เล่าเรื่อง Zotero
Zotero คืออะไร… Zotero ใช้ทำอะไร…
ความจริงเมื่อประมาณ 2-3 ปีก่อน ในโครงการ IT & Librarian Update ของหอสมุดฯ ได้เคยมีการพูดกันถึงเรื่องนี้มาก่อน โดยคนที่มาเล่าให้ฟัง ถ้าจำไม่ผิด น่าจะเป็นพี่พัชรี แต่หลังจากนั้นก็ยังไม่ได้มีการหยิบยกมาพูดหรือทำอะไรเป็นชิ้นอันเท่าไรนัก…
วันนี้จะมาเล่าให้เพื่อนพ้องน้องพี่ฟังอย่างคร่าวๆ พอเป็นที่เข้าใจในเบื้องต้น ก่อนที่จะเข้าสู่เบื้องลึกกันต่อๆ ไป …เพราะเรื่องมันยาววววว
Zotero เป็นโปรแกรมโอเพนซอร์สที่ใช้งานร่วมกับเว็บบราวเซอร์ที่ชื่อว่า Mozilla Firefox สำหรับใช้ในการจัดทำรายการบรรณานุกรม คล้ายกับโปรแกรม EndNote (ซึ่งโปรแกรม EndNote เป็นโปรแกรมที่ต้องจัดซื้อ และมีราคาที่ค่อนข้างสูง) โดยที่แหล่งที่มาอาจเป็นเอกสารชนิดต่างๆ ที่เป็นรายการอ้างอิง เช่น หนังสือ ไฟล์ประเภท pdf รูปภาพ เอกสารฉบับเต็ม เว็บเพจ ฐานข้อมูลออนไลน์ ฐานข้อมูลห้องสมุด และไฟล์ชนิดอื่นที่สืบค้นได้จากแหล่งข้อมูลบนอินเตอร์เน็ต เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังสามารถแทรกรายการบรรณานุกรมเข้าไปในงานวิจัย รายงาน วิทยานิพนธ์ หรือบทความ และสามารถถ่ายโอนข้อมูลบรรณานุกรมที่เก็บไว้ในฐานข้อมูลส่วนตัว สร้างรูปแบบรายการบรรณานุกรมได้มาตรฐาน
Zotero สามารถสืบค้น รวบรวม ถ่ายโอน (Export) และจัดการกับรายการบรรณานุกรมอย่างเป็นระบบ สามารถจัดทำบรรณานุกรมได้หลากหลายรูปแบบ (Styles) เช่น Vancouver, APA เป็นต้น สามารถสร้างและแก้ไขรายการบรรณานุกรมตามรูปแบบต่างๆ ที่ต้องการได้ง่ายและรวดเร็ว รวมถึงสามารถแทรกรายการบรรณานุกรมที่ต้องการลงไปในรายงาน งานวิจัย วิทยานิพนธ์ หรือบทความได้ รวมถึงสามารถใช้งานร่วมกับโปรแกรมจัดการเอกสารทั่วไป เช่น โปรแกรม Microsoft Word โปรแกรมOpen Office เป็นต้น
การใช้งาน Zotero ก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไรนัก เพียงแค่…
1) ติดตั้งโปรแกรมเว็บบราวเซอร์ Mozilla Firefox (ถ้าในคอมพิวเตอร์ยังไม่มีเว็บบราวเซอร์นี้)
2) ติดตั้งโปรแกรม Zotero (สามารถดาวน์โหลดได้ที่ http://www.zotero.org)
การเรียกใช้งานโปรแกรม Zotero จะต้องเปิดเว็บบราวเซอร์ Mozilla Firefox ก่อน จะเห็นปุ่ม Zotero ที่มุมขวาล่างของหน้าจอ
Zotero แบ่งออกเป็น 3 ส่วนคือ 1) การจัดกลุ่มหรือหมวดหมู่ (Collection) ตามที่ต้องการจัดเก็บ แต่หากไม่ต้องการแยกเป็นหมวดหมู่ ทุกรายการที่สืบค้นได้จะไปเก็บอยู่ที่โฟลเดอร์ Library ทั้งหมด 2) รายการข้อมูลที่สืบค้นและจัดเก็บทั้งหมดในโฟลเดอร์ และ 3) รายละเอียดข้อมูลของรายการเรื่องนั้นๆ
เพียงเท่านี้เราก็จะได้โปรแกรม Zotero ไว้สำหรับทำรายการบรรณานุกรมกันแล้ว … 😉