ออนทัวร์ 5 ตอนจบ… แล้วได้อะไร
เวลาไปราชการมักมีคนถามว่าไปเที่ยวสนุกไหม มักตอบว่าสนุกแล้วยิ้มๆ หรือขว้างค้อน ซึ่งแล้วแต่สถานการณ์…
ในสถานการณ์จริงที่ไม่ชอบช๊อปปิ๊ง ยิ่งข้าวของที่มีหน้าตาเหมือนๆ แถวสำเพ็งหรือที่ไหนในเมืองไทยก็ขอบ๊ายบายรวม ทั้งไม่ชอบถ่ายรูปตัวเองกับสถานที่ใดๆ ทั้งสิ้น จึงไม่ค่อยมีอะไรมาเป็นที่ระลึก นอกจากความทรงจำที่ดีๆ กับการบันทึกเรื่องราวเป็นตัวอักษร ที่เราชอบนำมาเทีียบเคียงกับรูปที่มีในสารบบ เพื่อให้เห็นแนวคิดที่คิดว่าเข้าท่า หรือไม่เข้าที่ เหมือนและไม่เหมือน สภาพสังคม ความเป็นอยู่ เพราะคิดว่าน่าจะดีกับชีวิตส่วนตัวและการทำงาน
เพราะไปโดยใช้เงินหลวง ดังนั้นจึงกลับมาแต่เรื่องงานล้วนๆ แล้วได้อะไร? เป็นคำถามยอดฮิต
วัตถุประสงค์ของการไปศึกษาดูงานในต่างประเทศมักมีหลายข้อ ข้อหนึ่งที่มีมักเป็นเรื่องของเหตุผลที่บอกว่าเพื่อเปิดโลกทัศน์ให้กับผู้เข้า่ร่วมกิจกรรม
มีผู้บริหารหลา่ยที่และหลายท่านที่เดียว เคยบอกว่าเวลาไปต่างประเทศแล้วเห็นอะไรๆ ที่ดีกว่า ทำให้กลับมาแล้วอยากได้โน่นนี่ เช่น เห็นตึกสวยงามๆ ก็อยากได้บ้าง เป็นต้น ซึ่งหมายถึงเรื่องเงิน
ก็จริงนะ หากว่าเราสามารถทำได้แบบที่เห็น แต่ในความเห็นส่วนตัวหากเรามีเงิน เราก็สามารถเนรมิตรอะไรก็ได้… ยกเว้น… ความคิดสร้างสรรค์
สำหรับตัวเองแล้วการเห็นแบบอย่างจะเป็นสิ่งกระตุ้นให้เราคิดว่าจะทำอย่างไรในสถานการณ์แบบของเรา ไปในมุมและบริบทของเรา
สิ่งที่ก้าวหน้า จะทำให้เราสามารถนำข้อมูลมาวางอนาคตของเราได้ เพราะสถานที่ไปผ่านกระบวนการในแบบของเขามาพอสมควร
แนวคิดที่ให้ห้องสมุดเป็นมากกว่าห้องสมุด มีมานาน และมีวิวัฒนาการตามยุคสมัย ห้องสมุดเรายังมีกิจกรรมที่ฉีกแนวออกไปจากเขาหลายอย่างที่ผสมกันระหว่างห้องสมุดมหาวิทยาลัยกับห้องสมุดประชาชน ซึ่งเป็นเรื่องแปลกสำหรับเขา
ความรวดเร็วและทักษะทางด้านของเทคโนโลยีสารสนเทศพวกเขาจะไปเร็วกว่าเรา เราในที่นี้หมายถึงหอสมุดพระราชวังสนามจันทร์ ในสภาพที่ไม่มีโปรแกรมเมอร์มานั่งทำงานให้ แต่เราก็จะได้ทางลัดจากพวกเขา (เทศ) รวมทั้งได้ทางลัดจากพวกเรา (ไทย) มาช่วย ทั้งในเรื่องการใช้ Open Sources แนวคิดการนำไอทีมาเป็นเครื่องมือในการทำงาน ที่ช้าอีกอย่างหนึ่งคืออุปสรรคทางด้านภาษา
พวกเรามีข้อจำกัดหลายอย่าง แต่ก็ไม่อยากให้รู้สึกท้อถอย เพราะจะช่วยอะไรไม่ได้เลย เมื่อไม่รู้ ก็ถาม ก็อ่าน ก็หา ก็เปิด จนกว่าจะได้คำตอบ ….
แล้วได้อะไร…
นอกจากได้ไป… สำหรับตัวเองก็ยังได้สิ่งที่พยายาม ทำตาม trend ของวงการในเรื่อง common library ที่ชั้น 1 ศูนย์การเรียนรู้ฯ ว่านอกจากการจัดการเรื่องพื้นที่แล้ว เราคงต้องทำอะไรอีกมากมายเพื่อให้ผู้ใช้บริการของเราสามารถสร้าง content ออกมา ไม่ใช่เพียงไปนั่งเพราะสวย บรรยากาศดี มีกาแฟ
พื้นที่ตรงนั้นน่าจะเป็นแรงบันดาลใจให้นักศึกษาได้คิดอะไรๆ ขึ้นมา โดยมีพวกเราเข้าไปมีส่วนร่วมสร้างให้เกิดและสนับสนุน เรื่องพวกนี้ค่อนข้างยากแต่จำเป็นต้องช่วยกันคิด เราคงอยู่นิ่งๆ กับที่แล้วคอยให้ผู้ใช้บริการเข้ามาถามคงไม่ได้ ถึงเวลาที่เราจะต้องออกไปถามผู้ใช้บริการว่าต้องการสิ่งไหนแล้วบอกว่าเรามีผลิตภัณฑ์อะไรอยู่ในมือบ้าง
ตัวอย่างการใช้เทคโนโลยี เราตามเค้าได้ เรื่องแบบนี้พอมีคนช่วยเราได้ ขอเพียงเรารู้จัก หรือไปทำความรู้จัก
แผนพัฒนาบุคลากร ของเขามีความจริงจัง ทุ่มทุน ขณะเดียวกันก็มีวิธีการที่ดึงกลับมาให้คนที่ได้ไปนำใช้ทุนคืนอย่างแยบยล ผ่านการประเมินผล
บรรยากาศการทำงาน บางเวลาเรามักคิดว่าเราทำงานหนัก แต่บางทีเราก็อาจคิดผิด เมื่อเทียบกับปริมาณงาน ปริมาณคนกับเวลา แต่เราไม่รู้ว่าที่ดีมันควรแค่ไหนและอย่างไร ตราบใดที่เรายังไม่ตกลงกันตามบริบทของเรา แบบยืนตรงกลางและไม่โอนเอียง
การเดินทางไม่ว่าใกล้แม้สักก้าว หรือไกลๆ เป็นหมื่นไมล์ ได้อะไรมากมายหากเราฟังและคิด
เราได้แบบนี้มานะ….
ทั้งแผนงานและงานที่ต้องสร้างรออยู่ไหวๆ