ! ลืมบอกไปก่อนเริ่มการทดสอบทุกครั้งต้องมีการเหยียบคันเร่ง 1 ครั้งเพื่อเปิดระบบ อันนี้ก็เป็นที่ลำบากอีกเพราะเครื่องทดสอบสมรรถนะค่อนข้างใหญ่ เบาะที่นั่งก็ปรับเลื่อนเข้าออกไม่ได้ ตัวเราก็เล็ก ขาก็สั้น ขนาดยื่นขาไปจนสุดยังไม่ถึง ต้องเขยิบก้นไปจนสุดเบาะที่นั่งถึงเหยียบคันเร่งถึง (ใครไปเห็นท่านั่งเราก็คงตลก เพราะนั่งเบาะแบบหมิ่นๆ หน้าอกติดพวงมาลัย ตาก็เพ่งมองหน้าจอ) 😯 การทดสอบข้อนี้ต้องผ่านสองรอบ
ต่อมาก็เป็นการทดสอบสายตา คือ ทดสอบการมองแนวกว้าง จะมีเครื่องมือเป็นรูปสี่เหลี่ยมยื่นมาจากข้างบนมาครอบศีรษะเรา แล้วให้เราดูแสงที่กระพริบว่าเป็นสีอะไร (เขียว เหลือง แดง) ก็กดปุ่มเครื่องหมายสี่เหลี่ยม สามเหลี่ยม วงกลมที่พวงมาลัยรถ การทดสอบข้อนี้ก็เป็นที่เดือดร้อนอีกเพราะว่าเราตัวเตี้ย ไอ้เจ้าเครื่องมือนั้น มันปรับให้ต่ำสุดได้แค่ขมับของเราเอง ทำยังงัยเราก็มองไม่เห็นอะไร คุณเจ้าหน้าที่เลยบอกว่า ให้เรากระดกก้นชะโงกหัวไปดูเอาก็แล้วกัน 😳 ส่วนเรื่องกดเครื่องหมายเดี๋ยวคุณเจ้าหน้าที่จะกดให้ เพียงแต่ให้เราบอกว่า สีที่เห็นเป็นสีอะไร เฮ้อ ! โล่งใจไป
ส่วนการทดสอบต่อมาคือ การทดสอบสายตา การมองแนวลึก โดยจะมีไม้สีขาวสองแท่งให้เรากดเลื่อนไปข้างหน้าหรือถอยหลังให้คู่ขนานกัน ถ้าเห็นว่าขนานแล้วให้กดแตร 1 ครั้ง เครื่องก็จะบอกว่าผ่านหรือไม่ผ่าน ถ้าผ่าน 2 ครั้งติดกันก็ผ่าน แต่ถ้าผิด 1 ครั้ง เค้าจะให้ทำครั้งที่ 3 ถ้าผิด 2 ครั้งถือว่าไม่ผ่าน การทดสอบนี้เราสอบตก 😥 แต่ไม่เป็นไร คุณเจ้าหน้าที่เค้าจะให้แก้ตัวซ่อมโดยไปต่อท้ายสุด (อันนี้เลยสงสัยว่าที่ตกเพราะ สายตากำลังกลับหรือเปล่า คือตอนนี้ตาข้างซ้ายเป็นสายตาสั้น ส่วนตาข้างขวากำลังจะเป็นสายตายาว)
ต่อไปก็เป็นการทดสอบความไวต่อการตอบสนองให้เราเหยียบคันเร่งกับเบรก ให้กดคันเร่งไปเรื่อยๆ ตามองที่หน้าจอเป็นรูปถนนจำลองมีไฟเขียวขึ้นพอไฟเขียวเปลี่ยนเป็นไฟแดง ให้ย้ายเท้าไปเหยียบแป้นเบรคให้ทัน เครื่องก็จะบอกว่าเราผ่านหรือไม่ผ่าน 😀 อันนี้ผ่านฉลุย
หลังจากผ่านหมดทุกการทดสอบซึ่งรวมทั้งสอบซ่อมการทดสอบสายตาทางลึกแล้ว เค้าก็ให้เราไปจ่ายเงินค่าต่ออายุใบขับขี่ 500 บาท ค่าคำร้อง 5 บาท หลังจากนั้นก็ให้เราไปถ่ายรูปทำบัตรสมาร์ทการ์ด ตรงนี้ต้องจ่าย 100 บาท ก็เกิดปัญหาอีกเพราะเราเป็นคนตัวเล็ก คุณเจ้าหน้าต้องเสียเวลาปรับกล้องปรับระยะใหม่ พร้อมทั้งเปรยว่า คุณพี่ตัวเล็กจังเลย คุณเจ้าหน้าที่ที่ทดสอบสมรรถนะเลยหันมาเออออว่า ใช่เมื่อกี้ทางนี้ก็มีปัญหาเหมือนกันเพราะพี่เค้าตัวเล็ก (แหม! ก็เมื่อก่อนมันไม่นมวัวให้กินนี่ 😉 ) หลังจากถ่ายรูปเสร็จ คุณเจ้าหน้าที่บอกว่าให้เรา เข้าไปชมภาพยนตร์ส่งเสริมวินัยจราจรในห้อง พร้อมทั้งกำชับว่า ต้องอยู่ให้ครบ 1 ชั่วโมงน่ะ (ตอนเข้าไปเวลา 10.10 ก็ต้องออกมาตอนเวลา 11.10) แล้วค่อยมารับใบขับขี่ใบใหม่
ส่วนภาพยนตร์ก็เป็นเรื่องของสองครอบครัว ที่มีเด็กผู้หญิงชื่อหนูดี (ครอบครัวที่มีวินัยจราจรดี) กับเด็กผู้ชายชื่อโชกุน (ครอบครัวที่มีวินัยจราจรไม่ดี)จำลองเหตุการณ์ต่างๆ ในชีวิตประจำวัน เช่น การขับรถไปรับส่งลูกที่โรงเรียน ผ่านป้ายจราจรอะไรก็จะสนทนาบอกกล่าว ขับรถพาลูกไปเที่ยว หรือการที่ไปรับลูกไม่ทันก็เลยต้องสอนภรรยาขับรถ (ซึ่งคุณพ่อของหนูดีนั้น มีเรื่องที่น่าเศร้าคือ น้องสาวถูกรถบรรทุกฝ่าไฟแดงขับชนจนเสียชีวิตทั้งที่ขับรถถูกกฎจราจร ก็เลยไม่ค่อยยากให้ภรรยาขับรถ) ส่วนบ้านของโชกุนที่คุณพ่อไม่มีวินัยจราจรตอนท้ายพ่อของโชกุนขับลงข้างทาง ทำให้โชกุนสมองกระเทือน ความจำเสื่อม พ่อของโชกุนเลยกลับตัวกลับใจ มาขับรถดีมีวินัย เนื้อเรื่องใช้เวลาประมาณ 1 ชม. พอดีก็ออกมารับบัตร แล้วก็กลับบ้านได้ ใช้เวลาในการไปต่อใบขับขี่ 2 ชั่วโมงครึ่งพอดิบพอดี ถ้าเพื่อนคนใดจะไปครั้งหน้าไปช่วงเช้าแต่อย่าสายมากนักจะได้เสร็จก่อนเที่ยงไง เล่าซะละเอียดเอาใจช่วยเพื่อนๆ ที่จะไปต่อใบขับขี่จ้า 😆
ปล. อีก 5 ปีเจอกันจ้า ว่าแต่เค้าจะปรับเครื่องทดสอบให้เข้ากับคนตัวเล็กหรือยังน่ะ แล้วภาพยนตร์ที่ดูก็คงเปลี่ยนเรื่องแล้วล่ะ 😎
One thought on “ประสบการณ์ : การต่อใบขับขี่รถยนต์ประเภท 5 ปี”
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.
ต้องโทษที่เกิดมาเตี้ย…. สำหรับพี่การทดสอบ เป็นอะไรที่มันฝืนธรรมชาติพิกล