เหตุเกิดที่ข้างบ้านฉัน
อ่านชื่อเรื่องดูแล้วเหมือนเป็นชื่อหนังสืออ่านเล่นอะไรซักอย่างนะครับ แต่มันคือเรื่องที่เกิดขึ้นจริงๆ ที่ข้างบ้านของผมเอง เล่นเอาไม่ได้นอนกันทั้งคืนเลย
เรื่องเป็นอย่างนี้ครับ เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 27มี.ค.2554 เวลาประมาณ 23.00น. เป็นช่วงที่ผมและลูกๆ กำลังจะเข้านอน ผมก็ได้กลิ่นเหม็นไหม้เหมือนมีใครเผาอะไรสักอย่าง กลิ่นโชยมาแรงมากๆ จนผมทนไม่ไหวก็เลยเปิดหน้าต่างดู เห็นกลุ่มควันลอยออกมาจากบ้านที่อยู่ด้านข้างบ้านผมเยอะมาก จึงชวนแฟนผมออกไปดูบ้านที่เกิดเหตุซึ่งห่างจากบ้านผมประมาณ 25เมตร
ไปถึงก็พบว่ามีคนยืนดูอยู่ก่อนแล้ว พอผมมองเห็นก็คิดในใจว่านี่มันไฟไหม้นี่นา ก็เลยบอกแฟนให้รีบโทรแจ้งความ ตอนนั้นมองเห็นแต่ควันไฟลอยออกมาเยอะมาก ใจก็คิดว่าถ้ามันไหม้มากๆ ไฟมันจะลามมาติดบ้านเราหรือปล่าวน๊า? พอสักพักก็เริ่มเห็นเปลวไฟลุกออกมาบนหลังคาด้านหน้าของบ้านโดยไฟเริ่มไหม้ จากชั้นล่างขึ้นด้านบน เจ้าหน้าที่ดับเพลิงก็เริ่มมา ช่วงเวลาพักเดียวรถดับเพลิงก็มาเต็มไปหมด ผมจึงเริ่มคลายกังวลลง แล้วก็คิดว่าเหตุการณ์แบบนี้มันไม่ค่อยจะเกิดขึ้นบ่อยโดยเฉพาะต่อหน้าต่อตา ว่าแล้วก็กลับขึ้นไปหยิบกล้องบนบ้าน
พอไปถึงห้องก็พบว่า ทั้งแฟนและลูกตกใจกันมาก รื้อเก็บข้าวของกระจายเต็มไปหมด ก็เลยบอกแฟนแบบไม่เต็มปากเต็มคำว่า ไฟมันคงไม่ลามมาถึงบ้านเราหรอก รถดับเพลิงก็มาตั้งหลายคันน้ำคงมีมากพอที่ดับไฟ ว่าแล้วก็บอกให้แฟนพาลูกไปอยู่ที่บ้านยายก่อน(บ้านยายอยู่ฝั่งตรงกันข้าม) ส่วนตัวผมก็หยิบกล้องแล้วก็ขึ้นไปสังเกตุการณ์บนชั้นดาดฟ้า ได้รูปในมุมมองที่ไม่ซ้ำใครมาให้ชมเพราะถ่ายจากดาดฟ้าบ้านผมเอง ไม่ขอบบรรยายมากนะครับดูรูปเลยก็แล้วกัน
7 thoughts on “เหตุเกิดที่ข้างบ้านฉัน”
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.
รูปสวยชัดเป๊ะเลยน้อง น่าเรื่องน่าตกใจแทนน่ะ
ถามจริงเหอะเวลากดชัตเตอร์มือไม้สั่นรึเปล่า รูปสวยนะ แต่คงไม่อยากเจอบ่อยๆ
ขอบคุณท่านพี่ทั้งสองที่ชมครับ ถามว่ามือไม้สั่นหรือปล่าว? ขอตอบว่าไม่เคยถ่ายรูปครั้งไหนที่จะตื่นเต้นเท่าครั้งนี้ (กลัวไฟลามมาติดบ้าน) แถมเป็นภาพที่ถ่ายยาก เพราะมีแสงน้อยสปีด ชัตเตอร์ก็ต่ำ
ป้าแมวไม่ทราบจุดบ้านของน้อง แต่รูปที่ถ่ายเป็นมุมสูง แสดงว่าสูงกว่า บ้านที่ไฟไหม้ ขณะที่ถ่ายรูปนั้น แฟนและลูกไปบ้านยายหรือยัง เก็บของสำคัญหรือมีค่าไปมั่งหรือเปล่า อย่างไรก็ตามก็ผ่านพ้นไปแล้วนะ รูปถ่ายทั้งหลาย ลองคัดเลือกและนำมาดูกัน แง่ศิลปะการถ่ายภาพ องค์ประกอบศิลป์ไง แสง สี
ขอขอบคุณ คุณSukho มากๆเลยนะคะ ที่นำเรื่องมาเล่าด้วยภาพอย่างคมชัดเสมือนไปนั่งดูด้วยตาตนเอง เพราะวันนั้น ดิฉันและครอบครัว ไปนั่งรับประทานอาหารกันนอกบ้าน สักพักหนึ่งได้ยินเสียงสัญญาน ดังมาก บุตรสาวถามพ่อว่า เสียงอะไรนะ พ่อตอบว่า เป็นเสียงสัญญาน แจ้งเตือนเหตุไฟไหม้ และต้องเกิดบริเวณใก้ลเคียงนี้แน่นอน เนื่องจากว่ารถดับเพลิงวิ่งมาจอดบนถนนหลายคัน ดิฉันจึงชวนทุกคนที่ร่วมโต๊ะอาหาร ว่าไปดูกันไหม เผื่อว่าเราพอจะมีโอกาศ ช่วยเหลือคนอื่นได้บ้าง แต่คุณพ่อให้เหตุผลว่า ” เราอย่าเข้าไปเกะกะการทำงานของเจ้าหน้าที่เขาเลย ให้พวกเขาทำงานโดยสะดวกจะดีกว่าไหมเธอ ” แล้วครอบครัวของดิฉัน จึงขับรถกลับบ้านโดยเลี่ยงถนนสายเกิดเหตุ 000
รูปสวย แต่น่าสะพรึงกล้วนะ นึกถึงเมื่อตอนเราอบรมอัคคีภัยเนอะ น่าเสียดายที่ตอนนั้นพวกเราอบรมและปฏิบัติกันน้อยเกินไป ตึกหอสมุดฯ ก็เสี่ยงนะ ทิศทางการหนีไฟจะไปทางไหน.. หากเราเจอเหตุการณ์อย่างนี้จะควบคุมสติ หรือแก้ปัญหาได้แค่ไหนก็ไม่รู้
สวัสดีครับ…P’ Maew,Naiyana,Patcharee ขอบคุณครับที่แวะเข้ามา
เนื่องจากมีคำถามจากP’ Maew ผมก็เลยขอตอบเป็นข้อๆนะครับ
-ป้าแมวไม่ทราบจุดบ้านของน้อง
ตอบ บ้านผมอยู่ถนน ดอนตูม จากปากทาง(บ้านเต็กกอ)เข้ามาประมาณ500เมตร ถึงก่อนบ้านพี่อ้วนครับ
-รูปที่ถ่ายเป็นมุมสูง แสดงว่าสูงกว่า บ้านที่ไฟไหม้
ตอบ บ้านผมกับบ้านเพลิงไหม้สูงพอๆกันครับ ที่มุุมสูงกว่าเพราะผมขึ้นไปอยู่ดาดฟ้า
-ขณะที่ถ่ายรูปนั้น แฟนและลูกไปบ้านยายหรือยัง เก็บของสำคัญหรือมีค่าไปมั่งหรือเปล่า
ตอบ แฟนและลูกไปอยู่บ้านยายก่อนแล้วครับ และเก็บของไปบางส่วน
-รูปถ่ายทั้งหลาย ลองคัดเลือกและนำมาดูกัน แง่ศิลปะการถ่ายภาพ องค์ประกอบศิลป์ไง แสง สี
ตอบ รูปทั้งหมดผมเก็บสะสมไว้ครับ