การสื่อสารของมนุษย์

คุณ!!! เคยมั๊ย สื่อสารกับคนอื่นไม่รู้เรื่อง
พูดกันคนละภาษา ทำให้ไม่ได้ดั่งใจที่ต้องการ
แล้วจะทำไงเล่ากับปัญหาเหล่านี้
จากเหตุผลนานาประการ ทำให้ข้าพเจ้าลงเรียนหลักสูตรอบรมออนไลน์ของกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยวิชา การสื่อสารเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการทำงาน(M03)
หลักสูตรนี้….ข้าพเจ้าได้เข้าใจถึงสภาพของคน หลายๆคนมากขึ้น เมื่ออยู่รวมกันการสื่อสารมักเกิดในหลายรูปแบบ เราควรทำความเข้าใจ พยามยามทำใจ ทั้งในสถานะเป็นผู้พูด และสถานะเป็นผู้ฟัง ในทำนองว่าให้เอาใจเขามาใส่ใจเรา ถนอมน้ำใจในการสื่อสารระหว่างคู่สนทนา แค่นี้การทำงานของเราก็จะดำเนินไปได้ด้วยดี แบบไม่มีปากเสียง ขัดข้องหมองใจต่อเพื่อนร่วมงาน
สรุปสาระจากบทเรียน >>>
การสื่อสาร
การสื่อสาร หากสื่อสาร(ความหมาย)ไม่ตรงกันอาจทำให้คู่สนทนารู้สึกเคืองได้ ทำให้มีปัญหา กรณีหากต้องร่วมทำงานเป็นทีม แต่หากการสื่อสารเข้าใจกันดีจะทำให้ เกิดความสามัคคีสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีความสุข
ถ้าเราต้องการให้การสื่อสารประสบความสำเร็จ เราต้องรู้จักวิเคราะห์การสื่อสารเพื่อให้เกิดประโยชน์ ใน 4 ข้อ ด้านล่างนี้
1.ทำให้รู้ถึงลักษณะของ(คน)ที่เราจะสื่อสารด้วย
2.ทำให้รู้ถึงลักษณะของ(ตนเอง)ว่าเป็นคนแบบใด
3.เป็นประโยชน์ในการทำงาน โดยเฉพาะกับหน่วยงานที่มีผู้ร่วมงานที่หลากหลาย
4.สามารถปรับวิธีการสื่อสาร ให้เข้ากับสถานะการณ์ เพื่อให้มีปฏิสัมพันธ์ที่ดีได้
การวิเคราะห์การสื่อสาร เรียกย่อๆว่า TA ย่อมาจาก Transactional Analysis เป็นทฤษฎีของ อีริค เบิร์น มีอยู่ด้วยกัน 3 แบบ ภายใต้พฤติกรรมของคนที่แสดงออกมาภายนอก โดยมีแรงงงงงงส์ขับดันที่เรียกว่า Ego State คือ
😆 การสื่อสารแบบพ่อแม่ผู้ปกครอง(Parent Ego State) เรียกย่อๆว่า P = ซึ่งได้มาจากการสื่อสารกับครอบครัว  พฤติกรรมที่แสดงออก คือ ชอบออกคำสั่งผู้อื่น วิพากษ์วิจารย์ บังคับขู่เข็น ชอบวางตัวเหนือกว่าผู้อื่น
😮 การสื่อสารแบบผู้ใหญ่(Adult Ego State) เรียกย่อๆว่า A = รับมาจากการเรียนรู้ในปัจจุบันผ่าน โรงเรียน ที่ทำงาน สังคม ขณะที่เป็นผู้ใหญ่แล้ว  พฤติกรรมที่แสดงออก มักมีเหตุผล มีจุดมุ่งหมายเสมอ ไม่ใช้อารมณ์ตัดสินใจ มีการวิเคราะห์ประเมินผลข้อมูลก่อนแสดงออก มีวุฒิภาวะในการแสดงอารมณ์ต่อผู้อื่น
😯 การสื่อสารแบบเด็กๆ(Child Ego State) เรียกย่อๆว่า C =  ติดมาจากสมัยที่เป็นเด็ก
ซึ่งสมองมีการจดจำเหตุการณ์ในอดีตมาเป็นแบบอย่าง พฤติกรรมที่แสดงออกมามักขาดวุฒิภาวะ ขาดเหตุผล มักแสดงอารมณ์ออกมาอย่างชัดเจน
และเมื่อนำพฤติกรรมทั้ง 3 แบบมาใช้ในการพูด ทำให้เกิดทัศนะต่อชีวิตใน 4 แบบ ดังนี้
1.ฉันโอเค เธอโอเค (I’m OK. You’re OK) = คุยกันแล้วสบายใจทั้งสองฝ่าย เกิดความสุขในการอยู่ร่วมกัน
2.ฉันโอเค เธอไม่โอเค (I’m OK. You’re not OK) = ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดวางตนอยู่เหนือผู้อื่น ทำให้คู่สนทนารู้สึกไม่พอใจ
3.ฉันไม่โอเค เธอโอเค (I’m not OK. You’re OK) = วางตนด้อยกว่าคู่สนทนา พูดให้ตัวเองต่ำต้อย ด้อยค่า
4.ฉันไม่โอเค เธอก็ไม่โอเค (I’m not OK. You’re not OK) >>(ในบทสนทนาขณะนั้น) = ไม่มีฝ่ายใดรู้สึกดีกับการสนทนานั้น (แล้วจะคุยกันทำไมเนอะ)
จากพฤิตกรรมทั้ง 4 แบบ มีเพียงแบบเดียวที่ควรนำมาใช้ให้เป็นนิสัยคือ แบบ 1 ค่ะ คือ การสนทนาพฤติกรรมแบบผู้ใหญ่ที่มีวุฒิภาวะ มีเหตุผล มีศีลธรรม และให้เกียรติผู้อื่น ทำให้เกิดทัศนะคติแบบฉันโอเค เธอก็โอเค นั่นเอง. ส่วนทัศนะคติอีก 3 แบบนั้นไม่ควรนำมากระทำ หากแต่ในชีวิตจริงคนเรามักเผลอนำมาใช้ ซึ่งไม่ควรนำมาเป็นนิสัย เพราะจะส่งผลให้ชีวิตการทำงาน กับเพื่อนร่วมงาน กับหน่วยงาน ในทางที่ไม่สร้างสรรค์ งานไม่สามารถสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี…
ขอต่ออีกนิด..
อีริค เบิร์น ได้กำหนดคำว่า Stamp มาแทนอารมณ์ แบ่งได้เป็น Good Stamp (อารมณ์ดี)และ Brown Stamp (อารมณ์ไม่ดี) ถ้าใครมี Brown Stamp เก็บไว้มากๆๆๆๆๆ คนนั้นก็จะมีอารมณ์ไม่ดีมากๆๆๆ ส่วนอารมณ์ที่ดี มีลักษณะที่แสดงออกมาให้สัมผัสได้ ดังนี้
* ทางพฤติกรรม จะมีอารมณ์มั่นคง จริงใจ กล้าที่จะแสดงความรู้สึก
* ทางความรู้สึกของผู้กระทำ(ผู้พูด) จะมีความรู้สึกเชื่อมั่น ยอมรับนับถือตนเอง ทั้งในเวลานั้น และต่อมา
* ทางความรู้สึกของผู้ถูกกระทำ(ผู้ฟัง) จะเห็นคุณค่าทีได้รับการยอมรับ และอยากสนทนาด้วย
* ทางความรู้สึกของผู้อื่นที่มีต่อตัวผู้ถูกกระทำ(ผู้ได้ยินคนอื่นๆ) จะรู้สึกว่าเป็นผู้ที่น่ายอมรับนับถือ ค่ะ
ลองประเมินตัวเองดูนะคะ ว่าท่านเข้าขั้น I’m OK…………แล้วคู่สนทนาของท่านเขาโอเคกับท่านรึป่าว !

4 thoughts on “การสื่อสารของมนุษย์

  • ช่วงที่เรียนวิชานี้พี่ชอบทักกันทั้ง 4 แบบเลย แต่ไม่ได้เก็บสถิติว่าแบบไหนมากกว่ากัน แต่ตอนนี้อยากบอกญาว่า I hope… You’re OK ….

  • เป็นวิชาที่น่าลงเรียน อีกวิชาหนึ่ง เพราะจะได้นำมาสำรวจตนเองว่า ทำไม่เราสื่อสารกับมนุษย์แล้ว not O.K. บ่อยครั้ง ต้องขอลงทะเบียนเรียนด้วยซะแล้ว 222.

  • ในที่ทำงาน เมื่อสื่อสารแล้วคุณ จะ OK หรือ no OK ก็แล้วแต่ ป้าแมวขอบอกยาหยีและทุกคนว่า มันอยู่ที่ใจและความคิดของคน หากคิดแง่บวก พิจารณาแล้วก็ไม่เห็นเสียหายก็น่าจะ โอเค ลองดูนะ แต่หากพิจารณาแล้ว คาดว่จะเสียหายหรือมีปัญหาก็ต้องสอบถามกันด้วยกัลยาณมิตรแล้วจึงตัดสินใจอีกครั้ง ไม่ใช่ยังไม่รู้อะไรที่ชัดเจน ก็ขอต้านไว้ก่อน อาจเป็นเพราะไม่เคยทำงานในหน่วยงานที่แบ่งชนชั้น ซึ่งเขาสั่งให้ทำ(ในสิ่งที่ถูกต้อง) ใจจะโอเค ไม่โอเค ก็ต้องทำ หลายคนเคยชินกับสภาพแวดล้อมที่เป็นกันเอง เป็นพี่เป็นน้อง เกิดลืมตัวนึกว่าเป็นการทำงานในครอบครัว ไม่โอเคตลอด นี่ก็ไม่ไหวนะ

Leave a Reply

Tags

blog CONSAL KPI PULINET การจัดการความรู้ การดูแลสุขภาพ การทำงาน การท่องเที่ยว การบริการ การปฏิบัติงานล่วงเวลา การประชาสัมพันธ์ การพัฒนาตนเอง การพัฒนาบุคลากร การลงรายการ การศึกษาดูงาน การอ่าน การเรียนออนไลน์ กิจกรรมสำหรับเด็ก กิจกรรมส่งเสริมการอ่าน กิจกรรมห้องสมุด ความสุข ค่ายห้องสมุด งานบริการ ธรรมะ นวนิยาย นักเขียน บรรณารักษ์ บริการชุมชน ประกันคุณภาพ ภาพถ่าย ภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยศิลปากร ระบบห้องสมุดอัตโนมัติ วัด วันสำคัญ วารสาร สัมมนา สุขภาพ หนังสือ หนังสือบริจาค หนังสือและการอ่าน หอสมุดพระราชวังสนามจันทร์ ห้องสมุด ห้องสมุด 24 ชั่วโมง อาหาร