เรื่องของคนขี้ลืม

25 February 2015
Posted by tanawan

เมื่อประมาณสัปดาห์ก่อนสามีกลับมาจากจังหวัดกาญจนบุรี นำข้าวโพดมาฝาก จำนวน 12 ฝัก  โดยสามีบอกว่าลูกน้องคนโปรดฝากมาให้พี่หนิง โดยไปหักจากไร่ตอนประมาณ ตี 4 ด้วยตนเอง ทั้ง ๆ ที่แพ้ต้นข้าวโพด เพราะจะคันกับขนข้องต้นข้าวโพด แต่อยากให้พี่ ๆ ทั้งสองได้ทานสดหวานจากไร่  ที่ต้องเข้าไปหักตอนตี 4 เพราะประมาณตี 5 พ่อค้าที่มารับซื้อแบบเหมาทั้งไร่ จะเอาแรงงานเข้ามาหักทั้งหมด จึงต้องเข้าไปชิงหักก่อนตอนตี 4  หลังจากได้ข้าวโพดมาประมาณ 2 วัน ดิฉันจึงได้ทำการต้มข้าวโพดในเวลาประมาณ 3 ทุ่ม ด้วยเตาแก๊สที่ตั้งอยู่นอกบ้าน (ข้างบ้าน) ระหว่างรอข้าวโพดสุก ดิฉันจึงได้ปิดประตูบ้าน 2 ระดับ (มีประตู 3 ระดับ) เพื่อ chat กับเพื่อนใน facebook  แต่เพื่อนรู้สึกว่า “ไม่มันส์/พิมพ์ไม่ทันใจ”  จึงโทรมาคุย  คุยกันไปเรื่อย จนเวลาผ่านไปประมาณ 1 ชั่วโมงกว่า โดยเพื่อนได้พูดถึงความน่ากลัวของการอยู่บ้านเพียงลำพังคนเดียวของดิฉัน และยกกรณีตัวอย่างของโจรฆ่าข่มขืนคนแก่ สาธยายถึงความเฉลียวฉลาดของโจรรายนี้ โดยเพื่อนบอกว่าสามีของเพื่อนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจหนึ่งในทีมงานที่กำลังสืบจับโจรรายนี้อยู่ โดยเพื่อนบอกว่าแม้กระทั่งนักจิตวิทยายังให้ความเห็นว่า “เป็นคนปกติที่ฉลาดมาก ไม่ใช่คนสติไม่ดี มีการวางแผนเป็นอย่างดี” ดิฉันฟังมากจนเกิดความกลัว/ขาดสติ จึงกดปิดประตูรีโมทอีกชั้นหนึ่ง (ระดับที่ 3)  จนกระทั่งสามีโทรมาจึงได้วางสายจากเพื่อนเพื่อคุยกับสามีต่อ หลังจากนั้นก็รีบขึ้นไปนอนทันที โดยไม่ได้คิดเลยว่า ตนเองกำลังต้มข้าวโพดอยู่
จนกระทั่งรุ่งเช้า ได้สะดุ้งตื่นขึ้นมาและรับรู้เหมือนว่ามีใครมาบอกว่าต้มข้าวโพดค้างไว้นะ จึงรีบลุกและวิ่งลงมาจากห้องนอนทันที ขณะที่วิ่งลงมาก็คิดไปต่าง ๆ นานา ว่าบ้านยังเหลือไหม ไหม้ไปกี่หลังแล้ว ไหม้หมดหรือยัง ไหม้ถึงบ้านไหนแล้ว ฯลฯ แต่ปรากฏว่า ภาพที่เห็นคือ ไม่มีอะไรไหม้ นอกจาก “มีหม้อไหม้กับข้าวโพดไหม้ตั้งอยู่บนเตาแก๊สเหมือนเดิม” ดิฉันจึงเอามือหมุนวาล์วถังแก๊ส ก็พบว่า “แก๊สหมด” ดิฉันรู้สึกโล่งงงง และนึกขอบคุณเจ้าบ้านเจ้าเรือนสิ่งศักดิ็์สิทธิ์ทั้งหลายที่มาช่วยไว้ หรืออาจเป็นเพราะผลบุญผลกรรมของเราเองก็ตาม
DSC03047 DSC03048
จากเหตุการณ์ในครั้งนี้ ดิฉันรู้สึก “เข็ดขยาด” กับความประมาทของตนเองในครั้งนี้ ซึ่งหากดิฉันมีสติกับสิ่งที่กำลังกระทำ ไม่เผลอเรอมานั่งคุยโทรศัพท์อยู่เป็นนานสองนาน ระหว่างคุยโทรศัพท์ก็ยังขาดสติซ้ำซ้อนอีก เพราะคิดตามและกลัวตามคำพูดของเพื่อน ในวันนั้นหากแก๊สไม่หมด ดิฉันก็ไม่อยากจะคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น… จึงอยากนำเรื่องนี้มาเล่าเพื่อเตือนเพื่อน ๆ บางท่านที่กำลังประสบกับปัญหาอาการหลง ๆ ลืม ๆ โดยเฉพาะคุณผู้หญิง
ภาวะขี้หลงขี้ลืมในคุณผู้หญิง
          ถ้าจะว่าไปแล้ว คุณผู้หญิงหลาย ๆ ท่าน อาจจะเคยประสบกับปัญหารบกวนจิตใจ เกี่ยวกับการขี้หลงขี้ลืม อาทิเช่น ลืมไปว่าเอากุญแจวางไว้ที่ไหน หรือลืมไปว่ากำลังจะพูดอะไร หรือแม้แต่ลืมว่าคนที่เพิ่ง จะคุยกันนั้นนะชื่ออะไร
          ปัญหาที่เกิดขึ้นเหล่านี้ คุณผู้หญิงวัยกลางคนทั้งหลาย จึงพากันขนานนามว่า “Mental fog” หรือภาวะสุขภาพจิตถดถอย ซึ่งสามารถจำแนกสาเหตุสำคัญดังนี้
1.ภาวะพร่องสารอาหาร
          งานวิจัยหลาย ๆ ชิ้น ได้แสดงว่า คุณผู้หญิงมักจะมีภาวะการพร่องสารอาหารมากกว่าคุณผู้ชาย รวมทั้งสารอาหารที่เกี่ยวกับสมอง และยิ่งถ้าคุณเป็นผู้หญิงวัยทำงาน ที่นิยมเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ ชา กาแฟ หรือน้ำตาลล่ะก็ ความสามารถในการคิด และจดจำในสิ่งต่าง ๆ ก็พลอยจะแย่ลงไปด้วย ทั้งนี้เนื่องมาจากแอลกอฮอล์ ที่คุณทานเข้าไปนั้น สามารถทำให้เกิดภาวะการพร่องวิตามิน B ตามมา ซึ่งเจ้าวิตามินนี่แหละที่จำเป็นต่อสุขภาพที่ดีของสมองและการจดจำ ส่วนคาเฟอีนที่มีอยู่ในเครื่องดื่ม ชา กาแฟ โคลา แสนอร่อย หากรับประทานมากเกินไป ก็อาจจะส่งผลเสียต่อความสามารถในการจดจำ และเจ้าน้ำตาลตัวดีหรือแม้แต่สารให้ความหวานอื่น ๆ เช่น Aspartame ก็เช่นเดียวกันก็อาจจะส่งผลร้ายต่อสติปัญญาของคุณได้
          ดังนั้น คุณผู้หญิงทั้งหลาย ก็ควรจะรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่ครบถ้วน โดยอาจจะเลือกบริโภคอาหารที่ไม่ได้ผ่านกรรมวิธี ที่ทำให้เสียคุณค่าทางอาหาร เช่น เลือกทานข้าวซ้อมมือหรือข้าวโอ๊ตที่ไม่ได้มีการขัดสี หรืออาจรับประทานอาหารเสริมที่ช่วยบำรุงระบบประสาท และที่สำคัญควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ชา กาแฟ และเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง ๆ
2.ภาวะซึมเศร้าและปัญหาทางร่างกาย
          ภาวะซึมเศร้าได้ส่งผลต่อความจำ สมาธิ และความรวดเร็วในการคิดต่อสิ่งต่าง ๆ ในคุณผู้หญิงได้มากกว่าคุณผู้ชายถึงเท่าตัว จนอาจนำไปสู่ภาวะของร่างกายและจิตใจที่เบื่อหน่ายและท้อแท้ , ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ และความผิดปกติของสมดุลฮอร์โมนไทรอยด์ ซึ่งปัญหาเหล่านี้อาจลุกลามไปยังระบบต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น การอุดตันของหลอดเลือดต่าง ๆ ในระบบไหลเวียนโลหิต รวมทั้งหลอดเลือดสมอง ซึ่งจะก่อให้เกิดพยาธิสภาพของสมองและระบบประสาทได้ในที่สุด
          ดังนั้น คุณผู้หญิงทั้งหลาย ควรทำจิตใจให้ร่าเริงแจ่มใส ขจัดความเศร้าหมอง และต้องหมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะเป็น การเดิน วิ่ง เต้นรำ ตีลังกายกหกสูง ว่ายน้ำแบบกรรเชียง หรือแม้แต่เตะ ๆ ต่อย ๆ แบบกังฟูก็เถอะ สิ่งเหล่านี้สามารถช่วยคุณป้องกันปัญหาต่าง ๆ มากมาย ทั้งเรื่องความจำ โรคที่เกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือด เบาหวาน สมดุลของฮอร์โมน ภาวะซึมเศร้า ความเครียด และการนอนไม่หลับ และที่สำคัญอีกประการก็คือ ได้มีงานวิจัยออกมายืนยันว่าผู้ที่ออกกำลังกายเป็นประจำ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบประสาท ลดโอกาสการเกิดโรคอัลไซเมอร์ หรือโรคสมองเสื่อมได้
3.วิถีการดำเนินชีวิตของแต่ละคน
           ภาวะเครียดเรื้อรัง ของคุณผู้หญิงหลาย ๆ ท่านทั้งเรื่องงานและครอบครัว อาจจะนำไปสู่ภาวะที่ฮอร์โมนเอสโตรเจนลดลง ซึ่งจะทำให้เกิดผลต่อระบบการทำงานของสมอง เกิดความเบื่อหน่ายทั้งร่างกายและจิตใจ จนนำไปสู่ภาวะที่ร่างกายและจิตใจเหนื่อยล้าตามมา
           การสูบบุหรี่ การวิจัยพบว่าผู้ที่สูบบุหรี่มีแนวโน้มที่สุขภาพจิตจะเสื่อมถอย และมีโอกาสเกิดโรคอัลไซเมอร์ หรือโรคสมองเสื่อมตามมาได้มากกว่าผู้ที่ไม่สูบบุหรี่
           การใช้ยาต่าง ๆ เช่น ยากล่อมประสาท ยาแก้ปวด ซึ่งกรณีที่หากนำมาใช้รวมกันหลาย ๆ ตัว ก็อาจจะก่อให้เกิดผลข้างเคียงบางอย่างที่เกี่ยวกับภาวะทางสมอง เช่น ภาวะสุขภาพจิตถดถอย การขาดสมาธิหรือความตั้งใจในการทำสิ่งต่าง ๆ แย่ลง
            การนอนหลับไม่เพียงพอ การวิจัยพบว่า ผู้ที่นอนหลับไม่เพียงพอจะทำให้การเรียนรู้ จดจำ และสร้างสมาธิต่อสิ่งต่าง ๆ ไม่ดีเท่ากับผู้ที่นอนหลับเพียงพอ 
     
4.ภาวะขาดสมดุลฮอร์โมน
          คุณผู้หญิงหลาย ๆ ท่าน อาจจะเคยประสบปัญหาที่เกิดจากฮอร์โมนเอสโตรเจนขึ้น ๆ ลง ๆ โดยเฉพาะช่วงที่มีประจำเดือน หรือช่วงที่ใกล้จะหมดประจำเดือนในสตรีวัยทอง ทั้งนี้เป็นเพราะการขาดเอสโตรเจนหรือฮอร์โมนชนิดอื่น ๆ ได้แก่ Pregnenolone ,DHEA, Melatonin และ Growth hormone ก็จะทำให้เกิดปัญหาในเรื่องของความจำตามมาได้เช่นกัน ดังนั้นคุณผู้หญิงทั้งหลาย จึงควรจะเข้ารับการตรวจหาระดับของฮอร์โมนที่มี อยู่ รวมทั้งขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญทางด้านสุขภาพ เพื่อคัดเลือกสารทดแทนฮอร์โมนที่มาจากธรรมชาติให้เหมาะกับคุณ
 แหล่งอ้างอิง :  http://health.kapook.com/view9293.html  [24 กุมภาพันธ์ 2558]

2 thoughts on “เรื่องของคนขี้ลืม

Leave a Reply

Tags

blog CONSAL KPI PULINET การจัดการความรู้ การดูแลสุขภาพ การทำงาน การท่องเที่ยว การบริการ การปฏิบัติงานล่วงเวลา การประชาสัมพันธ์ การพัฒนาตนเอง การพัฒนาบุคลากร การลงรายการ การศึกษาดูงาน การอ่าน การเรียนออนไลน์ กิจกรรมสำหรับเด็ก กิจกรรมส่งเสริมการอ่าน กิจกรรมห้องสมุด ความสุข ค่ายห้องสมุด งานบริการ ธรรมะ นวนิยาย นักเขียน บรรณารักษ์ บริการชุมชน ประกันคุณภาพ ภาพถ่าย ภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยศิลปากร ระบบห้องสมุดอัตโนมัติ วัด วันสำคัญ วารสาร สัมมนา สุขภาพ หนังสือ หนังสือบริจาค หนังสือและการอ่าน หอสมุดพระราชวังสนามจันทร์ ห้องสมุด ห้องสมุด 24 ชั่วโมง อาหาร