วีรบุรุษ 6 วัย
“ชีวิต…..มีเพียงแค่นี้หรือ?”
1. วัยก่อนเข้าโรงเรียน เป็นวัยถือว่าพ่อแม่คือวีรบุรุษ – วีรสตรี ถ้าลูก – กลัว – หิว – ขับถ่าย – ดีใจ – เสียใจ ฯลฯ จะเรียกหาพ่อแม่ เพราะพ่อแม่เป็นดวงใจ เป็น วีรบุรุษ – วีรสตรีของลูก พ่อแม่จะสั่งอะไร จะสอนอะไร จะเชื่อพ่อแม่ผู้เป็นวีรบุรุษ – วีรสตรี
2. วัยประถมศึกษา เป็นวัยที่ถือว่าครูเป็นวีรบุรุษ – วีรสตรี ตอนนี้พ่อแม่จะสั่งสอนอะไร พ่อแม่จะให้ทำอะไร ไม่ยอมเชื่อพ่อแม่แล้ว แต่เชื่อครู เพราะครูเป็นวีรบุรุษ – วีรสตรี ลูกไม่รับประทานผัก แม่ไปบอกครู ตอนเย็นกลับจากโรงเรียนลูกสั่ง “แม่…แม่ ผัดผักให้กินหน่อย…เพราะครูสั่ง”
เด็กคนหนึ่งสายตาสั้น แม่ตัดแว่นตาให้ ลูกไม่ยอมสวมแว่นตา แม่ต้องเอาแว่นตาไปโรงเรียน ให้คุณครูช่วยบอกลูกสวมแว่นตา ตอนเย็นแม่ไปรับลูกกลับจากโรงเรียน เห็นลูกสวมแว่นตาดีใจ หลังจากรับประทานอาหารเย็นแล้ว ถึงเวลาอาบน้ำ แม่บอก “ลูก….ลูก…จะอาบน้ำแล้ว ถอดแว่นตาก่อนนะ” ลูกตอบว่า “ไม่ได้ ไม่ได้ เพราะครูสั่งให้สวมแว่น” ลูกไม่ยอมขัดคำสั่งคุณครูซึ่งเป็นวีรบุรุษ – วีรสตรีในดวงใจ
3. วัยมัธยมศึกษา วัยนี้เพื่อนคือวีรบุรุษ – วีรสตรีไม่ว่าเรื่องใดๆ เช่น แต่งตัว – เที่ยว – การเรียน – การพูดจา – กิริยาท่าทาง ฯลฯ จะยึดเพื่อนเป็นสรณะ พ่อแม่ครูไม่มีความหมาย ครอบครัวใดที่มีลูกอยู่ในวัยนี้พยายามดูแลการคบเพื่อน เพื่อนคนไหนดีให้เข้าบ้าน ถ้าอยากจะบอกจะแนะนำอะไรลูก บอกผ่านเพื่อนให้เพื่อนเป็นผู้บอกแทนเรา ลูกจะเต็มใจทำตาม เพราะเพื่อนเป็นผู้แนะนำ เป็นวีรบุรุษ – วีรสตรีสำหรับเขา
4. วัยหนุ่มสาว วีรบุรุษ – วีรสตรีของเขาคือ “แฟน” ถือคติว่า “เหนือฟ้า – ยังมีฟ้า…..เหนือตัวข้ายังมีแฟน” ไม่เชื่อพ่อแม่ครูและเพื่อนแล้ว เชื่อแต่แฟนเพียงผู้เดียว แฟนจะพูดอะไรจะทำอะไรก็ดีไปหมด แม่เตือนลูกสาวเรื่องแฟน ลูกสาวตอบว่า “แม่อย่ามาพูดมากนะ เดี๋ยวหนูหอบผ้าหนีตามเขาไปนะ” ฝ่ายที่มีลูกชาย แม่เตือนลูกชายเรื่องแฟน ลูกชายตอบว่า “แม่อย่าเข้าใจผิด แฟนของผมดีจะตาย ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยพบใครดีเท่านี้ แม่อย่าพูดมาก อย่ามายุ่ง เรื่องของผม เดี๋ยวผมจะพาเขาหนีไปนะ”
แม่มีแอปเปิ้ลผลโตสวยสดน่ารับประทาน ตัวเองจะรับประทานก็คิดถึงลูก ด้วยความรักลูกชาย จึงนำแอปเปิ้ลมาให้ลูกชายสุดที่รักรับประทาน “เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือตัวข้ายังมีแฟน” ลูกชายได้นำแอปเปิ้ลผลนี้ไปให้…..?
5. วัยพ่อแม่ แต่งงานด้วยการเลือกคู่เอง ด้วยความรักจนได้พยานรักคือลูก ลูกขณะนี้คือวีรบุรุษ – วีรสตรี พ่อจะเอาลูกนั่ง แม่จะเอาลูกนอน พ่อจะให้เข้าโรงเรียนนี้ แม่จะให้เข้าโรงเรียนโน้น พ่ออยากจะให้เรียนคณะนี้ แม่อยากจะให้เรียนคณะโน้น เถียงกันทะเลาะกันเรื่องของลูกผู้เป็น วีรบุรุษ – วีรสตรี บางทีลูกมึนไม่รู้จะตามใจพ่อดีหรือตามใจแม่ดี
6. วัยชรา เออ….ตอนนี้เหลือฉันเป็นฉัน บางคู่เหลือ 2 ตายาย ก็ยังเถียงกันทะเลาะกันไม่หยุด เพราะเถียงกันทะเลาะกันมานานจนเป็นนิสัย บางคู่เหลือแต่ตา บางคู่เหลือยาย ลูกๆ ก็แต่งงานแยกเรือนไปอยู่ที่อื่นตามหน้าที่การงาน บางคนคอยลูก….คอยหายๆ ไม่เห็นหน้าลูก….นึกน้อยใจตนเอง…..ไม่เห็นลูกๆ มาเยี่ยมมาเยือนเลย ลูกอกตัญญู
อันที่จริงการเลี้ยงลูกเป็นหน้าที่ของพ่อแม่ ถ้าเราทำหน้าที่อย่างดีแล้วควรภูมิใจ – พอใจ ส่วนลูก ถ้าเขามีความกตัญญูก็เป็นความดีของเขา ถ้าเขาอกตัญญูก็เป็นความชั่วของเขา ไม่ควรจะมาทำให้เราน้อยใจ
วัยชราทำให้ได้คิดว่า เราคือวีรบุรุษ – วีรสตรีของตัวเราเอง เริ่มหันมามองตนเอง…..หันมาใส่ใจตนเอง…..ดูแลอนามัยตนเอง เข้าหาพระศาสนาเพื่อขัดเกลาจิตใจตนเอง เพราะเป็นไม้ใกล้ฝั่งแล้ว ทำความดีทำบุญเพิ่มมากขึ้นเพื่อแลกเป็นอริยทรัพย์ติดตัวไปตอนตาย
เมื่อเวลาใกล้จะตาย….ต้องสละทรัพย์สมบัติทั้งหมด….. สามี – ภรรยา – ญาติพี่น้อง – ร่างกายนี้ไม่ยอมสละก็ต้องสละ…..เพราะกำลังจะตายแล้ว…..ก็จะเหลือแต่ใจ….. ให้เอาใจไปเกาะบุญ – ความดีที่เราได้เคยทำมา……เราก็จะไปสู่สุคติ
ต้องคิด
ทรัพย์สมบัติ ส่งได้แค่โรงพยาบาล
ลูกหลานญาติพี่น้อง ส่งได้แค่เชิงตะกอน
บุญความดี ส่งจนถึง ภพหน้าและทุกๆภพ
จากหนังสือ บริการเพื่อเอาบุญ โดย อารี บุญซื่อ
2 thoughts on “วีรบุรุษ 6 วัย”
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.
เพื่อนๆผ่านวัยไหนมาบ้างแล้วครับ..?
ภาษาไทย อ่านไม่ออกเลยค่ะ เป็นตัวภาษาอะไรไม่รู้ค่ะ ช่วยแก้ไขด้วยค่ะน้องวิรุฬห์