เมื่อเข้าวันที่ 5 กย 57 ดูรายทีวีรายการหนึ่งพูดถึงพระขี่ม้าบิณธบาตรวัดถ้ำป่าอาชาทอง อยู่ในถิ่นกันดารห่างไกลจากชุมชน และอยู่บนดอยสูง ต.ศรีค้ำ อ.แม่จัน จ.เชียงราย เป็นวัดที่มีความเป็นเอกลักษณ์อยู่ตรงที่ เวลาที่พระจะออกบิณฑบาตรนั้นต้องใช้ม้าในการเดินทาง เนื่องจากสมัยก่อนทางระหว่างไปวัดกับชุมชนนั้นลำบากมีบรรทุกสัมภาระ เหตุนี้เจ้าอาวาสของสำนักสงฆ์อดีตนายทหารม้าเก่า จึงให้พระเณรที่นี้ใช้ม้าเป็นพาหนะในการออกบิณฑบาตรไปย้งหมู่บ้านสี่หมื่นไร่ วิงเป็นระยะทางไกลถึง 5 กม. จึงเป็นที่เรียกขานกันมาตั้งแต่นั้นมาว่า พระขี่ม้าบิณฑบาตร
แต่เดิมเจ้าอาวาสของสำนักสงฆ์วัดถ้ำป่าอาชาทองได้ไปโปรดชาวเขา และให้คำแนะนำการใช้ชีวิตอย่างมีสติให้กับชาวเขา ซึ่งส่วนมากชาวเขาจะนับถือผีกัน จึงเป็นเรื่องยากที่จะให้คำสอนแต่ท่านก็เป็นที่เคารพและนับถือของชาวเขา ในเวลาต่อมาหลังจากที่พระเจ้าอาวาสได้เผยแผ่คำสอนพระพุทธศาสนามาเป็นระยะเวลาหนึ่ง จนเป็นที่เคารพนับถือของชาวบ้านและชาวเขาระเวกนั้น ทางคณะสงฆ์ในสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายกได้เข้ามาติดตามและดูแล ทางวัดถ้ำป่าอาชาทองจึงได้มีการจัดทำโครงการต่างๆ ขึ้น อาทิ โครงการมิตรมวลชน คนชายแดนในพระอุปถัมภ์ในสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก และได้มีการจัดกิจกรรมต่างๆที่ชักชวนให้ชาวเขาเพื่อลดปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นกับเยาวชนหรืออบายมุขต่างๆ เช่น มีการทำสร้างสถานที่ชกมวยในเขตบริเวณวัด สอนให้เยาวชนชาวเขาตีกลองใหญ่ กิจกรรมบวชภาคฤดูร้อนของเยาวชนที่ว่างตอนปิดเทอมที่อย่างจะศึกษาพระธรรม ทางวัดถ้ำป่าอาชาทองได้มีการจัดทำรายงานต่างๆส่งให้กับทางสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายกเป็นระยะๆ
ในปัจจุบันเจ้าอาวาสได้มีการแบ่งพื้นที่ในส่วนของวัดให้กับชาวบ้านหรือชาวเขาเพื่อจัดทำเป็นหมู่บ้านรักม้าขึ้นโดยจะสร้างเป็นที่เลี้ยงม้าและเป็นแหล่งท่องเที่ยวจัดให้มีการปลูกผักต้นไม้ พืชผลต่างๆให้ชาวเขาขายให้กับนักท่องเที่ยวช่วยสร้างรายได้ให้กับชาวเขาและยังสร้างจิตสำนึกที่ดีให้กับชาวเขาหรือชาวบ้านให้มีจิตใจที่อ่อนโยนรู้จักการทำความดีจากการเลี้ยงม้าได้อีกด้าย
ข้อมูลจาก http://tripgochangrai.wordpress.com/2010/11/วันนี้…ที่เชียงราย