ผิดหลักการ…แต่เหมาะสม…และสำเร็จ
จากการที่หอสมุดพระราชวังสนามจันทร์ของเรา ได้ทำโครงการพัฒนาแหล่งเรียนรู้ โดยในครั้งแรกนี้ได้ไปทำภารกิจกันที่โรงเรียนวัดวังกุลา ต.เขาพระ อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี ในฐานะที่ข้าน้อยเป็นประธานคณะทำงานฯ ก็ได้มีการประสานงานติดต่อกับผู้อำนวยการโรงเรียนเป็นระยะๆ เพื่อจะได้รับรู้ถึงบริบท ไม่ว่าจะเป็นลักษณะของห้องที่ทำเป็นห้องสมุด หนังสือ จำนวนหนังสือ บุคลากร รูปแบบหมวดหมู่ที่ผู้บริหารโรงเรียนประสงค์
จากนั้นได้นำมาพูดคุยกันในคณะทำงานฯ ที่มีกันอยู่ทั้งหมด 6 คน (ซึ่งอาจจะแปลกประหลาดตรงที่ไม่ได้ประชุมกันเลย แต่เป็นการพูดคุยกันไปมา จนนำมาซึ่งข้อสรุปความต้องการต่างๆ ได้อย่างน่าแปลกใจ)
เมื่อเริ่มปฏิบัติงาน ก็เป็นอย่างที่พี่สมปองได้เล่าไว้ในท่าทีและลีลา (3) ว่า “ในระหว่างการทำงานมีตัวแปรขึ้นมาให้เราไม่สามารถทำงานได้อย่างใจ ซึ่งเป็นกรณีศึกษาที่ดี และเป็นบทเรียนของที่ต่อไป (ถ้ามี) ทั้งในเรื่องของระบบ การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าของวัสดุ อุปกรณ์ ซึ่งพวกเราทั้งหก ต้องร่วมคิด รีด กลั่นออกมาเป็นวิธีการทำงานให้ได้”
ตัวแปรที่เป็นปัญหาอย่างเห็นได้ชัดก็คือ จำนวนหนังสือ การบันทึกข้อมูล และตัวคุณครูผู้ที่ดูแลห้องสมุด เพราะจำนวนหนังสือที่ได้รับทราบจากผู้อำนวยการโรงเรียน (ซึ่งท่านดูจากสมุดทะเบียน) มีจำนวนไม่มาก แต่เอาเข้าจริงมากอักโขอยู่ อันนี้ไม่ใช่ปัญหาเท่าไหร่ เมื่อทีมงานทำงานกันอย่างสุดฝีมือ
แต่งานกลับมารอในเรื่องการบันทึกข้อมูล ที่ไม่สามารถส่งต่อตัวเล่มไปสู่งานเทคนิคตัวเล่มได้ เนื่องจากเรานำระบบห้องสมุดอัตโนมัติไปติดตั้ง ซึ่งโดยความเป็นจริงสามารถทำการ Login เข้าไปทำงานจากเครื่องที่จำลองเป็นเครื่องแม่ข่ายได้ แต่ด้วยความที่ไม่ได้นึกถึงข้อจำกัดของระบบเครือข่ายของโรงเรียน ที่เครือข่ายช้ามาก รวมถึงหลุด/ล่มไปตลอดวัน ทำให้ไม่สามารถใช้เครื่องบันทึกข้อมูลได้มากกว่า 1 เครื่อง
ทำไงดีล่ะ !!! การบันทึกข้อมูลในระบบห้องสมุดอัตโนมัติ ส่วนที่บันทึกหลักๆ ก็จะได้แก่ ISBN, Call no., Author, Title, Imprint, Description, Subject, Author (Add) วันแรกแม้มีเวลาบันทึกอยู่ไม่กี่ชั่วโมง (ซัก 4-5 ชั่วโมง) ปรากฎว่าบันทึกได้ค่อนข้างน้อย เมื่อเทียบกับคน Catalog 2 คน และคนที่ต้องรอกระบวนการต่อจากการบันทึกข้อมูล (ไม่ได้คีย์ช้านะจ๊ะ)
หลังจากกลับมาที่พัก ก็พยายามคิดวิธีการที่เหมาุะสมในการบันทึกข้อมูล ก็สรุปได้ว่า ถ้าเรายอมผิดหลักการไปบ้าง และดูแล้วเหมาะสมกับห้องสมุดเล็กๆ คุณครูผู้รับผิดชอบก็น่าจะดูสบายๆ ไม่เครียดมากนัก (ครูที่โรงเรียนนี้มีน้อย จนน่าใจหาย 4 คนเท่านั้น)
ที่ว่ายอมผิดหลักการแต่เหมาะสมก็คือ บันทึกข้อมูลแต่ส่วนที่จำเป็นก่อน อันได้แก่ Call no., Author, Title และ Subject ไม่ใส่ Indicator และใช้ Tag Subject เพียง Tag 650 เท่านั้น
ทำให้สามารถบันทึกข้อมูลได้มากขึ้นเป็น 2-3 เท่า และคุณครูก็จะสามารถทำความเข้าใจกับ MARC เพียงไม่กี่ Tag ได้ง่ายขึ้น (แต่ก็ตรวจสอบรายการซ้ำได้ยาก หากหนังสือชื่อเดียวกัน ผู้แต่งเดียวกัน ก็คงต้องยอมปล่อยไป) ซึ่งดูดูแล้วก็คงจะเหมาะสมกับขนาดของห้องสมุดและผู้รับผิดชอบ แม้จะผิดหลักการไปบ้างก็ตาม
นอกจากนี้ ก็ทำให้การดำเนินการต่างๆ ประสบความสำเร็จไปได้ด้วยดีในเกือบทุกๆ ด้าน แต่อย่างไรก็ตามการผิดหลักการแบบนี้คงไม่ได้หมายถึงต้องทำแบบนี้เหมือนกันทุกห้องสมุุด คงต้องดูความจำเป็น และบริบทต่างๆ ประกอบกันไปด้วย… 🙄