วัดหลักสี่ราษฎร์สโมสร จังหวัดสมุทรสาคร
วัดหลักสี่ราษฎร์สโมสร เป็นวัดราษฎร์ เดิมชื่อวัดใหม่หลักสี่ราษฎร์ศรัทธา ตั้งขึ้นเมื่อปีมะโรง พุทธศักราช ๒๔๗๑ โดยที่ประชาชนที่อยู่ในบริเวณหลักสี่และบริเวณกึ่งกลางคลองดำเนินสะดวกรวมตัวกัน สร้างขึ้นบนที่ดินของนายแจ่ม วาสุกรี ผู้มีจิตศรัทธายกที่ดินถวายให้เป็นที่ธรณีสงฆ์สำหรับสร้างวัด ในเบื้องแรกของการสร้างวัด มีเพียงกุฏิมุงด้วยจากหลังเดียว ต่อมาได้รับการถวายบ้านเก่าเป็นฝากระดานบ้าง ฝาขัดแตะบ้าง ทางวัดได้รื้อถอนมาปลูกเป็นกุฏิสงฆ์เพิ่มขึ้น และได้ตั้งชื่อวัด ตามชื่อหลักแบ่งเขตคลองว่า วัดใหม่หลักสี่ ตั้งอยู่ในมณฑลนครไชยศรี ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น วัดหลักสี่ราษฎร์สโมสร ปัจจุบันตั้งอยู่เลขที่ ๑๗ หมู่ ๒ ตำบลยกกระบัตร อำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย มาถึงทุกวันนี้
หลวงพ่อโต ไม่ปรากฏหลักฐานการสร้าง และผู้สร้างแต่อย่างใด แต่สันนิษฐานตามพุทธลักษณะแล้ว เชื่อว่าเป็นพระพุทธรูปโบราณ สืบอายุยืนนานมาแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี แต่เดิมหลวงพ่อโตเป็นพระพุทธรูปในวัดแห่งหนึ่งในจังหวัดสมุทรสงคราม ต่อมาวัดดังกล่าวได้ถูกทิ้งให้ร้าง ภายหลังได้พังทลายไปในแม่น้ำแม่กลอง คงเหลือแต่หลวงพ่อโตถูกทอดทิ้งให้ตากแดด ตากฝนบนเนื้อที่เพียงนิดเดียว ต่อมาหลวงพ่อแฟง (เจ้าอาวาสรูปที่ ๒ ของวัดหลักสี่ฯ) ได้อัญเชิญท่านไปประดิษฐานเป็นกาลชั่วคราวที่วัดดอนมโนรา เมื่อหลวงพ่อโตไปอยู่วัดดอนมโนรานั้น มีสภาพชำรุดทรุดโทรมมาก แต่ก็ยังไม่ได้รับการบูรณะตบแต่งแต่อย่างใด ต่อมา ประชาชนชาวหลักสี่ ได้พร้อมใจกันไปอาราธนา หลวงพ่อแฟง ให้ไปดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดหลักสี่ฯ สืบต่อจากหลวงพ่ออำ ซึ่งได้สละตำแหน่งเจ้าอาวาสไปอยู่ที่อื่น หลวงพ่อแฟงเห็นแก่ลูกหลานและศิษายานุศิษย์ของท่าน จึงรับอาราธนาไปเป็นเจ้าอาวาส และขอนำหลวงพ่อโตไปด้วย เมื่อท่านมารับตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาส ท่านจึงได้บอกแก่ชาวบ้าน และลูกหลานให้ไปช่วยกันอัญเชิญหลวงพ่อโตมาจากวัดดอนมโนรา
ปี พ.ศ.2470 หลวงพ่อแฟงได้ย้ายมาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดหลักสี่ จึงได้อัญเชิญพระพุทธรูปโบราณดังกล่าวมาประดิษฐานในวิหารหลังคามุงจาก หน้าวัดหลักสี่บริเวณริมคลองดำเนินสะดวก ชาวบ้านคงเห็นว่าเป็นพระพุทธรูปองค์แรก และองค์โตที่สุดในลุ่มน้ำคลองดำเนินสะดวก จึงพากันขนานนามว่าหลวงพ่อโตวัดหลักสี่ ตั้งแต่นั้นมาเป็นตำนานเล่าขานจากรุ่นสู่รุ่นถึงปาฏิหาริย์ หลวงพ่อโตในวิหารมุงจากไม่หยุดหย่อน เคยมีชาวบ้านหลายรายอ้างว่ามองผ่านทุ่งนา เห็นดวงไฟลูกใหญ่พุ่งจากวิหารขึ้นสู่ท้องฟ้าหลายครั้ง ต่างเชื่อกันว่าหลวงพ่อโตสำแดงอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ ในสมัยก่อนพ่อค้าแม่ค้าแม่ค้าล่องเรือบรรทุกผักผลไม้เต็มลำเรือผ่านหน้าวิหาร ก็ไม่ลืมที่จะพนมมือเหนือหัวขอพรให้ขายของดีๆ แล้วตักน้ำคลองบริเวณหน้าวิหารไปทำน้ำมนต์พรมไปบนสินค้าในเรือ พืชผักในเรือก็ขายดีอย่างเหลือเชื่อมีเท่าไหร่ก็ขายหมด พอขากลับก็ไม่ลืมที่จะซื้อ ผลไม้ พวงมาลัยมาถวายและที่ขาดไม่ได้คือประทัดจุดกันดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่วคุ้งน้ำ แหล่งที่มาhttp://www.amulet24.com
วิหารหลวงพ่อโต ศาลาทรงไทยจตุรมุข
ศาลาทรงจตุรมุขหลังนี้ประดิษฐานหลวงพ่อโตหันหน้าไปทางคลองดำเนินสะดวก
พระพุทธศิลป์ที่ดูแปลกตา มีพระอัครสาวกเบื้องซ้าย และเบื้องขวานั่งพนมมือ
หลวงพ่อโตวัดหลักสี่เป็นพระพุทธรูปโบราณเนื้อหินทรายแดงฉาบปูน
มีพระพักตร์เอิบอิ่มยิ้ม หน้าตักกว้าง 81 นิ้ว สูง 99 นิ้ว
เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย
หากต้องการถวายสังฆทานพระสงฆ์ ก็มีอยู่ในศาลาติดกับวิหารหลวงพ่อโต
วัดหลักสี่บริเวณริมคลองดำเนินสะดวก
ตลาดน้ำวัดหลักสี่