การเรียนภาษาจีน

    หลังจากที่ห่างหายจากบล็อกไปนาน วันนี้ดิฉันจะมาเล่าประสบการณ์จากการได้ไปศึกษาที่ประเทศจีน ที่มหาวิทยาลัยหัวเฉียว วิทยาเขตหัวเหวินเสวียเยวี่ยน เมืองเซียะเหมิน มณฑลฮกเกี้ยน ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน  มีทิวทัศน์ที่สวยงามมากใกล้ภูเขาและทะเล การคมนาคมสะดวกสบายมีรถประจำทางวิ่งผ่าน ใกล้กับสนามบินเกาฉี  ได้มีโอกาสไปเรียนภาษาจีน 1 ปี เป็นการปูพื้นฐานภาษาจีน ซึ่งที่นี่สามารถจะข้ามไปเรียนระดับปีหนึ่งเทอมสอง ปีสองก็ได้ ขึ้นอยู่กับระดับความรู้ทางภาษาของเรา ว่าจะข้ามไปเรียนระดับไหน หรือใครที่อยากจะมีพื้นฐานที่แน่นก็สามารถเลือกเรียนปีหนึ่งได้
วิชาที่เรียนประกอบด้วย วิชาหลักภาษาจีน เน้นให้ผู้เรียนสามารถ อ่านคำศัพท์ เนื้อหาของบทเรียน การเขียนตัวอักษรจีนตามลำดับขีดก่อนหลัง เข้าใจหลักไวยากรณ์ภาษาจีน สามารถแต่งประโยคโดยนำไวยากรณ์ภาษาจีนมาใช้ เช่น ประธาน กริยา กรรม ฯลฯ วิชาภาษาจีนการฟังชั้นต้น เน้นทักษะการฟังภาษาจีน ในเบื้องต้นของการเรียน เป็นการฝึกทักษะการจำแนกเสียงพินอิน (การออกเสียงของภาษาจีน ซึ่ง พินอิน ประกอบด้วย พยัญชนะ สระ วรรณยุกต์) การฟังบทสนทนาสถานการณ์ต่าง ๆ ให้ผู้เรียนทุกคนได้มีส่วนร่วมในการเรียน การตอบคำถามจากการฟัง ในหัวข้อที่ผู้เรียนยังไม่เข้าใจ อาจารย์ผู้สอนจะอธิบายและให้ฟังบทสนทนานั้นๆอีกครั้ง วิชาภาษาจีนการพูดขั้นต้น  เน้นทักษะการพูดสนทนาในชีวิตประจำวัน การสร้างสถานการณ์จำลองให้นักศึกษาได้ฝึกการใช้ภาษาในห้องเรียน มีทั้งการพูดเดี่ยวหน้าชั้นเรียน การพูดสนทนาเป็นกลุ่ม เป็นต้น วิชาภาษาจีนการอ่านขั้นต้น เน้นทักษะการอ่าน การอ่านคำศัพท์ อาจารย์สอนเทคนิคการอ่านและจำคำศัพท์ เนื่องจากอักษรจีนมีเป็นจำนวนมากและมีลักษณะคล้ายๆกันขีดอักษรขาดหรือเกินเพียงนิดเดียวความหมายและการอ่านผิดไปจากคำเดิม โดยมีเทคนิคคืออักษรนำ หรือผาง ซึ่งจะช่วยให้สามารถจำคำศัพท์ได้รวดเร็วขึ้น การอ่านบทความเนื้อหาเกี่ยวกับวัฒนธรรมจีน สิ่งที่ขาดไม่ได้ในการเรียนภาษาสำหรับชาวต่างชาติ คือ พจนานุกรม ซึ่งจะช่วยให้เรารู้ความหมายของคำศัพท์นั้นๆและทำให้เราเข้าใจเนื้อหาในบทเรียนมากขึ้น บางคนนำพจนานุกรมแบบที่เป็นตัวเล่มไปด้วย บางคนใช้ talking dict หรือการโหลด app โทรศัพท์ ที่ชื่อ pleco เพื่อความสะดวกในการหาศัพท์ จะใช้แบบไหนขึ้นอยู่กับความถนัดของแต่ละบุคคล ส่วนตัวดิฉันเองใช้ talking dict และ pleco ควบคู่กันไปค่ะ
นอกจากนี้ยังมีวิชาเลือก ซึ่งทางมหาวิทยาลัยกำหนดวิชาเลือกให้ ดังนี้ วิชาพละ นักศึกษาในชั้น สามารถเลือกเรียนได้ตามความสนใจ เช่นวิชา รำกระบี่ ปิงปอง เป็นต้น ทั้งนี้นักเรียนในห้องมีความสนใจกีฬาแบ่งออกเป็นสองกลุ่มคือ กลุ่มที่สนใจเรียนปิงปองและกลุ่มที่สนใจเรียนศิลปะการต่อสู้ขั้นสูง หรือที่เรียกว่าไทจี๋ฉวน เป็นการใช้จิตขับเคลื่อนพลังภายใน ท่วงท่าสัมพันธ์กันทั้งแขนและขา ช่วยปรับสมดุลของร่างกาย
วิชาการเขียนพู่กันจีน เป็นการเรียนการเขียนตัวอักษรจีนโดยใช้พู่กันในการเขียน  อาจารย์สอนตั้งแต่การจินตนาการภาพแล้วเขียนเป็นตัวอักษรจีน การลากเส้นการลงน้ำหนัก หนักเบาตามลำดับขีดในการเขียนตัวอักษรจีน การจับพู่กัน การวางมือ ท่านั่งในการเขียน ซึ่งมีผลต่อการเขียน ควรนั่งตัวตรง เนื่องจากการนั่งผิดท่าอาจจะทำให้ผู้เขียนเมื่อยล้าเร็วขึ้น วิชาร้องเพลง เป็นการขับร้องเพลงจีน โดยอาจารย์จะเปิดเพลงให้ฟังก่อนในครั้งแรก เพื่อให้นักศึกษาได้คุ้นเคยกับเพลงและทำนอง จากนั้นอธิบายเนื้อหาในแต่ละเพลงว่ากล่าวถึงเรื่องใด การอ่านออกเสียงคำศัพท์ การเน้นเสียงหนักเบา ท่วงทำนองการร้อง โดยอาจารย์จะอ่านและร้องให้ฟังในแต่ละท่อนจากนั้นให้นักศึกษาฝึกร้องตาม เป็นการเรียนรู้ผ่านเสียงเพลง ในส่วนภาคการศึกษาที่สองยังคงมีวิชาพละ ซึ่งนักศึกษายังคงเลือกเรียนวิชาปิงปองและวิชาไทจี๋เจี้ยน ท่วงท่าการรำคล้ายเดิมโดยเพิ่มกระบี่เข้ามาเป็นอาวุธประกอบการรำ
 

ภูมิทัศน์มหาวิทยาลัย

วิชาที่เรียน
วิชาที่เรียน

 
 

One thought on “การเรียนภาษาจีน

  • ฝึกเขียนพู่กันจีนเยอะๆ ค่ะ เป็นงานศิลปะที่หายาก เอาไว้ไปออกงานกัน

Leave a Reply

Tags

blog CONSAL KPI PULINET การจัดการความรู้ การดูแลสุขภาพ การทำงาน การท่องเที่ยว การบริการ การปฏิบัติงานล่วงเวลา การประชาสัมพันธ์ การพัฒนาตนเอง การพัฒนาบุคลากร การลงรายการ การศึกษาดูงาน การอ่าน การเรียนออนไลน์ กิจกรรมสำหรับเด็ก กิจกรรมส่งเสริมการอ่าน กิจกรรมห้องสมุด ความสุข ค่ายห้องสมุด งานบริการ ธรรมะ นวนิยาย นักเขียน บรรณารักษ์ บริการชุมชน ประกันคุณภาพ ภาพถ่าย ภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยศิลปากร ระบบห้องสมุดอัตโนมัติ วัด วันสำคัญ วารสาร สัมมนา สุขภาพ หนังสือ หนังสือบริจาค หนังสือและการอ่าน หอสมุดพระราชวังสนามจันทร์ ห้องสมุด ห้องสมุด 24 ชั่วโมง อาหาร