ท่าทีและลีลา (3)
เมื่อลงมือทำงานแล้ว จึงรู้ว่าจำนวนคนกับงานไหงมันช่างพอดิบดีพอดี ใครสักคนถาม ตอบไปว่าสัญชาตญาณ (โหด) มั้ง จึงทำให้ง่ายต่อการเขียนรายงานเพื่อเป็นต้นแบบหากเราจะทำงานในครั้งแต่ไป … ที่ยังดีไซน์ไม่ออกว่าว่าหน้าตาจะเป็นแบบไหน
ในระหว่างการทำงานมีตัวแปรขึ้นมาให้เราไม่สามารถทำงานได้อย่างใจ ซึ่งเป็นกรณีศึกษาที่ดี และเป็นบทเรียนของที่ต่อไป (ถ้ามี) ทั้งในเรื่องของระบบ การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าของวัสดุ อุปกรณ์ ซึ่งพวกเราทั้งหก ต้องร่วมคิด รีด กลั่นออกมาเป็นวิธีการทำงานให้ได้
อดไม่ได้ที่นึกถึงคนในรุ่นต่อไปในห้องสมุดที่จะต้องมาทำงานแบบนี้ จินตนาการว่าจะเป็นเมื่อใดกันนะ ที่พวกเขาสามารถสั่งสมประสบการณ์ภายในห้องสมุดจนเข้มแข็ง แล้วดึงศักยภาพของตัวเองออกมา
มีคนถามว่าเอาเด็กใหม่ๆ มาพร้อมกันเลยตอนนี้ได้ไหม … ตอบว่าได้ แต่จะมีข้อจำกัดอีกแบบหนึ่งคือ การทำงานลักษณะนี้หมายถึงเมื่อใดที่ลงพื้นที่แล้ว ทุกคนสามารถทำงานได้ทันที มองงานอย่างทะลุ เชื่อมโยง และวางแผนได้ เนื่องจากเป็นการทำงานที่มีเงื่อนไขของระยะเวลาเข้ามาเกี่ยวข้องรวมทั้งลักษณะนิสัยที่ต้องกินง่ายและอยู่ง่าย เพราะเราไม่มีสิทธิรู้เลยว่าอนาคตเราจะพบกับอะไรบ้าง
เด็กใหม่ๆ บ่มเพาะประสบการณ์ไปสักระยะหนึ่งก็สามารถออกมาทำงานได้เช่นกัน ตอนนี้ขอให้เรียนรู้ จนมั่นใจ ถามได้ ตอบได้ ซึ่งคิดว่าไม่นานก็จะพร้อมเหมือนกับพี่ๆ ในห้องสมุด ที่สามารถสร้างทีมการทำงานกิจกรรมส่งเสริมการอ่านให้กับเด็กได้อย่างเข้มแข็ง ต่อยอด คิดงาน … โดยที่ที่ปรึกษามองอยู่ห่างๆ และช่วยเข้ามาดูเป็นระยะๆ ในบางเรื่องเท่านั้น รวมทั้งอีกหลายๆทีมงานในห้องสมุด
ทั้งหกคนมากจากหลายฝ่ายงาน มีช่วงอายุที่ต่างกัน ที่สามารถเรียนรู้และส่งต่อประสบการร์ให้กับรุ่นน้องๆ ได้
ห้องสมุดโชคดีที่บุคลากรมีความเป็นห่วงกับอนาคตของน้องๆและการอยู่อย่างมั่นคงขององค์กร เป็นวัฒนธรรมองค์กรที่อาจจะหายากหรือปล่าวนะ หรืออิช้านจะคิดไปเอง…. คนเดียว