วัดม่วง จังหวัดอ่างทอง
ความเป็นมาของวัดม่วง นั้น สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นตั้งแต่ในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ซึ่งในสมัยนั้นเมืองวิเศษชัยชาญเคยเป็นเมืองหน้าด่านที่มีความเจริญรุ่งเรืองมาก หลังจากที่กรุงศรีอยุธยาเสียกรุงวัดวาอาราม และพระพุทธรูปจำนวนมาก็ถูกเผาจนเหลือแต่ซากปรักหักพัง ซึ่งวัดม่วงก็ถูกปล่อยให้รกร้างแต่นั้นมา จนเมื่อปี พ.ศ.2525 หลวงพ่อเกษม อาจารสุโภ ได้ธุดงค์มาปักกรดบริเวณนี้ ตามนิมิตที่นิมนต์ให้ท่านมาบูรณะวัดม่วงขึ้นมาใหม่อีกครั้ง และในปี พ.ศ.2534 หลวงพ่อเกษมฯ ได้วางศิลาฤกษ์เพื่อก่อสร้างพระพุทธรูปปางมารวิชัย ที่มีหน้าตักกว้าง 63 เมตร สูง 95 เมตร โดยให้พระนามอย่างเป็นทางการว่า “พระพุทธมหานวมินทรศากยมุนีศรีวิเศษชัยชาญ” แต่เช้าบ้างมักเรียกกันติดปากว่า “หลวงพ่อใหญ่”มากกว่า ซึ่งก่อนที่หลวงพ่อเกษมฯ จะมรณะภาพลง ท่านได้สั่งเสียศิษยานุศิษย์ให้ดำเนินการสร้างให้แล้วเสร็จ เพื่อเป็นพระมหากุศลแด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งการก่อสร้างได้สำเร็จลุล่วงในปีพ.ศ.2550 รวมเวลาในการสร้างทั้งหมด 16 ปี ด้วยงบประมาณทั้งสิ้น 131 ล้านบาท จากเงินบริจาคด้วยจิตศรัทธาของพุทธศาสนิกชนทั้งสิ้น
นอกจากองค์พระใหญ่แล้ว ในบริเวณวัดยังมีสิ่งอื่นๆ ที่มีความน่าสนใจไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน เช่น วิหารด้านข้างที่ประดิษฐานองค์พระโพธิสัตว์กวนอิมปางพันกร ที่มีความยิ่งใหญ่และสง่างามเป็นอย่างยิ่ง ถัดไปที่บริเวณใกล้เคียงกันจะเป็นที่ตั้งของ “วิหารแก้ว” ซึ่งเป็นวิหารที่ใช้กระจกชิ้นเล็กๆ ประดับตกแต่งทั่วทั้งหลัง ทำให้วิหารแห่งนี้มีความวิจิตรงดงามตระการตายิ่งนัก ซึ่งภายในวิหารยังมีพระพุทธรูปเนื้อเงินแท้ประดิษฐานเป็นพระประธาน ด้านข้างรายรอบด้วยรูปหล่อทองเหลืองของพระเกจิอาจารย์ชื่อดัง ออกจากวิหารแก้วแล้วบริเวณสวนภายในวัดมีรูปปูนปั้นต่างๆ จัดแสดงไว้มากมาย ทั้งเรื่องราวของแดนนรก ที่จะบอกให้เราได้รู้ว่าถ้าทำบาปอะไรแล้วจะต้องได้รับกรรมอะไรบ้าง ซึ่งในส่วนนี้จะเป็นการแฝงคติธรรมคำสอนเรื่องบาป บุญ คุณ โทษ ตามความเชื่อทางพุทธศาสนา ให้เราได้ละอายต่อการทำบาป นอกจากนี้ยังมีรูปปูนปั้นของเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ไทย รวมไปถึงรูปปูนปั้นของตัวละครในวรรณคดี และอื่นๆ อีกมากมาย ส่วนสุดท้ายที่ห้ามพลาดนั่นก็คือ “อุโบสถ” ของวัดม่วงที่ถูกล้อมรอบไว้ด้วยกลีบดอกบัวขนาดยักษ์ ซึ่งจัดว่าเป็นอุโบสถที่ตั้งอยู่กลางดอกบัวที่ใหญ่ที่สุดในโลก บริเวณภายในดอกบัวรอบๆ อุโบสถประดิษฐานรูปปั้นเหมือนของพระเกจิอาจารย์ชื่อดังจากทั่วประเทศ
วิหารแก้ว
“วิหารแก้ว” วิหารที่ใช้กระจกชิ้นเล็กๆ ประดับตกแต่งทั่วทั้งหลัง
พระอุโบสถล้อมรอบด้วยกลีบบัว
หลวงพ่อใหญ่ หรือ พระพุทธมหานวมินทรศากยมุนีศรีวิเศษชัยชาญ
มีขนาดหน้าตักกว้างกินพื้นที่ประมาณ 1 ไร่ และมีความสูงเทียบได้กับตึก 35 ชั้น เป็นพระพุทธรูปที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
ระยะเวลาในการสร้างหลวงพ่อใหญ่ เริ่มตัั้งแต่วางศิลาฤกษ์ในปี พ.ศ.2534 จนแล้วเสร็จในปี พ.ศ.2550 รวมเวลาประมาณ 16 ปี
ถ้าไปถ่ายรูป “หลวงพ่อใหญ่” ให้ไปช่วงเช้านะครับ ช่วงบ่ายจะเป็นการถ่ายภาพย้อนแสงครับ พื้นที่วัดส่วนใหญ่ โดยเฉพาะบริเวณที่ประดิษฐานหลวงพ่อใหญ่ จะมีแดดร้อนมากในช่วงกลางวัน แนะนำให้นำร่ม หมวก หรืออุปกรณ์กันแดดอื่นๆ พกติดตัวมาด้วย
แหล่งข้อมูล http://www.thetrippacker.com